ศุภาลัยหันลุยคอนโดรับดีมานด์ฟื้นผุด20โครงการยึดหัวหาดภูมิภาครั้งแชมป์

ศุภาลัยหันลุยคอนโดรับดีมานด์ฟื้นผุด20โครงการยึดหัวหาดภูมิภาครั้งแชมป์

ศุภาลัย พลิกเกมลุยคอนโดรับดีมานด์ฟื้น เร่งยึดหัวหาดในภูมิภาครั้งตำแหน่งผู้นำผุดในภูมิภาค20โครงการ มูลค่า1.7หมื่นล้านพร้อมทุ่มงบตลาด 100-200 ล้านเปิดตัว “โบว์-เมลดา สุศรี” เป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งแรกในรอบ 34 ปีรับมือคู่แข่งแห่ขยายตลาดจังหวัดมากขึ้น

3 ทศวรรษที่ผ่านมา “ศุภาลัย” เป็นบริษัทที่พัฒนาที่ดินในต่างจังหวัดมากที่สุด มีการลงทุนพัฒนาโครงการรวม 300 โครงการทั่วประเทศครอบคลุม 28 จังหวัด รวมกรุงเทพฯ โดยเป็นโครงการที่อยู่ในหัวเมืองภูมิภาครวม 161 โครงการ จำนวน 36,000 ยูนิต มูลค่ารวม 118,000 ล้านบาท

คอนโดส่งสัญญาณฟื้นตัว

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รายได้หลักของศุภาลัยมาจากคอนโดมิเนียม คิดเป็นสัดส่วน 65% แต่หลังจากโควิด-19 ระบาด ยอดขายหดตัวลง ส่งผลให้สัดส่วนลดลงเหลือ 25-30% 

ทว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย สัญญาณเศรษฐกิจและตลาดคอนโดเริ่มฟื้นตัว แนวโน้มตลาดคอนโดดีขึ้น เริ่มตั้งแต่ระดับ 3-5 ล้านบาท ที่ลูกค้ากลุ่มนี้เริ่มกลับมาซื้อคอนโดสั่งสร้าง ขณะที่ ช่วงโควิดแพร่ระบาดลูกค้านิยมซื้อคอนโดพร้อมอยู่ ซึ่งเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าเพิ่มขึ้น

 

“สังเกตได้จากช่วงครึ่งปีแรกในปี 2566 โครงการภูมิภาคของศุภาลัยสามารถทำยอดขาย 7,784 ล้านบาท โตขึ้น 9% เมื่อเทียบกับยอดขายครึ่งปีแรกของ 2565 แบ่งเป็นยอดขายกลุ่มคอนโด 570 ล้านบาท ซึ่งเติบโตถึง 72% และโครงการแนวราบ 7,214 ล้านบาท โตขึ้น 6% หรือคิดเป็นสัดส่วนยอดขายที่มาจากตลาดภูมิภาคเท่ากับ 45%”

ศุภาลัยหันลุยคอนโดรับดีมานด์ฟื้นผุด20โครงการยึดหัวหาดภูมิภาครั้งแชมป์

เร่งพัฒนาโครงการตจว.สกัดคู่แข่ง

โดย 5 จังหวัดที่ขายดีอันดับแรกๆ ได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี สงขลา ระยอง และเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนพัฒนาโครงการ 5 จังหวัดใหม่ภายในปี 2566 ได้แก่ ลำพูน ลำปาง นครปฐม ราชบุรี และจันทบุรี นอกจากนี้ยังมีอีกหลายจังหวัดที่จัดซื้อที่ดินแล้วแต่ยังไม่ได้พัฒนาโครงการ ซึ่งจะทำให้ศุภาลัยมีโครงการครอบคลุมกว่า 31 จังหวัดภายใน 2 ปีข้างหน้า

“ครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนที่จะรุกตลาดคอนโดเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับดีมานด์คนไทยเริ่มกลับมาหลังจาก2เดือนที่ผ่านชะลอตัวเพราะขาดความเชื่อมั่นจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง แต่เมื่อเศรษฐกิจมีสัญญาณฟื้นตัว และการเมืองเริ่มนิ่งทำให้คนที่อยากซื้อบ้านมีความมั่นใจมากขึ้น คาดว่า 2-3 ปี ต่อจากนี้ตลาดคอนโดฟื้นตัวเท่ากับก่อนเกิดโควิด”

ทั้งนี้ปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ภูมิภาค 15,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 10% จากปีก่อน คิดเป็นเกือบครึ่งของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 36,000 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในภูมิภาครวม 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 17,000 ล้านบาท คิดเป็น 58% ของมูลค่าโครงการที่จะเปิดใหม่รวมทั้งปี

