แสนสิริร่วมทุนมิตซุย ฟุโดซัง6พันล้าน ผุดบ้านหรูหลังละ 14-120 ล้าน

แสนสิริร่วมทุนมิตซุย ฟุโดซัง6พันล้าน ผุดบ้านหรูหลังละ 14-120 ล้าน

แสนสิริร่วมทุนมิตซุย ฟุโดซัง เปิดตัวโครงการบ้านลักชัวรีแบรนด์“นาราสิริ-บุราสิริ” มูลค่ากว่า 6 พันล้านหลังละ 14-120 ล้าน2ทำเล บางนา กม.10 และจตุโชติาภายใต้กลยุทธ์ RESILIENT GROWTH ขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ

บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ประกาศความร่วมมือกับบริษัทมิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อร่วมพัฒนา2โครงการแนวราบาตามแผนกลยุทธ์ RESILIENT GROWTH ขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ

ซึ่งประกอบด้วย โครงการบุราสิริ จตุโชติ ตั้งอยู่ในคอมมูนิตี้จตุโชติที่อยู่ระหว่างการพัฒนาบนที่ดินขนาดกว่า 184 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,080 ล้านบาท บนที่ดินกว่า 49 ไร่ ราคาขาย 14 – 25 ล้านบาท ใกล้ทางด่วนจตุโชติ และถนนวงแหวนตะวันออก และโครงการนาราสิริ บางนา กม.10 ขนาดที่ดินกว่า 38 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,100 ล้านบาท ราคาขายเริ่ม 55 – 120 ล้านบาท  หนึ่งในแบรนด์สำคัญใน Sansiri 10 East ลักชัวรีคอมมูนิตี้แห่งใหม่กว่า 165 ไร่ ติดถนนบางนา-ตราด กม.10

บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด (MFADT) เป็นบริษัทในเครือของมิตซุย ฟุโดซัง จำกัด ในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2560 เน้นการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของมิตซุย ฟุโดซันในประเทศไทย

โดยกลุ่มมิตซุย ฟุโดซังได้พัฒนาธุรกิจในเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศตะวันตกอื่นๆ รวมถึงในจีน ไต้หวัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และออสเตรเลีย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ INNOVATION 2030 ที่กำหนดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจในต่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาและยกระดับการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ

แผนความร่วมทุนกับมิตซุย ฟุโดซัง ครั้งนี้ จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของแสนสิริตามแผนแผนธุรกิจสู่ปีที่ 40 ”NAVIGATING THE FUTURE: RESILIENT GROWTH”  เพื่อขับเคลื่อนองค์กร ควบคู่กับความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ และรักษาอันดับความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ที่พร้อมขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน

สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มอสังหาฯ อยู่ที่ 28,877 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักมาจากโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรีที่แสนสิริเป็นเจ้าตลาด  และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,009 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่อีก 15 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท