ถอดแนวคิดบริหารคนฉบับลิกซิล “ทุกคนคือผู้นำ”

ช่วงปี 2563 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับทุกคนในโลกธุรกิจที่ล้วนได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง รวมถึงประเทศไทย แต่มองอีกด้านหนึ่ง 2563 นับเป็นปีแห่งการเรียนรู้ของภาคธุรกิจที่หันมาปรับตัวสร้างแนวทางการบริหารรูปแบบใหม่โดยถอดบทเรียนจากโควิด-19 มาใช้เป็นประสบการณ์ตรงที่ทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน   ลิกซิลก็เช่นเดียวกัน โควิดไม่เพียงแต่เป็นบทเรียน แต่ยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ผลักดันให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กร  โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในการปรับตัวเข้าสู่ “ชีวิตวิถีใหม่” หรือ ”New Normal” ทุกคนจึงต่างให้ความสำคัญกับสุขอนามัย

นายซาโตชิ โคนาไก ลีดเดอร์, กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการใช้น้ำของลิกซิล ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (LWT APAC) กล่าวว่า สุขอนามัยได้ถือเป็นแกนหลักสำคัญที่ทำให้ลิกซิลก้าวนำผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ในช่วงก่อนการแพร่ระบาด ทางองค์กรได้สอดรับแมโครเทรนด์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีผ่านการเร่งพัฒนานวัตกรรมที่เน้นในเรื่องของสุขอนามัยและเทคโนโลยีไร้สัมผัสภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ ที่มีความโดดเด่น อาทิ อเมริกันสแตนดาร์ด (American Standard) ด้วยระบบ HygieneCleanTM ที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวแห่งการออกแบบและนวัตกรรมชั้นยอด อเมริกันสแตนดาร์ด ส่งมอบสุขภัณฑ์ทั้งแบบ Sensor Flush Toilet และ Shower Toilet เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคในยุดโควิด-19 นี้ โดยมีรางวัล Most Admired Brand Award ประจำประเทศไทยเป็นตัวการันตีความนิยมถึง 5 ปีซ้อน                    

ลิกซิลเร่งเดินหน้าเปิดตัวสุขภัณฑ์และกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อนำคู่แข่งขึ้นไปอีกขั้น ยกตัวอย่างเช่น โกรเฮ่ (Grohe) ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับใช้ภายในห้องน้ำชั้นนำระดับโลกได้นำเสนอไอเดียอย่าง R&R เพื่อทำให้การใช้น้ำของผู้บริโภคกลายเป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง ในช่วงเวลาที่ทุกคนต่างถูกจำกัดการเดินทางและจำต้องใช้ชีวิตอยู่แต่กับบ้านเช่นนี้ เทคโนโลยีของโกรเฮ่จะช่วยเนรมิตช่วงเวลาแห่งความสุขแบบส่งตรงถึงบ้าน เปิดประสบการณ์ผู้ใช้ไปกับ “โฮมสปา” ที่จะทำให้คุณผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับกระแสน้ำ หนึ่งในบริการที่โดดเด่นก็คือบริการตัวเลือก ในกรณีที่ลูกค้าไม่ได้ต้องการการปรับเปลี่ยนห้องน้ำแบบยกชุด แต่ต้องการเพียงแค่ปรับเปลี่ยนดัดแปลง หรือแค่ติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างเพิ่มเติมเท่านั้น บริการตัวเลือกจะช่วยมอบประสบการณ์เหนือระดับไปอีกขั้น เอาใจผู้ใช้งานทุกคนกับบริการที่ง่ายไม่ซับซ้อน เพื่อให้แน่ใจว่าห้องน้ำจะเป็นพื้นที่ที่ให้คุณค่ามากกว่าประโยชน์ใช้สอยแก่ผู้บริโภค                   