ศุภาลัยหันลุยคอนโดรับดีมานด์ฟื้นผุด20โครงการยึดหัวหาดภูมิภาครั้งแชมป์

รั้งตำแหน่งผู้นำอสังหาฯภูมิภาค

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศุภาลัย เป็นบริษัทอสังหาฯรายแรกที่เข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการในหัวเมืองต่างจังหวัด นอกเหนือจากกรุงเทพฯ โดยเริ่มต้นใน 2 จังหวัด ได้แก่ สงขลา และขอนแก่น หลังจากนั้นกระจายการลงทุนไปยังจังหวัดอื่นๆ มายาวนานกว่า 34 ปี พัฒนาโครงการครอบคลุมกว่า 28 จังหวัดรวมกรุงเทพฯ ซึ่งพัฒนาโครงการในหัวเมืองภูมิภาคไปแล้ว รวมทั้งหมด 161 โครงการ หรือประมาณ 36,000 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 118,000 ล้านบาท

ศุภาลัยหันลุยคอนโดรับดีมานด์ฟื้นผุด20โครงการยึดหัวหาดภูมิภาครั้งแชมป์

ทั้งนี้ ทุกจังหวัดได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง และยังสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปี และสามารถปิดการขายแบบเต็มจำนวนทั้งหมด เนื่องจาก “SUPALAI” เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีความแข็งแกร่งทางการเงิน ประกอบกับแต่ละโครงการได้ออกแบบด้วยความเข้าใจลูกค้าที่มีความต้องการที่หลากหลาย และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยแต่ละจังหวัด

“จากความแตกต่างของแต่ละทำเล รวมถึงให้ความสำคัญของบรรยากาศที่ดีและเหมาะแก่การอยู่อาศัย จึงได้รับการตอบรับที่ดี โดยสิ่งสำคัญคือ Economies of Scale ในทุกจังหวัด ซึ่งบริษัทมุ่งพัฒนาอย่างน้อย 3-10 โครงการในแต่ละจังหวัด ตลอดจนยังมีการขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างออสเตรเลียมาอย่างต่อเนื่องถึง 10 ปีเพื่อลดความเสี่ยง สร้างรายได้เพิ่ม” นายประทีป กล่าว

ศุภาลัยหันลุยคอนโดรับดีมานด์ฟื้นผุด20โครงการยึดหัวหาดภูมิภาครั้งแชมป์

เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนแรกในรอบ34ปี

นายไตรเตชะ กล่าวว่า ด้านการตลาด ล่าสุดบริษัทใช้งบการตลาด 100-200 ล้านบาท และเปิดตัว “โบว์-เมลดา สุศรี” พรีเซ็นเตอร์คนแรกของศุภาลัย ในรอบ 34 ปี เพื่อให้เกิดการจดจำมากขึ้น สะท้อนมาตรฐานของบ้านศุภาลัยที่ตอบโจทย์ทุกความแตกต่างและหลากหลายของชีวิตเพื่อให้รู้จัก ถือเป็นกลยุทธ์ครั้งสำคัญของแบรนด์ เพื่อย้ำถึงจุดยืน “STANDARD ดี QUALITY เดียวกัน” และยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ รับมือกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น จากการที่คู่แข่งเริ่มขยายตลาดต่่างจังหวัดมากขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ เนื่องจาก โบว์-เมลดา ไม่เพียงเป็นที่รู้จักและเข้าถึงคนไทยทุกเจเนอเรชันทั่วประเทศเท่านั้น แต่ยังมีตัวตนที่สะท้อนความเป็นกันเอง และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสื่อถึงความเป็นแบรนด์ศุภาลัยได้อย่างเหมาะสมมากที่สุดในฐานะผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจทุกความแตกต่าง หลากหลาย และเข้าถึงใจคนไทยทั่วประเทศ

สำหรับไฮไลต์ภายในงานเปิดแคมเปญ “STANDARD ดี QUALITY เดียวกัน” นอกจากการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์แล้ว ยังชูมาตรฐานบ้านศุภาลัยทั้งคุณภาพการก่อสร้าง และการบริการที่ดีผ่าน 5 โซน ที่เปิดให้สัมผัสมาตรฐานบ้านศุภาลัยในทุกฟังก์ชันที่ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ภาคไหน ก็ได้มาตรฐานเดียวกันทุกหลัง สะท้อนแนวคิด “STANDARD ดี QUALITY เดียวกัน” ซึ่งเป็นจุดแข็งของบ้านของศุภาลัยที่ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิตของคนในทุกจังหวัด พร้อมเปิดตัวผู้นำภูมิภาค ตอกย้ำการให้ความสำคัญในมาตรฐานบ้านทุกหลังเท่ากันทั่วประเทศ

“ส่วนนโยบายขึ้นค่าแรง 400 บาทนั้น ถ้าปรับแล้วเศรษฐกิจไปได้บริษัทยินดี แต่ต้องยอมรับว่าทุกครั้งที่ขึ้นค่าแรงต้นทุนเพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น”