เสนาฯ ปฎิวัติวงการอสังหาชูนวัตกรรม‘สภาวะน่าสบาย’สู่ความยั่งยืน

เสนาฯ ปฎิวัติวงการอสังหาชูนวัตกรรม‘สภาวะน่าสบาย’สู่ความยั่งยืน

ปัจจัยการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคมักให้ความสําคัญกับทำเลที่ตั้ง ราคา ฟังก์ชั่น สภาพแวดล้อมโครงการ และเทรนด์ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นหนีไม่พ้นการประหยัดพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย เริ่มจากโซลาร์เซลล์ บ้านพลังงานเป็นศูนย์ ล่าสุดนำนวัตกรรม “สภาวะน่าสบาย”

"เสนา ดีเวลลอปเม้นท์"  มองเห็นโอกาสสร้าง "จุดขาย"จากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ต่อมาประยุกต์โมเดลญี่ปุ่นพัฒนาบ้านพลังงานเป็นศูนย์ ล่าสุดนำนวัตกรรม “สภาวะน่าสบาย” ผลงานวิจัยของพานาโซนิค และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามาทดลองภายในบ้านที่พักอาศัยจริงเป็นครั้งแรกในโครงการเสนา แกรนด์ โฮม บางนา กม.29 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บ้านมีหลายเซ็กเมนต์ ซึ่งในเซ็กเมนต์หลักผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า หากจ่ายเงินเท่ากัน ได้บ้านรักษ์โลก ประหยัดพลังงาน ถือเป็นปัจจัยบวก แต่ถ้าบ้านที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น 20% ลูกค้าอาจไม่ซื้อ! หรือต่อให้ซื้อก็กู้ไม่ผ่าน เพราะดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1% ราคาบ้านเพิ่มขึ้น 9% จากต้นทุนต่างๆ ทำให้ค่าก่อสร้างพุ่งทะยานกว่า 10%

“ในโลกแห่งความเป็นจริง ความสามารถใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะบ้านเป็นสินค้าที่มีขนาดและมูลค่ามากสุด ในฐานะดีเวลลอปเปอร์ควรทำสินทรัพย์นี้ให้ตอบโจทย์ความสามารถในการซื้อของกลุ่มลูกค้าในระยะยาว จึงเป็นเหตุผลในการพัฒนาโครงการทาวน์เฮ้าส์ติดตั้งโซลาร์รูฟ เพื่อผลิตพลังงานสะอาดใช้เอง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ออกมาให้กับลูกค้าตั้งแต่แรก”
 

แทนที่จะให้ลูกค้าติดตั้งเอง แต่โครงการเสนาฯ ติดให้ตั้งแต่แรก ทำให้ต้นทุนการติดตั้งลดลง เช่นเดียวกับการบ้านพลังงานเป็นศูนย์เหมาะสำหรับประเทศไทย และผลการวิจัยพบว่าบ้านขนาดใหญ่สามารถลดการใช้พลังงานได้สูงสุดถึง 38% โดยได้โมเดลมาจาก “ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป” พร้อมนำแนวคิด “SMART CITY” ไม่ว่าจะเป็น Smart Energy, Smart Mobility, Smart Living และ Smart Environment ซึ่งมีทั้งทาวน์โฮม และบ้านแฝด ถือเป็นการปฎิวัติการพัฒนานวัตกรรมครั้งที่ 2 ของ เสนาฯ

"สิ่งที่เราทำ ดีกับผู้บริโภคในระยะยาว แต่ต้องยอมรับว่า ไม่มีลูกค้าคนไหนที่ยอมจ่ายแพงขึ้นกว่า 20% ดังนั้นเสนาฯ มีหน้าที่ในการบริหารจัดการต้นทุน ราคาขายให้สามารถตอบโจทย์กับกำลังซื้อของลูกค้าได้"
 

ล่าสุด ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป ลงนามความร่วมมือสนับสนุนการนำนวัตกรรม “สภาวะน่าสบาย” ผลงานวิจัยของพานาโซนิค และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าทดลองภายในบ้านที่พักอาศัยจริงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่โครงการเสนา แกรนด์ โฮม บางนา กม.29 เพื่อค้นหาสภาวะน่าสบายสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ สอดคล้องกับการพัฒนาแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ มุ่งส่งมอบที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย และส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบรักษ์โลกควบคู่กันไป

