5ทำเลหน่วยเหลือขายที่อยู่อาศัยสูงสุดในอีสาน

5ทำเลหน่วยเหลือขายที่อยู่อาศัยสูงสุดในอีสาน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผย 5ทำเลหน่วยเหลือขายที่อยู่อาศัยสูงสุดในอีสาน ทำเลจอหอ ยืนหนึ่ง ตัวเมือง นครราชสีมาอันดับ 2 ตามมาด้วย บึงแก่นนคร ทำเลมหาลัยขอนแก่นและ บ้านใหม่-โคกกรวด

 5 ทำเล ที่มีจำนวนหน่วยเหลือขายมากที่สุดใน 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ อันดับ 1 ทำเลจอหอ จำนวน 1,337 หน่วย มูลค่า 4,239 ล้านบาท อันดับ 2 ทำเลในเมืองนครราชสีมา จำนวน 1,219 หน่วย มูลค่า 5,252 ล้านบาท  อันดับ 3 ทำเลบึงแก่นนคร จำนวน 843 หน่วย มูลค่า 2,224 ล้านบาท อันดับ 4  ทำเลม.ขอนแก่น จำนวน 815 หน่วย มูลค่า 1,620 ล้านบาท  อันดับ 5 ทำเลบ้านใหม่-โคกกรวด จำนวน 808 หน่วย มูลค่า 2,233 ล้านบาท 

โดยระดับราคาที่มีหน่วยเหลือขายมากที่สุดคือ 3.01-5.00 ล้านบาท มีจำนวนถึง 3,332 หน่วย มูลค่า 13,310 ล้านบาท อุปสงค์โดยรวม  พบว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 2,312 หน่วย มูลค่า 8,325 ล้านบาท  ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 1,843 หน่วย มูลค่า 6,936 ล้านบาท และอาคารชุดเพียง 469 หน่วย มูลค่า 1,389 ล้านบาท
 

สำหรับทำเลที่มีหน่วยขายได้สูงสุด 5 อันดับแรกคือ อันดับ 1 บึงแก่นนคร จำนวน 281 หน่วย มูลค่า 751.3 ล้านบาท  อันดับ 2 จอหอ จำนวน 216 หน่วย มูลค่า 688.6 ล้านบาท อันดับ 3 ในเมืองนครราชสีมา จำนวน 188 หน่วย มูลค่า 636.0 ล้านบาท  อันดับ 4 บ้านใหม่-โคกกรวด จำนวน 152 หน่วย มูลค่า 444.3 ล้านบาท และอันดับ 5 บ้านเป็ด จำนวน134 หน่วย  มูลค่า 485.3 ล้านบาท 

ภาพรวมจังหวัดนครราชสีมา

สำหรับปี 2565 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดนครราชสีมา มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 5,946 หน่วย มูลค่า 22,980 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 และ ร้อยละ 10.7 โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 4,839 หน่วย มูลค่า 19,893 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 1,107 หน่วย มูลค่า 3,087 ล้านบาท

โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 582 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.3 มูลค่า 3,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 179.7 ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 947 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.8 มูลค่า 4,137 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.4 และจำนวนหน่วยเหลือขาย 4,999 หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 มูลค่า 18,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 (YoY)  
 

ภาพรวมจังหวัดขอนแก่น

สำหรับปี 2565 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดขอนแก่น มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 4,439 หน่วย มูลค่า 12,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 และ ร้อยละ 1.1 โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 3,166 หน่วย มูลค่า 10,176 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 1,273 หน่วย มูลค่า 2,147 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,184 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 301.4 มูลค่า 2,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 204.0 ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 871 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.4 มูลค่า 2,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.2 และจำนวนหน่วยเหลือขาย 3,568 หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 มูลค่า 9,852 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -4.3เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 (YoY)  


 ภาพรวมจังหวัดอุบลราชธานี

สำหรับปี 2565 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดอุบลราชธานี มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 1,272 หน่วย มูลค่า 3,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.6 และ ร้อยละ 41.4 โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 1,153 หน่วย มูลค่า 3,736 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 119 หน่วย มูลค่า 190 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 244 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 803.7 มูลค่า 572 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 825.3 ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 227 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.6 มูลค่า 682 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.8 และจำนวนหน่วยเหลือขาย 1,045 หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 มูลค่า 3,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 (YoY)  

ภาพรวมจังหวัดอุดรธานี 

สำหรับปี 2565 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดอุดรธานี มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 1,144 หน่วย มูลค่า 4,623 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -17.5 และ ร้อยละ -18.8 โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 1,136 หน่วย มูลค่า 4,610 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 8 หน่วย มูลค่า 13 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 365 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 114.7 มูลค่า 1,959 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 199.3 ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 207 หน่วย ลดลงร้อยละ -16.5 มูลค่า 828 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -3.2 และจำนวนหน่วยเหลือขาย 937 หน่วยลดลงร้อยละ -17.7 มูลค่า 3,795 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -21.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 (YoY)  

ภาพรวมจังหวัดมหาสารคาม

สำหรับปี 2565 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดมหาสารคาม มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 390 หน่วย มูลค่า 1,320 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -34.2 และ ร้อยละ -29.7 โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 372 หน่วย มูลค่า 1,306 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 18 หน่วย มูลค่า 14 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 8 หน่วย ลดลงร้อยละ -46.7 มูลค่า 15 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -72.0 ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 60 หน่วย ลดลงร้อยละ -38.1 มูลค่า 206 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -50.9 และจำนวนหน่วยเหลือขาย 330 หน่วยลดลงร้อยละ -33.5 มูลค่า 1,114 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -23.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 (YoY)