วิน-วินดีล 'พราว เรียลเอสเตท' มั่นใจซื้อ 2 โครงการ โนเบิล ดัน Backlog หมื่นล้าน

วิน-วินดีล 'พราว เรียลเอสเตท' มั่นใจซื้อ 2 โครงการ โนเบิล ดัน Backlog หมื่นล้าน

วิน-วินดีล 'พราว เรียล เอสเตท' ลงนามซื้อหุ้น 2 บริษัท จาก 'โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์' ลุย 2 โครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 และ นิว ครอส คูคต สเตชัน ดัน Backlog ทะลุ 10,000 ล้าน เตรียมแผนระดมทุนรอบใหม่วงเงิน 2,490 ล้าน ทั้งออกหุ้นเพิ่มทุน กู้ยืมจากสถาบันการเงิน ขึ้นแท่น Top10 บริษัทอสังหาใน 5 ปี

นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) “PROUD” เปิดเผยว่า บริษัทลงนามสัญญาซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแอนซ์ จำกัด (KK) และ บริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด (PA9) ในสัดส่วน 100% จาก บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ NOBLE และ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด (TNLA) โดยทั้งสองบริษัทได้พัฒนาใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station) ) มีมูลค่าโครงการรวม 8,623 ล้านบาท

ทั้งนี้การลงทุนซื้อ 2 โครงการ ทั้งโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station ) จะอยู่ที่ 1,735 ล้านบาท ซึ่งโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station ) สร้างยอดขาย (pre-sales) แล้ว 100% 

ทั้งนี้จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ในต้นปี 2567 และโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) มียอดขาย (pre-sales) แล้ว 83% คาดรับรู้รายได้ในปี 2568 โดยภาพรวม 2 โครงการจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 2567-2568 ทำให้บริษัทมี Backlog ถึง 10,000 ล้าน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,180 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) เพื่อระดมทุนจำนวน 2,490 ล้านบาท แบ่งเป็น ออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ PROUD (Right Offering : RO) ในอัตราส่วน 1.80 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 1.75 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าไม่เกิน 624 ล้านบาท ส่วนส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อเป็นเงินทุนและเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงาน อีก 1,890 ล้านบาท

ทั้งนี้มั่นใจว่าการลงทุนโครงการนี้จะทำให้ PROUD สร้างรายได้เติบโตก้าวกระโดดถึง 10,000 ล้านบาท ในปี 2569 จากเป้าหมายที่วางไว้เดิมที่ 4,000 ล้านบาท พร้อมช่วยขยายฐานทุน เพิ่มขีดความสามารถทางการเงินและศักยภาพของบริษัท พร้อมสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน และวางเป้าหมายให้ติดอันดับ Top10 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า

“ภาพรวมผลประกอบการของ PROUD สามารถถึงจุดเทิร์นอะราวนด์สำเร็จทั้งรายได้และกำไร ในผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ผ่านมา จากความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและมั่นคง บริษัทจึงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจ และพอร์ตโครงสร้างธุรกิจให้มีความหลากหลายขึ้นทั้งทำเลที่ตั้งและกลุ่มลูกค้า”

ด้าน นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า การขาย 2 โครงการภายใต้บริษัทร่วมทุน 2 แห่งดังกล่าว เป็นไปตามกลยุทธ์ในการดำเนินการที่ต้องการสร้างอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงที่สุด (Maximize Return on Equity (ROE) & Internal Rate of Return (IRR) ) จากการลดระยะเวลาการถือครองและรับรู้กำไรที่สมเหตุสมผล ซึ่งโครงการร่วมทุนทั้ง 2 โครงการ ประสบความสำเร็จในการขายอย่างสูง

“นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการต่อยอดธุรกิจ ภายใต้การเป็น Strategic Partner ร่วมกันของทั้ง 2 บริษัท ซึ่งจากความร่วมมือครั้งนี้จะร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มสู่การต่อยอดและการเติบโตให้กับ NOBLE และ PROUD ในอนาคต”

ขณะเดียวกันบริษัทยังทำหน้าที่เป็นผู้บริหารโครงการในบทบาทเดิม รวมถึงชื่อโครงการการก่อสร้างและการบริหารโครงการหลังการขายและการรับประกันผลงานการก่อสร้าง เพื่อให้ไม่มีผลกระทบต่อลูกค้า โดยกระบวนการขายเงินลงทุนและโอนหุ้นใน PA9 และ KK รวมถึงเงินกู้ยืมผู้ถือหุ้นบางส่วนจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่คู่สัญญาแต่ละฝ่ายได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วนแล้ว คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือน ก.ค. 2566 ทำให้บริษัทสามารถบันทึกกำไรพิเศษในช่วงไตรมาส 3/2566

ภาพรวมในปัจจุบันบริษัทมีโครงการร่วมทุนกับ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด (TNLA) ทั้งหมด 13 โครงการ มูลค่ารวม 34,800 ล้านบาท