เอพีทุบสถิติตลาด!ลุย58โครงการ7.7หมื่นลบ.ลงสนามบ้านลักชัวรี100ล้าน!

เอพีทุบสถิติตลาด!ลุย58โครงการ7.7หมื่นลบ.ลงสนามบ้านลักชัวรี100ล้าน!

เอพี ทุบสถิติเปิด58โครงการมูลค่า7.7หมื่นล้านสูงสุดในตลาดอสังหาฯขยายฐานบ้านไฮเอนด์ระดับราคา100ล้านเป็นครั้งแรกพร้อมปั้นเทรนเนอร์ดิลิเวอรี่นำร่องธุรกิจใหม่หวังลดความเสี่ยงสร้างรายได้ระยะยาวตั้งเป้ายอดขาย5.8หมื่นล้าน

สัญญาณบวกของเศรษฐกิจผลกระกอบการ “New High Record” ในทุกด้าน ของบิ๊กคอร์ปอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย “เอพี ไทยแลนด์” ไม่ว่าจะด้านจำนวน การเปิดตัวโครงการใหม่สูงถึง 51 โครงการ มูลค่ากว่า 63,600 ล้านบาท ยอดขายเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทะลุไปที่ 50,415 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 44% รวมถึงยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนชัดเจนถึงความแข็งแกร่งและความพร้อมของ “เอพี” ในการสานต่อแผนธุรกิจกระต่ายนี้

วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ถือว่าเริ่มมีสัญญาณที่ดีหลายธุรกิจเริ่มขยับตัวขึ้น แม้ยังต้องเผชิญกับปัจจัยลบจากภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น แต่เชื่อว่าจากปัจจัยบวกในเรื่องของการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศจะกระตุ้นให้คนมีอารมณ์ซื้อเพิ่มขึ้น 

ในส่วนของธุรกิจอสังหาฯ ปีที่ผ่านมามีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นสะท้อนได้ถึงภาพตลาดที่เริ่มฟื้นตัว จึงมั่นใจว่าอสังหาฯ ปีนี้ดีกว่า 2 ปีที่ผ่านมา

ดังนั้นในปี 2566 บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้แผน “AP INCLUSIVE GROWTH” ที่สุดของปีกับการเติบโตร่วมกัน ด้วยแผนการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ควบคู่ไปกับการขยายภาคธุรกิจ โดยใช้ความชำนาญที่มีมาสร้างโอกาสและข้อได้เปรียบให้เกิดขึ้นในหลากหลายมิติ ภายใต้ปรัชญาที่ต้องการส่งมอบชีวิตดีๆ ที่ทุกคนเลือกเองได้ ผ่าน 3 มิติ ดังนี้

 

1.DIVE DEEPER IN PROPERTY BUSINESS ทำงานแบบเจาะลึก ผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และกลุ่มธุรกิจพัฒนาทาวน์โฮมด้วยแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาดจำนวน 58 โครงการ มูลค่ากว่า 77,000 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 22 โครงการ มูลค่า 34,800 ล้านบาท ทาวน์โฮม 27 โครงการ มูลค่า 26,400 ล้านบาท คอนโด 4 โครงการ มูลค่า 11,800 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท 

ส่งผลให้ทั้งปี “เอพี” จะมีโครงการพร้อมขายทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด กว่า 192 โครงการ มูลค่า 165,600 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขาย 58,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 57,500 ล้านบาท

เอพีทุบสถิติตลาด!ลุย58โครงการ7.7หมื่นลบ.ลงสนามบ้านลักชัวรี100ล้าน!

 ปั้นเทรนเนอร์เดลิเวอรี่นำร่องธุรกิจใหม่

2. HATCH NEW BUSINESS ด้วยการต่อยอดความชำนาญด้วยการค้นหา “ช่องว่าง” ตลาดใหม่เพื่อลดคววามเสี่ยงและข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิอสังหาฯ จากการหาที่ดินในการก่อสร้างและราคาต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดได้พัฒนา FitFriend เทรนเนอร์เดลิเวอรี่ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพผ่านสมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเมนท์ (SMART) เพื่อให้บริการแก่ลูกบ้านที่สมาร์ทบริหารจัดการกว่า 370 โครงการ ในอนาคตจะพัฒนาบริการต่างๆ ในรูปแบบของการบอกรับเป็นสมาชิก (subscription) เข้ามาเสริมมากขึ้น เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ที่นอกเหนือจากการขายอสังหาฯ เพื่อสร้างรายได้ประจำ
 

3. PEOPLE & SOCIAL ร่วมขับเคลื่อนสังคมให้เติบโตไปร่วมกัน ด้วยการให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพ “คน” ด้วยการมอบทักษะแห่งอนาคตให้พนักงานในเครือ นิสิต นักศึกษา หรือบัณฑิตผู้พิการ เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนมีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ ผ่านโครงการเพื่อสังคมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AP OPEN HOUSE โปรแกรมฝึกงานของนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ หรือแคมเปญ I AM POWER ที่จัดขึ้น เพื่อเอ็มพาวเวอร์บัณฑิตผู้พิการให้มีโอกาสเข้าถึงทักษะการทำงานใหม่ๆ