"เป็น revolution ที่ 3 ของเสนาฯ ในวงการอสังหาฯ เป็นครั้งแรกที่เกี่ยวกับเรื่องอากาศ เป็นเรื่องยาก สำหรับดีเวลลอปเปอร์ในการพัฒนานวัตกรรม เพราะไม่สามารถทำงานวิจัยเองได้ โดยทำในโครงการ เสนา แกรนด์ โฮม บางนา กม.29 ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ 200 ไร่ มีหลายเซ็กเมนต์ที่ทดลองได้ โดยเฉพาะเซ็กเมนต์บนที่มีกำลังซื้อ"

เสนาฯ ปฎิวัติวงการอสังหาชูนวัตกรรม‘สภาวะน่าสบาย’สู่ความยั่งยืน

สอดรับดีเอ็นเอ Made From Her ที่พัฒนาด้วยความละเอียดใส่ใจ สู่แนวคิด “เคียงข้าง... สร้างสรรค์ชีวิตยั่งยืน”  มุ่งสร้างบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย อยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืน เกิดประโยชน์ต่อทั้งตัวเจ้าของบ้านเอง และส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมให้น้อยที่สุด

  "จากการไม่หยุดคิด และไม่หยุดพัฒนานี้ เมื่อเจอนวัตกรรมใหม่ที่จะทำให้ลูกค้าอยู่สบายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันตนเองมากขึ้น ในธุรกิจอสังหาฯ มากขึ้น"

  ผช.ศ.สรายุทธ ทรัพย์สุข คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจุบันความร่วมมือนี้ได้ถูกพัฒนาเป็นโมเดลที่อยู่อาศัยแบบจำลอง โดยนำเทคโนโลยี BIM หรือ Building Information Modelling และ Digital Twin เข้ามาช่วยในการออกแบบและก่อสร้างบ้านโมดูลาร์ในชื่อ ZEN Model ขนาดพื้นที่ 36 ตารางเมตร ภายในพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการจำลองบรรยากาศที่อยู่อาศัยในสภาวะน่าสบาย และร่วมทำการเก็บข้อมูลจากการให้กลุ่มตัวอย่างได้เข้ามาทดลองใช้ชีวิตในพื้นที่บ้านทดลอง 

โดยจะขยายผลสู่การทดลองกับบ้านเดี่ยวในโครงการของเสนาฯ เพื่อให้ได้ผลใกล้เคียงจริงยิ่งขึ้น สามารถต่อยอด ยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยของผู้คนทุกระดับในเขตร้อนชื้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีข้อมูลทางวิชาการรองรับ

โดยงานวิจัยนี้ทางจุฬาฯร่วมวิจัยกับพานาโซนิคดำเนินการมา 2 ปีเริ่มจากการสร้างบ้านต้นแบบ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการทดลองในสเกลที่ใหญ่ขึ้น หลังจากพบว่า ในอุณหภูมิที่คนไทยคิดว่า “มีความสบาย” จากอุณหภูมิ 24 องศานั้นจากผลการวิจัยพบว่าจากนวัตกรรม “สภาวะน่าสบาย” ที่กำลังพัฒนาสามารถทำให้อุณหภูมิ26 องศาคนที่อยู่รู้สึกสบายไม่ต่างจากอุณหภูมิ 24องศา

ขณะเดียวกันนั้นยังสามารถลดค่าไฟได้ถึง 20% ถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ แต่ทั้งนี้ยังต้องมีการทดลองวิจัยในสเกลที่ใหญ่ขึ้น ทั้งขนาดพื้นที่บ้านจริง และจำนวนบ้าน โดยได้รับการสนับสนุนจากเสนาฯและ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ ฯ ในโครงการ “เสนา แกรนด์ โฮม บางนา กม.29  ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ก่อนจะขยายไปยังที่อยู่อาศัยประเภทอื่น