อสังหาฯ ผนึกกำลังปลุกตลาด ‘ตรึงราคาบ้าน’ สวนทางต้นทุนปั๊มยอดโต

อสังหาฯ ผนึกกำลังปลุกตลาด ‘ตรึงราคาบ้าน’ สวนทางต้นทุนปั๊มยอดโต

สมาคมอสังหาฯ ประเมินผู้ประกอบการบ้านวางกลยุทธ์ "ตรึงราคา" หวังกระตุ้นกำลังซื้อ พร้อมอัดแคมเปญ หั่นราคาแรง งานมหกรรมบ้านและคอนโด ดึงสถาบันการเงินพร้อมให้สินเชื่อ​

นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ภาพรวมราคาที่อยู่อาศัยในปี 2566 มีแนวโน้มทรงตัว และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยังกำหนดราคาขายที่เท่าเดิม เพื่อร่วมกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค แม้ว่าราคาต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ จะปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดมีแนวโน้มที่ชะลอตัว ตามผู้บริโภคที่มีการชะลอการใช้จ่าย แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวยังมีการขยายตัวที่ดี

ทั้งนี้อยากให้ภาครัฐมีการเร่งแก้ไขในมาตรการ บ้านบีโอไอ หลังแรก ในต่างจังหวัด จากในปัจจุบันอยู่ที่ 1 ล้านบาท และใน กทม. 1.2 ล้านบาท อยากให้ปรับมาตรการเป็น 1.5 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ โดยเฉพาะตลาดบ้านราคานี้ ที่มีความต้องการในตลาดสูงมาก

นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในปี 2566 เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมที่กลุ่มสร้างจีดีพีหลักในสัดส่วน 50% ของประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวลง จึงอยากให้ภาครัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาร่วมบริหารประเทศนับจากนี้ มีการออกนโยบายเพื่อกระตุ้นตลาดโดยรวม

สำหรับภาพรวมกำลังซื้อในตลาดประเมินว่า บ้านที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ผู้บริโภคอาจจะมีความกังวลในเรื่องการขอสินเชื่อ และเป็นกลุ่มที่ถูกปฏิเสธการขอสินเชื่อมากสุด ส่วนบ้านราคา 3-5 ล้านบาท อาจจะมีความกังวลในเรื่องภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนบ้านที่มีราคาตั้งแต่ 5-10 ล้านบาท ยังเป็นตลาดที่มีการขยายตัวและผู้บริโภคจะไม่มีความกังวลในเรื่องค่าใช้จ่าย

อสังหาฯ ผนึกกำลังปลุกตลาด ‘ตรึงราคาบ้าน’ สวนทางต้นทุนปั๊มยอดโต นายพีระพงษ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ตลาดที่มีการขยายตัวได้ดีจะเป็น ตลาดคอนโดมิเนียมคาดว่าจะมีการเติบโต 30% จากกำลังซื้อที่กลับมาหลังจากชะลอตัวไปในช่วงโควิด โดยเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการซื้อเพื่อลงทุนด้วย ซึ่งการลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมมีการเติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ราคาคอนโดมิเนียมในเมือง มีการเติบโต 100% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่าง ทำเลทองหล่อ คอนโดมิเนียม ในช่วง 10 ปีก่อน จะมีราคา 1.20 แสนบาทต่อ ตร.ม. แต่ในปัจจุบันเพิ่มมาเป็น 2.4-2.5 แสนบาทต่อ ตร.ม. ส่วนทำเลบางนา จาก 10 ปีก่อนที่มีราคา 6 หมื่นบาทต่อ ตร.ม. ในปัจจุบันปรับเพิ่มมาเป็น 1.2 แสนบาท ต่อ ตร.ม. แล้ว 

สำหรับตลาดบ้านจัดสรรคาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัว แต่ตลาดบ้านในระดับราคา 10 ล้านบาทที่เป็นกลุ่มบ้านหรูคาดว่าจะกลับมาเติบโตแรง หลังจากโควิดอยู่ในภาวะทรงตัว รวมถึงบ้านราคา 50-100 ล้านบาท จะเป็นตลาดที่มาแรงและมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เร่งขยายตลาด เพื่อเจาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง

ขณะที่การจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 ประเมินว่า ผู้ประกอบการจะมีการแข่งขันในเรื่องการลดราคาบ้าน เพื่อร่วมกระตุ้นกำลังซื้อโดยรวม แม้ว่าภาพรวมต้นทุนการดำเนินธุรกิจจะสูงขึ้นก็ตาม จึงเป็นช่วงเวลาของผู้ซื้อและผู้ลงทุน

อสังหาฯ ผนึกกำลังปลุกตลาด ‘ตรึงราคาบ้าน’ สวนทางต้นทุนปั๊มยอดโต นายวิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการกลับมาจัดอีกครั้งหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบกว่า 2 ปี โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเข้ามาร่วมงาน 200 บริษัท รวมกว่า 1,000 โครงการ และมีสถาบันการเงินพร้อมให้สินเชื่อและคำแนะนำอย่างครบวงจร ทั้งนี้งานมีกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 23-26 มี.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวต่อว่า การจัดงาน มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 นี้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดในงานมากกว่า 3,000 ล้านบาท