‘พาณิชย์’ ติดอาวุธธุรกิจ SMEs ต้นกล้า ทู โกล’64 พร้อมพาบุกช่องทางการค้าใหม่

‘พาณิชย์’ ติดอาวุธธุรกิจ SMEs ต้นกล้า ทู โกล’64 พร้อมพาบุกช่องทางการค้าใหม่

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA เผยความสำเร็จติวเข้มผู้ประกอบการ SMEs ท้องถิ่นกว่า 75 ราย

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA เผยความสำเร็จติวเข้มผู้ประกอบการ SMEs ท้องถิ่นกว่า 75 ราย ผ่านโครงการต้นกล้า ทู โกล ประจำปี 2564 ปรับแผนธุรกิจเชิงรุก พัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ธุรกิจ SMEsเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย คือ ผู้ผลิตสินค้าหลากหลายประเภทที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าสมุนไพร เครื่องสำอาง สินค้าสปา เป็นต้น และเป็นแหล่งจ้างงานจำนวนมหาศาล ดังนั้น การสนับสนุนธุรกิจกลุ่มนี้ให้อยู่รอดและเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศ

“กระทรวงฯ ได้สนับสนุนการหาช่องทางจัดจำหน่ายที่เหมาะสมให้กับ SMEs พร้อมจัดโครงการเพื่อสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายเดิมพัฒนาศักยภาพของธุรกิจ เพื่อคว้าโอกาสใหม่ๆ ในตลาดการค้าในปัจจุบันและอนาคต”

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA ได้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพ SMEs มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในโครงการที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทุกปี คือ โครงการสร้าง SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล (ต้นกล้า ทู โกล) ที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 10 สถาบันฯ ได้เฟ้นหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาติวเข้มด้านการค้าระหว่างประเทศ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ท้องถิ่นสามารถพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในตลาดเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 การดำเนินโครงการแบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่ การเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ การสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์และการจัดทำแผนธุรกิจ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อต่อยอดสินค้านวัตกรรมในเชิงสร้างสรรค์  และการเจรจาการค้ากับคู่ค้าที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ปัจจุบัน การอบรมเสร็จสิ้นไปแล้ว 2 ระยะ ซึ่งผู้เข้าอบรมมากกว่า 75 บริษัท สามารถปรับและเขียนแผนธุรกิจ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และหาช่องทางจัดจำหน่ายที่เหมาะสม เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าเดิม โดยทางโครงการได้จัดประกวดและมอบรางวัลการเขียนแผนธุรกิจเชิงสร้างสรรค์จำนวน 3 รางวัล ให้กับผู้ชนะจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก

สำหรับระยะที่ 3 และ 4 ที่จัดขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2564 ผู้ร่วมโครงการเรียนรู้การสร้างสรรค์และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และดึงดูดใจผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น มีการประกวดรางวัลการออกแบบบรรจุภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์จำนวน 3 รางวัล นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะได้ร่วมกิจกรรมเจรจาการค้า (Business Matching) ออนไลน์ผ่านระบบ zoom กับผู้ซื้อทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 10 ราย เช่น เซ็นทรัล กรุ๊ป เดอะมอลล์ กรุ๊ป คิงส์ พาวเวอร์ฯลฯ และจัดแสดงนิทรรศการสินค้าออนไลน์ ในวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ซึ่งคาดว่า จะมียอดสั่งซื้อสินค้าภายใน 1 ปี มูลค่าไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการต้นกล้า ทู โกล ประจำปี 2564 มีผู้สมัครร่วมโครงการรวม 645 ราย จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และส่วนกลาง และมีนิติบุคคลผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมอบรมในโครงการในระยะ 2-4 มากกว่า 75 ราย ผู้ผ่านการอบรมครบทุกระยะจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น รับคัดเลือกให้จำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในประเทศจีน พร้อมร่วมโครงการ SMEs Pro-active และกิจกรรมแสดงสินค้าของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวการอบรมของ NEA ได้ที่ https://nea.ditp.go.th หรือ https://www.facebook.com/nea.ditp หรือ DITP Service Center โทร. 1169