เอพี รุกหนักปี 67 ส่ง 48 โครงการใหม่ มูลค่า 5.80 หมื่นล้าน ขยายซูเปอร์ลักชัวรี

เอพี รุกหนักปี 67 ส่ง 48 โครงการใหม่ มูลค่า 5.80 หมื่นล้าน ขยายซูเปอร์ลักชัวรี

'เอพี' เร่งแผนปี 67 รุกเปิดโครงการใหม่ 48 โครงการใหม่ มูลค่า 58,000 ล้านบาท พร้อมเจาะบ้านเดี่ยว ราคา 100 ล้านบาท ขึ้นไปครั้งแรก ด้วย 2 โครงการใหม่ มุ่งลูกค้า ซูเปอร์ ลักชัวรี ประเมินสิ้นปีนี้ กวาดยอดขาย 57,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารับรู้รายได้ที่ 53,700 ล้านบาท

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนของเอพีในปี 2567 จะเป็นปีในการขยายธุรกิจอย่าง Aggressive Growth โดยมีแผนเปิด 48 โครงการใหม่ มูลค่า 58,000 ล้านบาท โดยมุ่งขยายสินค้าให้ทุกพอร์ตสินค้า บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ทั้งกรุงเทพฯ และจังหวัดใหม่ๆ ทั้ง สงขลา สุพรรณบุรี และระยอง

สำหรับโครงการใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 15 โครงการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท ทาวน์โฮมและบ้านแฝด จำนวน 23 โครงการ มูลค่า 19,300 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 12,500 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 4 โครงการ มูลค่า 3,200 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (ongoing projects) จำนวน 164 โครงการ ซึ่งจะเป็นคีย์สำคัญในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (cash inflow)

สำหรับปีนี้มีไฮไลต์กับการขยายกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว กับแบรนด์ THE PALAZZO ให้เป็นคฤหาสน์หรู  ที่จัดทำพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า 1,000 ตร.ม. มุ่ง 2 ทำเลที่มีศักยภาพ กับกรุงเทพกรีฑาและปิ่นเกล้า เพื่อขยายตลาดในกลุ่ม Super Luxury ระดับราคา 100 ล้านบาท เป็นครั้งแรก

ทั้งนี้การรุกตลาดนี้ เป็นการเปิดเชคเมนต์ใหม่ เป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีผู้ซื้อมีอยู่ในตลาด รวมถึงแบรนด์ บ้านกลางกรุง บ้านเดี่ยวในเมือง ทำเลสาธุประดิษฐ์ ทั้งหมดพร้อมเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ รวมถึงมุ่งพัฒนาแบบบ้านในแบรนด์ THE CITY, CENTRO และ MODEN ถือเป็นแบรนด์สินค้าหลักที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน 

เอพี รุกหนักปี 67 ส่ง 48 โครงการใหม่ มูลค่า 5.80 หมื่นล้าน ขยายซูเปอร์ลักชัวรี

ขณะเดียวกันมีแผนเปิดตัวธุรกิจทาวน์โฮมและบ้านแฝดใหม่ จำนวน 23 โครงการ มูลค่า 19,300 ล้านบาท ผ่าน 3 แบรนด์ในเครือ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ – บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น – แกรนด์ พลีโน่ โดยนำเสนอจุดเด่นที่มีหน้ากว้างถึง 14.7 เมตร เริ่ม 3.19 ล้านบาท 

ทั้งนี้ได้พัฒนาทาวน์โฮม ภายใต้แนวคิดพื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่ดีที่สุด โดยตั้งเป้าจะเป็นผู้นำตลาดบ้านแฝด 3 ชั้นและ 2 ชั้นในเมือง ภายใต้จุดยืนที่ต้องการส่งมอบนวัตกรรมพื้นที่ชีวิตให้ลูกค้าเลือกขยายพื้นที่ให้พอดีกับทุกความสุข

สำหรับธุรกิจคอนโดมิเนียม มีแผนเปิดใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 12,500 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้กลุ่มธุรกิจคอนโดจะเน้นแบรนด์ LIFE และ ASPIRE เป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาโครงการ ทั้ง LIFE เจริญนคร-สาทร และ ASPIRE ห้วยขวาง เป็นโครงการสำคัญ รวมถึงเตรียมรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 3 คอนโดพร้อมอยู่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,500 ล้านบาท

"ในปีนี้ตลาดคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มที่จะกลับมาได้ ภายหลังจากปีที่แล้วเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวแล้ว โดยในปีนี้เมื่อการท่องเที่ยวฟื้น และนักท่องเที่ยวกลับมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน จึงมีผลต่อตลาดคอนโดมิเนียมให้กลับมา ซึ่งบริษัทจะกลับมารุกตลาดคอนโดมิเนียมมากขึ้น หลังจากไม่ได้เน้นทำตลาดมาก่อนหน้านี้" 

สำหรับภาพรวมในปี 2566 สร้างยอดขายสูงถึง 51,390 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมจากสินค้ากลุ่มแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ สูงถึง 48,757 ล้านบาท และกำไรสุทธิมากถึง 6,054 ล้านบาท  

“บริษัทมีเสถียรภาพทางการเงินแข็งแกร่ง จากการมีความเข้มงวดในวินัยทางการเงิน รักษาสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนไม่เกิน 0.79 เท่า มั่นใจมีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอสนับสนุนธุรกิจในระยะยาว”

ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมในปี 2567 อยู่ที่ 57,000 ล้านบาท พร้อมสร้างการรับรู้รายได้อยู่ที่ 53,700 ล้านบาท