แอสเซทไวส์ร่วมทุนโตเกียว ทาเทโมโนะลุยแคมปัสคอนโดบางแสน

แอสเซทไวส์ร่วมทุนโตเกียว ทาเทโมโนะลุยแคมปัสคอนโดบางแสน

‘แอสเซทไวส์’เดินหน้าร่วมทุนโตเกียว ทาเทโมโนะ ลุยแคมปัสคอนโดทำเลมหาวิทยาลัยบูรพา พัฒนาโครงการ“เคฟ โคโค่ บางแสน” มูลค่ากว่า 2,000 ล้านเป็นโครงการที่2

นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเกมรุกสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตในตลาดอสังหาริมทรัพย์มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมทุน(Joint venture)กับโตเกียว ทาเทโมโนะ( Tokyo Tatemono ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Tokyo Tatemono Co.,Ltd นักพัฒนาอสังหาฯจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีประวัติอันยาวนาน โดยร่วมกันพัฒนาโครงการ “เคฟ โคโค่ บางแสน”  คอนโดมิเนียมใกล้กับมหาวิทยาลัยบูรพา มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทเพื่อต่อยอดความสำเร็จ และตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดแคมปัสคอนโด

“การร่วมทุนในครั้งนี้ เป็นโครงการแห่งที่ 2 ระหว่าง แอสเซทไวส์และโตเกียว ทาเทโมโนะ เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นที่โตเกียว ทาเทโมโนะมีให้กับบริษัทขณะเดียวกันโตเกียว ทาเทโมโนะเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯในประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น มีการพัฒนาโครงการหลากหลาย ทั้งอสังหาฯเพื่อการอยู่อาศัย และเชิงพาณิชย์ เช่น โรงแรม สนามกอล์ฟ อาคารสำนักงานฯลฯและในปีที่ผ่านมามีรายได้ถึง 86,000 ล้านบาท  โดยมีทุนจดทะเบียน 24,000 ล้านบาท” นายกรมเชษฐ์กล่าว

สำหรับโครงการ “เคฟ โคโค่ บางแสน” เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 4 อาคาร 974 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 23-34.50 ตร.ม. บนพื้นที่กว่า 8 ไร่ อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยบูรพาแวดล้อมด้วยกลุ่มนักศึกษาและคนทำงาน ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาทมูลค่า 2,000 ล้านบาท มีรูปแบบการดีไซน์ที่โดดเด่น ทันสมัย เป็นเอกลักษณ์ ผสานความสนุกสนานที่พร้อมปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ง่ายตอบรับความชอบที่แตกต่าง และการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านของคนรุ่นใหม่ 

ตัวโครงการโดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ทันสมัย หลากหลายและนำเทรนด์ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของคนรุ่นใหม่ให้ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ได้ไม่รู้จบ อาทิ Music Studio, , Meeting Chamber, Learning Hub, Fit Studio, Kave Theater เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา โครงการในแบรนด์ Kave ทุกทำเลล้วนได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากกลุ่มลูกค้า โดยก่อนหน้านี้แอสเซทไวส์มีโครงการที่ร่วมทุนกับโตเกียว ทาเทโมโนะ คือ โครงการแอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุชจำนวน 1,110 ยูนิตมูลค่า2,200 ล้านบาท

นายกรมเชษฐ์ ได้กล่าวถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัด “ชลบุรี” ว่า มีการเติบโตที่โดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นหนึ่งในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ โครงการมอเตอร์เวย์ (พัทยา-มาบตาพุด) โครงการรถไฟความเร็วสูง (กรุงเทพฯ-ระยอง) โครงการท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังเฟส 3 และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (อู่ตะเภา–สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง) ซึ่งโครงการรถไฟความเร็วสูงนี้ จะพัฒนาตามแนวเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินอู่ตะเภา รวมระยะทางกว่า 220 กิโลเมตร และมีการใช้พื้นที่ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่ขนาดกว่า 25 ไร่เป็นสถานีอีกด้วย

