เปิดพฤติกรรม'ยูทูบเบอร์'นิยมซื้อบ้านนอกเมือง'ครีเอเตอร์'นิยมซื้อเงินสด

เปิดพฤติกรรม'ยูทูบเบอร์'นิยมซื้อบ้านนอกเมือง'ครีเอเตอร์'นิยมซื้อเงินสด

ส่องพฤติกรรมซื้อบ้านGen Zนิยมซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง -ปล่อยเช่าทำเลติดรถไฟฟ้า ขณะที่กลุ่มลูกค้า Gen X และ Gen Y มองหาบ้านหลังที่ 2 หรือซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า กลุ่มยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ นิยม ซื้อทาวน์โฮม บ้านเดี่ยวนอกเมือง ขณะที่คอนเทนท์ครีเอเตอร์ นิยมซื้อเงินสด

จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนอย่างรวดเร็ว  ช่องทางออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต ส่งผลให้เกิดอาชีพใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย นั่นก็คือ ยูทูบเบอร์  อินฟลูเอนเซอร์ คอนเทนท์ครีเอเตอร์ ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคน Gen Z  ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดอสังหาฯในอนาคต 

ทัพพ์เทพ ภัคกระนก ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการจัดงานได้คาดการณ์ว่ากลุ่มลูกค้าที่สนใจเข้าชมงานตลอด 4 วัน จะอยู่ที่ราว 80,000 คน โดยมีกลุ่ม Gen Y มากที่สุดที่ 70% ตามมาด้วยกลุ่ม Gen X 15% และ Gen Z ที่ 10% และอื่นๆ อีก 5% ซึ่งทำให้งานมหกรรมบ้านและคอนโดกลายเป็นงานแสดงสินค้าที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม ด้วยความพรั่งพร้อมของทุกประเภทสินค้า ทั้งยังมีสถาบันการเงินมาช่วยสนับสนุนในด้านบริการสินเชื่อ แต่ที่น่าจับตามองก็คือ กลุ่ม Gen Z ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่จัดงาน 
 

โดยกลุ่มนี้จะมีทั้ง First Jobber และ Self-employed หรือผู้ทำงานส่วนตัว ที่สร้างรายได้ด้วยอาชีพและช่องทางที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น Youtuber Tiktoker คอนเทนท์ครีเอเตอร์ และขายของออนไลน์ นอกจากนี้ Gen Z ยังมีไลฟ์สไตล์ใหม่ และมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทบ้านและคอนโดฯ ทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อปล่อยเช่า ในขณะที่กลุ่มลูกค้า Gen X และ Gen Y ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความมั่นคงและมีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว อาจมองหาบ้านหลังที่ 2 หรือเพื่อการลงทุน และปล่อยเช่าให้ Gen Z


สำหรับกลุ่ม Gen Z ที่เลือกซื้อคอนโดจะเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ที่ทำงาน หรือไลฟ์สไตล์ มอลล์ ที่ตัวเองไปใช้ชีวิต แต่หากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ เช่น Youtuber หรืออินฟลูเอนเซอร์ ก็จะเลือกซื้อบ้าน เพื่อทำเป็นโฮมออฟฟิศ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม เพราะต้องการแยกพื้นที่ทำงานและบ้านให้เป็นสัดส่วน ตามแนวคิด Work-life Balance ของคนรุ่นใหม่ โดยเน้นที่ทำเลนอกเมือง เช่น วัชรพล รามอินทรา กรุงเทพกรีฑา พุทธมณฑล ราชพฤกษ์ บางนา บางพลี เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่ตัดสินใจซื้อค่อนข้างเร็ว หากถูกใจจะวางเงินจองทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าชมโครงการ ส่วนกลุ่มที่เป็นคอนเทนท์ครีเอเตอร์จะนิยมซื้อแบบเงินสด เพราะไม่ต้องการมีภาระเรื่องการกู้สินเชื่อ
 

เปิดพฤติกรรม\'ยูทูบเบอร์\'นิยมซื้อบ้านนอกเมือง\'ครีเอเตอร์\'นิยมซื้อเงินสด

 

“กลยุทธ์ในการสื่อสารกับกลุ่ม Gen Z จะต้องเน้นถึงความเป็นปัจเจกชน ต้องระบุให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสินค้ามีความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร และเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ตัดสินใจง่าย นิยมเปิดรับข้อมูลเพื่อซื้อผ่านช่องทางออนไลน์แพลทฟอร์มต่างๆ และการรีวิวโครงการจากอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงต้องทำ Sale Gallery ให้สวย สามารถดึงดูดและสร้างความประทับใจ ตั้งแต่พบเห็นครั้งแรก” ทัพพ์เทพ กล่าว 

ในส่วนของผู้ประกอบการมีการปรับตัวเพื่อเข้าถึง Gen Z มากขึ้น ด้วยการเสนอจุดเด่นและโปรโมชั่นให้กับลูกค้า โดยผู้ประกอบการอาจจะมีโปรโมชั่นแถมหรือลดราคามากขึ้น กรณีลูกค้าชำระเป็นเงินสด หรือชูจุดเด่นของโครงการ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่เลือกใช้มีความพิเศษต่างจากโครงการอื่นอย่างไร สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ระบบความปลอดภัย Pet Friendly เป็นต้น ปัจจุบัน ดีเวลลอปเปอร์มีการนำ Proptech เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นจุดชาร์จรถไฟฟ้า ระบบโซล่าเซลล์ หรือ โฮมออโต้เมชั่นต่างๆ

หากเป็นคอนโดก็จะมีระบบอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์บริเวณทางเข้า หรือ ระบบจอดรถอัตโนมัติ  เป็นต้น ซึ่งการที่ผู้ประกอบการปรับตัวเพื่อรับลูกค้า Gen Z มากขึ้น ก็เพื่อเปิดโอกาสในการทำตลาดและการขายให้กว้างขึ้น เพราะลูกค้ากลุ่มนี้เริ่มมีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการกระตุ้นอุปสงค์ของตลาดอสังหาฯ ของไทย ขณะเดียวกัน ก็ยังพยายามรักษาฐานลูกค้ากลุ่ม Gen X และ Gen Y ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่าให้ Gen Z อีกที ส่วนฟังก์ชันและระบบต่างๆ ที่ดีเวลลอปเปอร์เลือกใช้ก็สามารถตอบโจทย์ได้ทุกเจนอยู่แล้ว

ทัพพ์เทพ  กล่าวว่า ความคืบหน้าการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 ครั้งนี้  มีคนลงทะเบียนล่วงหน้ามาแล้วกว่า 5,000 คน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ในฝั่งผู้ขายก็มีทั้งผู้ประกอบการที่เป็นแบรนด์ใหญ่และขนาดกลางในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจากหัวเมืองต่างๆ ทางสามสมาคมผู้จัดงานก็ได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทาง โดยใช้งบ 22 ล้านบาท ดีเวลลอปเปอร์ไม่ต้องเสียงบการตลาด เพียงแต่เตรียมโปรโมชั่นพิเศษของตัวเองมาร่วมงาน และเพราะงานนี้เป็นงานใหญ่ที่สุดของวงการ รวมที่อยู่อาศัยทุกประเภท ทุกทำเล ทุกราคา คนซื้อบ้านต้องมาเดิน หลายแบรนด์จึงไม่อยากพลาดการออกบูธ