วิทการ กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทจะขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมตลาดทุกเซ็กเมนต์ทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว คอนโด โดยขยายเซ็กเมนต์ระดับลักชัวรีมากขึ้น รองรับความต้องการตลาดจากปีที่ผ่านมาเน้นตลาดระดับกลางล่าง ราคา 3-5 ล้านบาท ขยับขึ้นมาเซ็กเมนต์ราคาสูงขึ้น เป็นบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี ราคา 20-50 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี ราคา 50-100 ล้านบาทเป็นครั้งแรกของเอพี! จากปกติราคาสูงจะอยู่ที่ 20 ล้านบาท 

ทั้งนี้ด้วยขนาดองค์กรที่มียอดขายกว่า 50,000 ล้านบาท จำเป็นต้องมีสินค้าที่หลากหลายและครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด

เอพีทุบสถิติตลาด!ลุย58โครงการ7.7หมื่นลบ.ลงสนามบ้านลักชัวรี100ล้าน!

เจาะตลาดบ้านแฝด 2-3ชั้นขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง

เมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม กล่าวเสริมว่า ปีนี้จะเปิดตัวทาวน์โฮมใหม่ 27 โครงการ มูลค่า 26,400 ล้านบาท ครอบคลุม 6 ซับแบรนด์ ระดับราคา 1.69-25 ล้านบาท ไฮไลต์สำคัญ คือ การขยายพอร์ตสินค้าในกลุ่มบ้านแฝดมากขึ้น

เอพีทุบสถิติตลาด!ลุย58โครงการ7.7หมื่นลบ.ลงสนามบ้านลักชัวรี100ล้าน!

ด้วยแบรนด์ บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น บ้านแฝด 3 ชั้น  ราคา 8-12 ล้านบาท เพราะมีผู้เล่นน้อยรายและ แกรนด์ พลีโน่ บ้านแฝด 2 ชั้นราคา 6-8 ล้านบาท เพื่อให้มีส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในปีนี้ รวมถึงการเปิดตัว ลักชัวรี ทาวน์โฮม

เอพีทุบสถิติตลาด!ลุย58โครงการ7.7หมื่นลบ.ลงสนามบ้านลักชัวรี100ล้าน!

รุกบ้านเดี่ยวซูเปอร์ลักชัวรี 100 ล้านครั้งแรก

รัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว กล่าวว่า ปีนี้จะเปิดตัว 22 โครงการ มูลค่า 34,800 ล้านบาท ไฮไลต์สำคัญคือการรุกเข้ามาในตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี 20-50 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี ราคา 50-100 ล้านบาท เป็นครั้งแรก

เอพีทุบสถิติตลาด!ลุย58โครงการ7.7หมื่นลบ.ลงสนามบ้านลักชัวรี100ล้าน!

โดยเปิดตัว เดอะ ซิตี้ บ้านเดี่ยวโมเดลใหม่ พื้นที่ 100-127 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 386-560 ตารางเมตร 3 โครงการ ทำเล จรัญฯ-ปิ่นเกล้า, ปิ่นเกล้า-บรมฯ 3 และ สุขุมวิท-อ่อนนุช นอกจากนั้นจะเปิดตัวโครงการบ้านกลางกรุง บ้านเดี่ยว 4 - 5 ชั้น ทำเลในเมือง ราคา 30-50 ล้านบาท รวมถึงคฤหาสน์หรู แบรนด์ เดอะ พาลาสโซ่ราคา 70-100 ล้านบาท

เอพีทุบสถิติตลาด!ลุย58โครงการ7.7หมื่นลบ.ลงสนามบ้านลักชัวรี100ล้าน!

ผุดคอนโด 4 โครงการรับตลาดฟื้น

กมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสิ นค้าคอนโดมิเนียม กล่าวด้วยว่า ภาพรวมตลาดคอนโดปีนี้น่าจะฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะใกล้เคียงก่อนเผชิญโควิด  ซึ่งหากดูจากยอดขายคอนโดเครือเอพีปีที่ผ่านมาซึ่งเติบโตกว่า 4 เท่า หรือคิดเป็น 11,440 ล้านบาท

เอพีทุบสถิติตลาด!ลุย58โครงการ7.7หมื่นลบ.ลงสนามบ้านลักชัวรี100ล้าน!

ปีนี้กลุ่มธุรกิจคอนโดเตรียมเปิดตัว 4 คอนโดใหม่ มูลค่ารวม 11,800 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยโครงการ ไลฟ์ พหล-ลาดพร้าว  มูลค่า 3,500 ล้านบาท จำนวน 598 ยูนิต เปิดพรีเซลเดือนมิ.ย.นี้ 

เอพีทุบสถิติตลาด!ลุย58โครงการ7.7หมื่นลบ.ลงสนามบ้านลักชัวรี100ล้าน!

โครงการ ริธึ่ม  มูลค่า4,500 ล้านบาท จำนวน 584 ยูนิต เป็นโครงการร่วมทุน ทำเลตรงข้ามไอคอนสยาม !  โครงการแอสไปร์ วิภา-วิคตอรี มูลค่า2,300 ล้านบาท จำนวน 593 ยูนิตและโครงการแอสไปร์ เกษตร-พหล 49 มูลค่า1,500 ล้านบาท จำนวน 622 ยูนิต