ไม่ใช่แค่การพัฒนาเทคโนโลยีและสุขภัณฑ์ชั้นเยี่ยมเท่านั้นที่ลิกซิลให้ความสำคัญ เพราะความยั่งยืนยังถือเป็นหัวใจของแบรนด์ที่ต้องกระทำควบคู่กันไป ลิกซิลได้แสดงวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งและมีเป้าหมายในการจะก้าวขึ้นเป็นองค์กรที่มีค่าการปล่อยคาร์บอนสุทธิเท่ากับศูนย์ภายในปี 2593 นี้ ด้วยการแก้ปัญหาด้านความเป็นอยู่และการยกระดับไลฟ์สไตล์ให้กับผู้คน ตลอดจนการดำเนินงานต่าง ๆ ด้วยการยึดมั่นในเป้าหมาย LIXIL Environmental Vision 2050 (วิสัยทัศน์เพื่อสิ่งแวดล้อมของลิกซิล พ.ศ. 2593) ความตั้งมั่นเช่นนี้เน้นย้ำถึงก้าวสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศของโลกและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ในขณะที่ยังคงมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าจะสามารถส่งมอบสุขภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและให้ความสะอาดที่ไม่น้อยลงกว่าเดิมให้กับลูกค้าทุกราย                   

ในฐานะองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล ลิกซิลไม่เคยจำนนต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเดินหน้าไตร่ตรองแนวทางธุรกิจเพื่อพลิกจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง โดยแบรนด์ทราบดีว่าสภาพแวดล้อมการทำงานแบบเดิม ๆ จะไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการในอนาคตได้อีกต่อไป เนื่องจากขาดความคล่องตัวและความรวดเร็วที่จำเป็นต้องมีเพื่อเอาชนะอุปสรรคในการทำงานต่าง ๆ ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง ลิกซิลจึงเริ่มเปลี่ยนสู่วัฒนธรรมการทำงานที่มีความคล่องตัวและส่งเสริมคนทำงานมากขึ้น “ในฐานะที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ เราตระหนักในหน้าที่ที่จะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมของเรา และอย่างเช่นเคย พวกเราทุกคนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบง่าย ๆ แต่ชัดเจนได้ตั้งแต่ที่บ้าน” นายโคนาไกกล่าว                   

ลิกซิลเริ่มต้นการเดินทางสู่วัฒนธรรมการทำงานที่มีความคล่องตัวด้วยการพลิกโฉมวัฒนธรรมองค์กร โดยลดความซับซ้อนของตำแหน่งงาน นับตั้งแต่ตำแหน่งงานในระดับผู้จัดการขึ้นไป "เราตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชื่อตำแหน่งงานให้เป็นชื่อที่ทุกคนคุ้นเคย เข้าใจง่าย และให้ทุกคนรู้สึกหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว จึงได้เลือกคำว่า “ลีดเดอร์ (Leader)” มาใช้ ซึ่งจะเน้นถึงหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมากกว่าตำแหน่ง วัฒนธรรมที่ยึดคนเป็นหัวใจหลักจะช่วยส่งเสริมการทำงานและดึงศักยภาพที่แท้จริงของบุคลากรของเราออกมา ทำให้พวกเขามีความคล่องตัว มีจิตวิญญาณของการเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกัน เรียนรู้ในการเป็นผู้ริเริ่ม และมีความกระหายที่จะเสี่ยง ซึ่งล้วนแต่เป็นคุณลักษณะที่ทางองค์กรต้องการในอนาคต” นายโคนาไกเสริม “ด้วยการที่เราพัฒนาขีดความสามารถของแต่ละคนอย่างต่อเนื่องและป้อนจิตวิญญาณของความเป็นเจ้าขององค์กรเช่นนี้ ลิกซิลจะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นไป”                   

ไม่เพียงเท่านั้น การปรับเปลี่ยนดังกล่าวยังจะไปผสมผสานเข้ากับปรัชญาองค์กรที่พนักงานทุกคนยึดมั่นในพฤติกรรม 3 อย่าง (LIXIL Behaviors) นั่นก็คือ “Do The Right Thing” (ทำสิ่งที่ถูกต้อง) “Work with Respect” (ทำงานด้วยความเคารพ) และ “Experiment and Learn” (ทดลองและเรียนรู้) และเราเชื่อมั่นว่า องค์กรที่บริหารโดยยึดหลักธรรมาภิบาล รวมถึงให้ความเคารพและยอมรับในความหลากหลายและความต่างของผู้คน จะสามารถนำมาซึ่งความเชื่อใจและความกล้าที่จะสร้างสรรค์แรงบันดาลใจในการทำสิ่งใหม่ ๆ เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน