เปิดอินไซต์! เศรษฐีเมียนมาซื้ออสังหาฯ ไทย เปย์‘บ้าน-คอนโดหรู’

เปิดอินไซต์! เศรษฐีเมียนมาซื้ออสังหาฯ ไทย เปย์‘บ้าน-คอนโดหรู’

คอลลิเออร์ส ล้วงลึกอินไซต์ “เศรษฐีเมียนมา” แห่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยดีมานด์ลูกใหม่มาแรง จ่ายหนัก 3 ทำเลยุทธศาสตร์กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ส่งผลยอดการโอนติดอันดับท็อปทรี 2 ปีซ้อน ราคาเฉลี่ย 6.5 ล้านบาทต่อยูนิต สูงกว่าจีน รัสเซีย ผงาด "Top Spender" ที่ต้องจับตามอง!

แม้ว่า “จีน” จะเป็นต่างชาติที่ครองแชมป์ซื้อห้องชุดหรือคอนโดมิเนียมในประเทศไทยมากที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังวิกฤติโควิด-19 สัดส่วนคนจีนซื้อคอนโดลดลง สวนทางกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “เมียนมา” ที่มาแรง จากรายงานสถิติการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติของศูนย์อสังหาริมทรัพย์ (REIC) พบว่าสัดส่วนของเมียนมาผงาดขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ตั้งแต่ปี2565 และต่อเนื่องมาจนถึงปี 2566 มีมูลค่า 2,250 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.3% รั้งอันดับ 3 รองจากรัสเซียและจีน ที่สำคัญมีราคาเฉลี่ย 6.5 ล้านบาทต่อยูนิต สูงกว่า จีน และรัสเซีย

คาร์โล โพเบร รองกรรมการผู้จัดการ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาโครงการ คอลลิเออร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมายอดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวเมียนมา มาแรง ติดอันดับท็อปทรี! เชิงมูลค่า ถือเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังโควิด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการเมืองในประเทศทำให้ต้องการมีบ้านหลังที่สองในไทย 

โดยมี 3 ทำเลหลักกระจายอยู่ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และ เชียงใหม่ ถือเป็นความท้าทายในการทำตลาดกับลูกค้ากลุ่มนี้ เนื่องจากมีพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างจากกลุ่มลูกค้าชาวจีนและรัสเซีย

ทั้งนี้ ชาวเมียนมาที่สนใจซื้ออสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นระดับเศรษฐี ที่นิยมซื้อคอนโดหรูระดับราคา 10-20 ล้านบาท ในทำเล สุขุมวิท พร้อมพงษ์ อโศก ที่ติดกับโรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ส่วนในกลุ่มระดับกลางนิยมซื้อคอนโดราคา 5-10 ล้านบาท ใกล้รถไฟฟ้าเดินทางสะดวก เช่น โซนอารีย์ พญาไท เพื่ออยู่อาศัยและสามารถปล่อยเช่าหรือขายต่อได้ในราคาที่สูงขึ้น

“ชาวเมียนมาที่ซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็นนิวเจนที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนเพื่อปล่อยเช่าหรือขายต่อเพื่อทำกำไรในอนาคตนิยมซื้อช่วงพรีเซลล์”

ส่วนกลุ่มที่ซื้ออสังหาฯ ในภูเก็ตจะมี “พูลวิลล่า” ระดับราคา 40 ล้านบาทขึ้นไป ทำเลลากูน่า บางเทา รวมถึง “คอนโด” ได้รับความนิยมมาก สร้างไม่ทันขาย!  เพราะกลุ่มที่เข้าไปซื้อส่วนหนึ่งทำธุรกิจในภูเก็ต ต้องการที่พักที่มีความเป็นส่วนตัวสูง พูลวิลล่า จึงตอบโจทย์

ประกอบกับจังหวัดภูเก็ต ขึ้นชื่อเป็น World Class Tourist Destination สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ติดอันดับ “TOP 10” เมืองที่เหมาะกับการ Workation  ที่สำคัญมีการลงทุนของโรงพยาบาลใหญ่ เช่น บำรุงราษฎร์ 

“ในสายตาชาวเมียนมาการมีที่อยู่อาศัยใกล้โรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งที่ผ่านมา ชาวเมียนมานิยมเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลในประเทศไทย”

นอกจากนี้ ชาวเมียนมายังสนใจซื้อ “บ้านเดี่ยว” ในเชียงใหม่ ระดับราคา 20-30 ล้านบาท เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากประเทศเมียนมา กลุ่มคนที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นรีไทร์เมนต์ และครอบครัว เน้นทำเลนอกเขตเมือง อาทิ สันกำแพง  หางดง  เป็นโอกาสดีสำหรับดีเวลลอปเปอร์ที่ต้องการขยายฐานลูกค้าต่างชาวที่มีกำลังซื้อสูงอย่างชาวเมียนมาที่ต้องการบ้านหลังที่สองในเชียงใหม่ พร้อมกับส่งลูกหลานมาเรียนด้วย

ขณะที่ผู้สูงอายุชาวเมียนมาพำนักยาว เรียกได้ว่า “เมียนมา” เป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มาแรงในตลาดอสังหาฯไทย ซึ่งเกิดแรงผลักดันจากการเมืองภายในประเทศทำให้ต้องการซื้อบ้านหลังที่สอง

“แต่พฤติกรรมของลูกค้าเมียนมาที่เข้ามาซื้ออสังหาฯ ในเมืองไทย จะแตกต่างจากชาวจีนและรัสเซีย คือ ชอบความเป็นไพรเวตไม่นิยมอยู่กันเป็นชุมชนอย่างไชน่าทาวน์ ดังนั้นการทำตลาดกับลูกค้ากลุ่มนี้จึงไม่เหมือนกับชาวจีนและรัสเซีย” 

คาร์โล ระบุว่า แนวโน้มของลูกค้าชาวเมียนมายังคงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มออกมาขยายธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้น ในรูปแบบสตาร์ตอัปถือเป็นโอกาสที่ดีของการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มนี้ แม้เชิง “จำนวนซื้อ” ไม่มากเท่ากับชาวจีนแต่ “มูลค่า” ต่อยูนิตสูง เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง