นายกสมาคมอาคารชุดไทยจ่อถกบีโอไอเพิ่มเพดานคอนโดบีโอไอเป็น1.5 ล้าน

นายกสมาคมอาคารชุดไทยจ่อถกบีโอไอเพิ่มเพดานคอนโดบีโอไอเป็น1.5 ล้าน

สมาคมอาคารชุดไทยจ่อถกบอร์ดบีโอไอ ขอขยับราคาคอนโดบีโอไอเพิ่มเป็น 1.5 ล้านจากปกติขายอยู่ที่ 1.2ล้านต่อยูนิตในพื้นที่กรุงเทพฯ–ปริมณฑล

นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทางสมาคมอาคารชุดไทยกำลังประสานงานไปยังคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI เพื่อเข้าไปหารือถึงแนวทางในการขยายเพดานราคาของคอนโดบีโอไอ ซึ่งปัจจุบันได้กำหนดราคาขายของห้องชุดขนาดเริ่มต้น 24 ตารางเมตรไว้ไม่เกิน 1.2 ล้านบาทเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดกำหนดราคาขายไว้ไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยจะเสนอขอปรับราคาขายเพิ่มเป็นไม่เกิน 1.5 ล้านบาทในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล

สำหรับทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566  นั้น ตามปกติภาคธุรกิจอสังหาฯจะขยายตัวตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีการประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าว่าน่าจะเติบโตเฉลี่ย 4.7% ประกอบกับภาครัฐมีการการประกาศเปิดประเทศมากขึ้น ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเมืองไทยมากขึ้นคาดว่าสูงถึง 20 ล้านคน ส่งผลให้เกิดการจ้างงานในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ทั้งธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร สปา เป็นต้น

คาดว่า ส่งผลให้ดีมานด์กลุ่มคนทำงานจะหาซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะคอนโดระดับราคา 2-3 ล้านบาทจะเติบโตมากขึ้นรวมถึงกลุ่มคอนโดราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทหรือ Budget Condo รองรับกลุ่มลูกค้าที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) ที่ต้องการเริ่มต้นสร้างครอบครัวแต่ยังมีรายได้ไม่สูงนัก คาดว่าจะกลับมาได้รับความต้องการมากขึ้นทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวทั้งพัทยา หัวหิน เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งยังมีจำนวนโครงการที่เปิดตัวออกสู่ตลาดจำนวนไม่มาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนรราคาที่ดิน ค่าจ้างแรงงาน และค่าก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น

นายพีระพงศ์   กล่าวว่า ในปีหน้าคงต้องรอประเมินสถานการณ์ตลาดอสังหาฯในช่วงครึ่งปีแรกดูก่อนว่ากำลังซื้อจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง แต่เชื่อมั่นว่าการขายและการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในปีหน้าจะกลับมาใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19ส่วนการผ่อนคลายมาตรการ LTV ที่จะสิ้นสุดในปี 2565  นั้น เข้ามาช่วยแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงเกิดการระบาดโควิด-19 ได้มาก โดยเฉพาะการซื้อบ้านบ้านหลังที่ 2 และหลังที่ 3 รวมถึงบ้านราคาเกิน 10 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นให้กลุ่มคนซื้อที่มีศักยภาพและมีเงินฝากตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น

ขณะเดียวกันนี้ นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันการพัฒนาโครงการคอนโดเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยยากขึ้น เนื่องจากต้นทุนที่ดินแพง ค่าก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง ค่าแรงเพิ่มขึ้น กฏหมายเข้มงวดขึ้น  ดังนั้นรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาให้การสนับสนุนเพื่อเปิดโอกาสให้คนที่มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการคอนโดบีโอไอ ที่เคยได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ ที่มีระดับราคาอยู่ที่ 1.2ล้านบาท นั้น ทำได้อยากขึ้น