เสนาฯ ผุดคอนโดโลว์คาร์บอน หวังปลุกไลฟ์สไตล์โลว์คาร์บอน
เสนาฯเผยจุดเปลี่ยนน้ำท่วมใหญ่ ปี2557ตระหนักถึงผลกระทบโลกร้อนหันทำ“บ้านติดโซลาร์”ขยายสู่บ้าน-คอนโดโลว์คาร์บอนหวังปลุกไลฟ์สไตล์โลว์คาร์บอน
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงาน Sustainability Forum 2025 หัวข้อ “Sustainable Business Opportunities” ว่า จุดเปลี่ยนที่ทำให้เสนาฯ หันมาให้ความสำคัญกับ “ความยั่งยืน” หรือ “Sustainability” เริ่มจากช่วงเกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ ปี 2557มองว่าเป็นภัยคุกคามสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนต้องปิดไซต์ก่อสร้าง 20-30 แห่ง
จากประสบการณ์ตรงทำให้เสนาฯ ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกลายเป็นหมุดหมายที่ทำให้เสนาฯ คำนึงถึงปัญหาโลกร้อน ก่อนที่มีการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP (Conference of the Parties) โดยเริ่มจากการทำ “บ้านติดโซลาร์” หลังจากนั้นมาทำเรื่องเกี่ยวข้องกับ Green Economy หรือเศรษฐกิจสีเขียวมาอย่างต่อเนื่อง
“ระยะหลังมีการจัดการประชุมเกี่ยวกับโลกร้อนต่อเนื่อง ทำให้เกิดการตระหนักเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งการที่โลกปักหมุดไปในที่เดียวกันเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ทำให้ทุกบริษัททุกอุตสาหกรรมมีหมุดหมายเดียวกันได้”
สำหรับ เสนาฯ ใช้กระแสสีเขียว หรือ ความยั่งยืน เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจภายในองค์กรให้มีหมุดหมายที่ดีขึ้น รวมทั้งการทำงานภายนอกผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัยของคน ทั้งในมิติของการผลิตและการพัฒนาสินค้าให้คนสามารถใช้ชีวิตสีเขียวได้จริง
“คนเรามักอยากทำดีอยากช่วยเหลือสังคม อยากรักสิ่งแวดล้อม ถ้าไม่มีต้นทุนที่สูงเกินไป ไม่เหนื่อยจนเกินไป เราจึงทำคอนโดมิเนียมที่สามาราถใช้ชีวิตโลว์คาร์บอนได้”
ปลุกไลฟ์สไตล์โลว์คาร์บอน
นางสาวเกษรา กล่าวว่า เสนาฯ พยายามทำให้ทุกคนมีไลฟ์สไตล์โลว์คาร์บอนได้มากขึ้นทำอย่างไรให้ผู้บริโภคที่อยู่ในคอนโดมิเนียมของเสนาฯ สามารถใช้ชีวิตโลว์คาร์บอนได้ ซึ่งที่ผ่านมา เสนาฯ ได้ร่วมกับ “Zeroboard” บริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศญี่ปุ่นที่ใช้คลาวด์เทคโนโลยีในการคำนวณและการแสดงผลลัพธ์ในการวัดคาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์กร หรือผลิตภัณฑ์ หรือมีการติดตั้ง EV Ready ส่งเสริมการใช้รถสาธารณะโดย V Move บริการรถรับส่งฟรี ไปยังรถไฟฟ้า เพื่อลดคาร์บอน
จากประสบการณ์พบว่า กลุ่มคนที่มีรายได้ระดับกลาง-ล่าง มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก ดังนั้นต้องทำทุกอย่างให้ง่าย ที่สำคัญต้นทุนต้องไม่เพิ่มขึ้น และหากลดต้นทุนลงได้จะดึงดูดให้คนกลุ่มนี้เข้ามามีส่วนร่วม
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทุกคน “อิน” กับกระแสความยั่งยืนมากขึ้น หากเทียบ 5-6 ปีที่ผ่านมา และสิ่งที่เสนาฯ ทำถือเป็น “โอกาส” ทางธุรกิจ ด้วยการขายคอนโดมิเนียมที่สร้างความแตกต่าง และสอดคล้องกับเทรนด์ความยั่งยืนที่เปลี่ยนโลก ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
“เป็นจิตวิญญาณของเสนาฯ ที่คำนึงถึงระบบนิเวศ (Ecosystem) ของลูกบ้านสามารถลดคาร์บอนจากการดำเนินชีวิตได้ง่ายถือเป็น Agenda หลักของบริษัทกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ เพราะเราเป็นคอนโดเดียวในปัจจุบันที่โฟกัสการใช้ชีวิตแบบโลว์คาร์บอนได้”