คนโสด-เพ็ตเลิฟเวอร์พุ่ง!ดันคอนโดเลี้ยงสัตว์แตะ2หมื่นล้าน

คนโสด-เพ็ตเลิฟเวอร์พุ่ง!ดันคอนโดเลี้ยงสัตว์แตะ2หมื่นล้าน

เทรนด์เลี้ยงสัตว์เหมือนคนในครอบครัวมีแนวโน้มขยายตัวสูง สวนทางอัตราเกิดใหม่ของเด็กลดลง 20% ขณะที่ “คนโสด” หรือคนแต่งงานแล้วแต่ไม่มีลูกนิยมเลี้ยงสัตว์มากขึ้น ส่งผลให้คอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้เติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดมูลค่าสะสมทะยานแตะ 20,000 ล้านบาท เติบโต 10-15%

อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ผู้พัฒนาโครงการกลุ่มสมาร์ทคอนโดมิเนียมในเครือออริจิ้น กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2564 ออริจิ้น บุกตลาดคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้สำหรับกลุ่มคนรักสัตว์ (Pet Lover) ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Y และ Gen Z ที่นิยมเลี้ยงสัตว์ในที่อยู่อาศัยมากขึ้น 

โดย 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนสุนัขและแมวที่มีเจ้าของเพิ่มขึ้น 64% โดยเฉพาะแมว เพิ่มถึง 93% สุนัขเพิ่ม 53% สวนทางอัตราการเกิดของเด็กที่ลดลง 20% ขณะเดียวกันคนโสด หรือคนที่แต่งงานแล้วแต่ไม่มีลูกเพิ่มขึ้นส่งผลให้คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เติบโตต่อเนื่องจนมีจำนวนสะสมมากถึง 8,000 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 20,000 ล้านบาท เติบโต 10-15%

 “คาดว่าสิ้นปี 2566 ออริจิ้นจะมีคอนโดทั้งสิ้น 16 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท ครอบคลุมหลากหลายทำเล ในจำนวนนี้เป็นยูนิตที่เลี้ยงสัตว์ได้ 3,550 ยูนิต  มูลค่ากว่า 8,700 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ผู้พัฒนาคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้”
 

คนโสด-เพ็ตเลิฟเวอร์พุ่ง!ดันคอนโดเลี้ยงสัตว์แตะ2หมื่นล้าน

การเติบโตของเทรนด์ดังกล่าว ยังสะท้อนผ่านมูลค่าตลาดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง คาดการณ์ปี 2566 จะมีมูลค่า 56,000 ล้านบาท เติบโต 10-12% จากปีก่อน ประกอบกับความต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดมีมากขึ้น สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมเมืองได้กระจายไปทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีส้ม สายสีเหลือง ซึ่งเป็นทำเลที่ยังไม่มีคู่แข่ง แต่มีความต้องการสูง

ยกตัวอย่าง ทำเลฝั่งธนบุรี ไม่มีคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ ทำให้ยอดขายค่อนข้างดี จนต้องเปิดตัวโครงการในย่าน เพชรเกษม และบางแค เพิ่มเติม เพื่อรองรับดีมานด์กลุ่มนี้

สะท้อนจากยอดขาย (Presale) ของคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ของออริจิ้นที่มีอัตราการเติบ 10% ต่อปี สอดคล้องกับภาพรวมตลาดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง เติบโต 10-15% ต่อปี ที่สำคัญจุดขายดังกล่าวทำให้กลุ่มลูกค้าที่มีสัตว์เลี้ยงตัดสินใจซื้อเร็วกว่าลูกค้าทั่วไปทำให้บริษัทปิดการขายคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เร็วกว่าคอนโดปกติ20%
 

สำหรับ ยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ในปี 2566 มีจำนวน 100 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 400 ล้านบาท ในโครงการ ดิ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา โดยจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 4/2566 ปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายรอโอน (Backlog) ในกลุ่มสินค้าคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ในมืออีก 4,900 ล้านบาท ที่จะทยอยโอนตามแผนในอนาคต

คนโสด-เพ็ตเลิฟเวอร์พุ่ง!ดันคอนโดเลี้ยงสัตว์แตะ2หมื่นล้าน

ปัจจุบันโครงการคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ของออริจิ้นมีทั้งแบบ “แยกตึก” ในโครงการมีหลายอาคาร แยกเป็นอาคารที่เลี้ยงสัตว์ได้ และอยู่ในอาคารเดียวกันแต่ “แยกชั้น” ซึ่งสัดส่วนของสินค้าประเภทนี้คิดเป็น 30% ของแต่ละโครงการ โดยการพัฒนาโครงการจะอยู่ภายใต้ข้อมูลเชิงลึกของทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงผ่านทีมวิจัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสัตว์เลี้ยงและคนรักสัตว์เลี้ยง เพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันได้อย่างมีความสุข

ปี 2567 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ใกล้เคียงกับปี 2566 ซึ่งเปิดตัวโครงการในเซ็กเมนต์ดังกล่าว 8 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท รองรับดีมานด์ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งลูกค้าในกลุ่มที่ซื้อลงทุนและซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง โดยสัดส่วน 80% เป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง อีก 20% เป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน