ยุทธศาสตร์เสนาฯปรับรับVUCA Worldร่วมทุน-ซื้อกิจการ ดันมูลค่าสินทรัพย์

ยุทธศาสตร์เสนาฯปรับรับVUCA Worldร่วมทุน-ซื้อกิจการ ดันมูลค่าสินทรัพย์

ถอดบทเรียนเสนาฯ ปรับรับVUCA World ชูยุทธศาสตร์ ร่วมทุน-ซื้อกิจการ ดันมูลค่าสินทรัพย์สูงขึ้น51,239 ล้านบาท หรือโตขึ้น 43% ขณะเดียวกันอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.13 เท่า ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์! หลังได้แรงหนุนการขยายพอร์ตร่วมทุน

Key Points: 

  • เศรษฐกิจไทยวิกฤติไหม? คำถามที่ยังไม่ได้คำตอบแน่ชัด กลายเป็นประเด็นความสงสัยให้กับผู้คนว่า จริงๆ แล้ว ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤติเศรษฐกิจหรือไม่ อย่างไร
  • ประกอบกับสัญญาณความไม่เชื่อมั่นในตลาดหุ้นกู้จากการผิดนัดชำระหนี้ ส่อเค้าอาจทำให้เกิดวิกฤติหุ้นกู้ และส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยสอนวิชาการเงิน ประเมินว่า เศรษฐกิจไทย ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ จากนิยามของหลายสำนักที่ออกมา เพียงแค่แตะๆ บางส่วนเท่านั้น หลังวิกฤติโควิด-19 โลกเข้าสู่ยุค VUCA ประกอบด้วย 1.Volatility ความผันผวน 2.Uncertainty ความไม่แน่นอน 3.Complexity ความซับซ้อน 4.Ambiguity ความคลุมเครือ 

“ในฐานะผู้ประกอบการเอกชนจึงต้องปรับตัว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากความไม่แน่นอน ดังนั้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาทางเสนาฯ จึงทำความเข้าใจและปรับตัวเพื่อรองรับกับโลกที่ผันผวนมากขึ้น”
 

ยุทธศาสตร์เสนาฯปรับรับVUCA Worldร่วมทุน-ซื้อกิจการ ดันมูลค่าสินทรัพย์

ยุทธศาสตร์สำคัญที่เสนาฯ นำมาใช้กับการวางแผนรับมือกับสถานการณ์ผันผวนของโลกในระดับประเทศ คือการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตด้วยการเพิ่มสัดส่วนการร่วมทุนในโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียม โครงการบ้านแนวราบ คิดเป็นสัดส่วน 80-90% ส่งผลให้สามารถพัฒนาโครงการได้ในจำนวนมากขึ้น แต่ใช้เงินลงทุนลดลง

โดยพาร์ทเนอร์หลัก คือ ฮัน คิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป (HHP) ในการร่วมลงทุนในโครงการใหม่ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ปัจจุบันเสนาฯ มีมูลค่า Asset สูงถึง 51,239 ล้านบาท หรือโตขึ้น 43% โดยกลยุทธ์นี้เป็นการมองในระยะยาว เพื่อกระจายความเสี่ยง และลดการลงทุน

ขณะเดียวกันอัตราหนี้สินต่อทุนของเสนาฯ หรือ Net IBD/E Ratio ล่าสุดอยู่ที่ 1.13 เท่า ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์!  สะท้อนถึงการเติบโตของธุรกิจบนพื้นฐานทางการเงินที่ดี อีกส่วนสำคัญคือการบริหารพอร์ตโฟลิโอให้เหมาะสม โดยได้มีการขยายโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น เพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด และตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งในแง่ทำเล ราคา ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป และเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
 

ปัจจุบันทางเสนาฯ มีมูลค่าสินค้าพร้อมพัฒนาและรอรับรู้รายได้สูงกว่า 82,000 ล้านบาท แบ่งการบริหารจัดการสินค้าในพอร์ตนี้ โดยพัฒนาในรูปแบบร่วมทุน 72% ผ่าน บริษัท เซ็น เอกซ์ จากัด (มหาชน) หรือ Sen X ที่ 13% และโครงการที่พัฒนาโดยเสนาฯ เอง อีก 15% นอกจากนั้นยังมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการอื่นซึ่งเป็นรายได้ประจำที่ช่วยสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องด้วย

“จาก 2 ปัจจัยในข้างต้น ทำให้สินทรัพย์บริษัทฯ ช่วง 9 เดือนแรก ปี 2566 แตะ 51,239 ล้านบาท โต 37% เมื่อเทียบกับทั้งปี 2563 ที่มีมูลค่าสินทรัพย์ 37,304 ล้านบาท การเติบโตดังกล่าว 43% จากแรงหนุนการขยายพอร์ตร่วมทุน”

ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ ได้มีการกระจายรายได้ผ่าน 2 ส่วนหลัก คือ รายได้จากโครงการที่พักอาศัย และรายได้จากธุรกิจบริการและธุรกิจเช่า ซึ่งเป็นรายได้ที่สม่ำเสมอ  มีสัดส่วน 80:20 ตามลำดับควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงด้านการเงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์อย่างเฝ้าระวัง ซึ่งจะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสมดุลในระยะยาว

ล่าสุดเสนาฯ อยู่ระหว่างเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่มูลค่า 1,000 ล้านบาท  เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน อายุหุ้นกู้ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้

สำหรับ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้อยู่ที่ ระดับ “BBB” แนวโน้ม “ลบ” จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จากัด คาดว่าจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 26-30 ม.ค. 2567 ผ่านธนาคารกรุงไทย จากัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จากัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัท หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โดยจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท