เอฟเฟกต์!แอชตันอโศกขายไม่ได้-ค่าเช่าลด-คอนโดในซอยบูม

เอฟเฟกต์!แอชตันอโศกขายไม่ได้-ค่าเช่าลด-คอนโดในซอยบูม

แม้ว่าอนันดาจะออกมาชี้แจง 5 แนวทางแก้ไขปัญหาทางเข้าออกโครงการ “แอชตัน อโศก” ว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ผลกระทบต่อเนื่องกับลูกบ้านที่ต้องการขาย ขายไม่ได้และปล่อยเช่ายากขึ้น ขณะเดียวกันทำให้คอนโดในซอยบูม

ศิรประภา รักษ์สุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวลทิเนส เอสเตส จำกัด เอเจนท์อสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า หลังคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก (27 ก.ค.)  ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการขายห้องในโครงการ แอชตัน อโศก ขายไม่ได้ เนื่องจากกระแสข่าวที่ออกมาทำให้ไม่มีใครกล้าซื้อ! เพราะไม่รู้ว่าคดีจะจบลงอย่างไร 

ในฐานะคนขายต้องยอมรับขายยาก หลังจากที่เคยขายไปก่อนเกิดโควิด -19 ราคา 1 ห้องนอน ราคา 6.9-7 ล้านบาท

“การประกาศขายจากเจ้าของห้องมีประกาศขายบ้าง ราคาอยู่ที่ ตารางเมตรละ 250,000-300,000 บาท ซึ่งเป็นราคาตลาดทั่วไปส่วนการขายห้องที่เหลือของโครงการคงยังต้องรอสรุปจบทางออกของเรื่องนี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไรเพราะโดยส่วนตัวเชื่อว่า คนที่จะตัดสินใจซื้อในช่วงนี้คงอยากจะได้ความชัดเจนก่อนเพราะกลัวซื้อแล้วจะเกิดปัญหา”

เอฟเฟกต์!แอชตันอโศกขายไม่ได้-ค่าเช่าลด-คอนโดในซอยบูม

ศิรประภา กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีลูกค้ามาฝากขายแต่ว่าขายไม่ได้ เพราะไม่มีคนติดต่อมา ส่วนตลาดเช่าตั้งแต่ปี 2565  ที่เริ่มมีข่าว “แอชตัน อโศก” ออกมา การเช่ายังมีอยู่เพราะไม่มีใครคิดว่าผลการตัดสินจะออกมาแบบนี้จึงยังมีการปล่อยเช่าได้เนื่องจากทำเลดี! หลังจากนี้คนเช่ายังอยู่ตามสัญญาเพราะยังไม่ได้มีการสั่งทุบตึกทันที สำหรับคนเช่าใหม่เริ่มลังเลในการเข้ามาเช่าอยู่ทำให้เจ้าของห้องบางรายปรับลดค่าเช่าลงเพื่อให้มีผู้เช่า 

โดยผู้เช่าส่วนใหญ่จะมีสัญญาเช่า 1 ปี ราคาเช่าที่ประกาศในช่องทางออนไลน์ ขนาด 1 ห้องนอน 25,000-35,000 บาทต่อเดือน ซึ่งยังมีการโพสต์หาผู้เช่าจากทั้งเจ้าของร่วมและนายหน้า และยังมีการหาห้องเช่าในโครงการนี้ ซึ่งราคาเช่ามีการปรับลดลงบ้างเพื่อให้ปล่อยเช่าได้ง่าย
 

กรณีแอชตันอโศกได้สร้างความกังวลให้กับลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติที่ต้องการซื้อคอนคอนโดติดรถไฟฟ้าเพราะเป็นเคสแรกที่เป็นข่าวใหญ่ ซึ่งมีหลายโครงการที่ทางออกติดทางเชื่อมรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที แม้ว่าจะหลายโครงการได้ออกมาชี้เแจงว่าแต่ลูกค้าก็ยังคงมีความวิตกกังวลถึงความเสี่ยงเกิดปัญหาตามมาในอนาคต จากเดิมที่ดินรถไฟฟ้า คือ “ทำเลทอง” ที่ทำกำไร แต่ลูกค้าเริ่มมีความกังวล โดยเฉพาะต่างชาติเป็นเรื่องใหญ่มาก

“เขาไม่คิดว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แม้จะไม่ได้มีการระบุว่าต้องทุบ แต่สร้างความกังวลใจ เริ่มมีคำถามกลับมาว่า ถ้าซื้อคอนโดในประเทศไทยจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ เพราะอโศกเป็นทำเลที่คนต่างชาติเลือกที่อยู่อาศัยเป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นแหล่งรวมของอาคารสำนักงาน บริษัทขนาดใหญ่ ใจกลางเมือง หลายคนเปลี่ยนดูโครงการที่ไม่ติดทางเข้าออกรถไฟฟ้าหรืออยู่ซอยแทน”