คราฟเวิร์คผุดบ้านแฝดโซนกรุงเทพฯตะวันออกนำร่องโครงการ“ละไม”หทัยราษฎร์39

คราฟเวิร์คผุดบ้านแฝดโซนกรุงเทพฯตะวันออกนำร่องโครงการ“ละไม”หทัยราษฎร์39

คราฟเวิร์คสยายปีกผุดบ้านแฝดทำเลกรุงเทพฯตะวันออกอยู่ในผังสีเขียว นำร่องโครงการ“ละไม หทัยราษฎร์ 39”เจาะกลุ่มคนในพื้นที่ต้องการบ้านขนาดใหญ่ คาดสิ้นปียอดขาย200ล้าน พร้อมเตรียมนำแลนด์แบงก์มูลค่าหมื่นล้านพัฒนาโครงการอสังหาฯมูลค่า3หมื่นล้านก่อนเข้าตลาดฯปี2570

นายเฉลิมพล โขนแจ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คราฟเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า จากประสบการณ์มากว่า 30 ปีในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยว และคอนโดทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงต่างจังหวัดที่มีศักยภาพในพื้นที่อีอีซี ในจ.ชลบุรี และระยอง

อาทิ โครงการ อารมณ์ วงศ์มาตย์ และอารมณ์ จอมเทียน เป็นต้น  แต่ทว่ามองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ เพื่อรองรับกับความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการแนวราบที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง

 

ล่าสุดบริษัทได้พัฒนาโครงการแนวราบทำเลกรุงเทพฯตะวันออก ซึ่งอยู่ใน'ผังสีเขียว'ทำให้ไม่สามารถทำทาวน์เฮ้าส์ได้จึงพัฒนาโครงการ“ละไม หทัยราษฎร์ 39”  บนเนื้อที่กว่า 35 ไร่เป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่น ในรูปแบบของโครงการบ้านแฝดจำนวน  144 ยูนิต รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5-9 ล้านบาท มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ 

คราฟเวิร์คผุดบ้านแฝดโซนกรุงเทพฯตะวันออกนำร่องโครงการ“ละไม”หทัยราษฎร์39

แบบ ARUN มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 153 ตารางเมตร มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว1 ห้องอเนกประสงค์ และจอดรถได้ 2 คัน แบบ TIWA ขนาดพื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร ขนาด  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว 1 ห้องพระ   1 ห้องอเนกประสงค์

และจอดรถได้ 2 คัน และแบบ SURI ขนาดพื้นที่ใช้สอย 216 ตารางเมตร มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ครัวไทย 1 ห้องอเนกประสงค์ และจอดรถได้ 3 คัน ทั้งนี้เพื่อรองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ ซึ่งต้องการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนอีกกลุ่มคนทำงานในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น บางกะปิ มีนบุรี ลาดพร้าว เป็นต้น
 

คราฟเวิร์คผุดบ้านแฝดโซนกรุงเทพฯตะวันออกนำร่องโครงการ“ละไม”หทัยราษฎร์39

นายเฉลิมพล กล่าวต่อว่า บริษัทมีที่ดินในทำเลนี้จำนวน 80 ไร่ แบ่งมา 35 ไร่เพื่อพัฒนาโครงการบ้านแฝดและคอมมูนิตี้มอลล์หน้าโครงการ ที่มีพื้นที่2ไร่ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดโครงการและรอผังเมืองกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้1-2 ปีข้างหน้า 

นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570  โดยปัจจุบันมีBacklog อยู่ในมือคิดเป็นมูล5,000 ล้านบาทซึ่งอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างการบริหารงานภายใน คาดว่าในปี 2567 บริษัทจะมีรายได้จากโครงการแนวราบและอาคารสูง 5,000 ล้านบาทมาจากคอนโด3,000 ล้านบาทและแนวราบ2,000 ล้านบาท