แอสเซทไวส์ร่วมทุนโตเกียว ทาเทโมโนะลุยแคมปัสคอนโดบางแสน

โดยจังหวัดชลบุรียังมีแผนพัฒนาให้เป็นเขตส่งเสริมอุตสาหกรรม และนวัตกรรมดิจิทัลที่เป็นศูนย์กลางการลงทุน และพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัล ทั้งนี้ยังมีแผนพัฒนาให้เป็นเขตส่งเสริมศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร ที่ส่งเสริมด้านนวัตกรรมการวิจัยขั้นสูง และนวัตกรรมทางด้านการแพทย์ รวมถึงศักยภาพการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ที่มีกำลังซื้อสูงทั้งจากกลุ่มคนในพื้นที่ และกลุ่มผู้ที่มาทำงานและต้องการที่อยู่อาศัย  ผู้บริหารชาวต่างชาติ ผู้ต้องการบ้านหลังที่สอง และนักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่ารับผลตอบแทน ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ ในจังหวัด โดยคาดการณ์ว่าปี 2566-2568 จะมีอุปทานที่อยู่อาศัยใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8.4% ต่อปี ขณะที่ยอดขายใหม่จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.6 % ต่อปี

ทั้งนี้ หากโฟกัสทำเล “บางแสน”  ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาชั้นนำชื่อดัง “มหาวิทยาลัยบูรพา” โดยมหาวิทยาลัยบูรพายังเป็นพื้นที่ในโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษด้านการแพทย์จีโนมิกส์ รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษด้านการแพทย์และสุขภาพครบวงจร และกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่มีศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่อาคาร 10 ปี เภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ และงบเงินลงทุน 1,250 ล้านบาท

 วางเป้าหมายเป็นศูนย์ทดสอบจัดเก็บฐานข้อมูลดีเอ็นเอคนไทย เพื่อให้เกิดศูนย์วิจัยด้านดีเอ็นเอวิเคราะห์หาสาเหตุโรคร้ายแรงต่างๆ ยกระดับการรักษาพยาบาลของไทยขึ้นมาสู่ระดับแนวหน้าของโลก นอกจากนี้บางแสนยังขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยหลับไหล เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเลยอดนิยมของคนไทยที่ไม่เคยเปลี่ยนแล้วยังเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ทั้งนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบูรพาที่มีกว่า 25,000 คน ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ คนทำงาน รวมทั้งนักท่องเที่ยว จึงทำให้มีความต้องการที่พักอาศัยประเภทคอนโดฯ ทั้งจากนักศึกษาที่ต้องการเช่าที่พักตลอดระยะเวลาของการศึกษา หรือนักศึกษาบางคนที่มีผู้ปกครองซื้อให้อยู่และเมื่อจบการศึกษาก็ขายต่อหรือให้เช่าเพื่อรับผลตอบแทนที่ดี ผู้ลงทุนในพื้นที่ ผู้ที่ทำงานในแหล่งงานขนาดใหญ่โดยรอบ และนักท่องเที่ยวที่ชอบไลฟ์สไตล์ของบางแสน

แอสเซทไวส์ร่วมทุนโตเกียว ทาเทโมโนะลุยแคมปัสคอนโดบางแสน

นายทะจิมะ Managing Executive Officer, Overseas Business Division Director บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของโครงการ “เคฟ โคโค่ บางแสน”  ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่มีกำลังซื้อสูงในพื้นที่อีอีซี และโครงการภายใต้แบรนด์ เคฟ (KAVE) ของบริษัท ในทุกโครงการล้วนได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากลูกค้าทั้งกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และกลุ่มผู้ลงทุนซื้อปล่อยเช่าเพื่อรับผลตอบแทนที่ดี ทั้งนี้บริษัทเชื่อมั่นว่าโครงการเคฟ โคโค่ บางแสน จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเช่นเดียวกัน

“เรามีความเชื่อมั่นใน ASW ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเพื่อยกระดับการอยู่อาศัย และมีมูลค่าเพิ่มในอนาคต โดยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง พิสูจน์จากความสำเร็จกับการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่มีคุณภาพกว่า 50 โครงการ รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะขยายการเติบโตไปยังตลาดต่างๆ  โดยการร่วมทุนในครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาอีกหนึ่งโครงการคุณภาพ และพร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งร่วมกันต่อไป” นายทะจิมะ กล่าว