ASIA CAB หวังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแท็กซี่ไทย

ASIA CAB หวังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแท็กซี่ไทย

จับมือผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่ Geely เปิดฐานการผลิตรถยนต์“เอเชีย แค็บ AS4” อย่างเป็นทางการ เตรียมพร้อมให้บริการรถแท็กซี่พรีเมี่ยม ในปี 2563

 

บริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด ผู้ผลิตและดำเนินกิจการให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะ ร่วมมือกับ บริษัท Zhejiang Geely New Energy Commercial Vehicle Group (GVC) ค่ายรถยักษ์ใหญ่ จากประเทศจีน เปิดฐานการผลิตรถยนต์แบรนด์ ASIA CAB รุ่น AS4 ครั้งแรกในไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2562  ที่โรงงานประกอบรถยนต์ ASIA CAB ณ นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพแรงงานและเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์ในประเทศไทย และมุ่งพลิกโฉมอุตสาหกรรมแท็กซี่ไทย ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม เตรียมพร้อมให้บริการรถแท็กซี่ระดับพรีเมี่ยมที่ได้มาตรฐานสากล ในปี 2563 นี้

 

ถือเป็นก้าวแรกแห่งความภูมิใจของกลุ่มซี.เอ.เอส (C.A.S. Group) และเอเชีย แค็บ  ที่ก้าวข้ามขีดอุตสาหกรรมที่ท้าทาย ด้วยการก่อตั้งบริษัทขึ้นจากความตั้งใจที่จะยกระดับการให้บริการรถแท็กซี่ในประเทศไทยให้เทียบเท่าระดับสากล  โดยยกระดับมาตรฐาน เช่นควบคุมคุณภาพตั้งแต่รถที่จะนำมาวิ่งเป็นแท็กซี่ ต้องเป็นรถที่ ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน สำหรับเป็นรถแท็กซี่โดยเฉพาะ ไม่ใช่นำรถยนต์ทั่วไปมาทำ ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องประกอบรถเองภายใต้แบรนด์ ASIA CAB รุ่น AS4   (รูปแนบ)

 

ซึ่งรถยนต์เอเชียแค็บ AS4 นี้ คงไว้ด้วยรูปทรงคลาสสิกและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์จากรถลอนดอนแท็กซี่ รุ่น TX4ที่เป็นโมเดลต้นแบบ อาทิ ห้องโดยสารกว้างขวางขนาด 5 ที่นั่ง แผงกั้นระหว่างคนขับและห้องโดยสาร พร้อมระบบสื่อสาร intercom เสริมราวจับสำหรับผู้สูงอายุและทางลาดสำหรับรถเข็น ปุ่ม SOS ในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้วยจุดชาร์จ USB และ WIFI ตลอดการเดินทาง

 

คุณสมศักดิ์ ดารารัตนโรจน์ (ที่ 2 จากขวา) ประธานกรรมการบริหารกลุ่มซี.เอ.เอส และประธานกรรมการ บริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด กล่าว “รถเป็นมาตรฐานลอนดอน แต่คนขับจะเป็นมาตรฐานญี่ปุ่น เพราะนอกจากรถแท็กซี่แล้วการให้บริการก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เราจึงจัดให้มีการฝึกอบรมคนขับให้ได้มาตรฐานของเอเชีย แค็บ

เอเชีย แค็บ ยังเป็นผู้ประกอบการรถแท็กซี่เพียงแห่งเดียวในโลกที่ทำธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือ เริ่มตั้งแต่โรงงานประกอบรถ อบรมบุคลากร และพัฒนาเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้โดยสารมั่นใจในคุณภาพทุกครั้งที่ใช้บริการ ที่มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย สะอาด สะดวกสบาย ในราคาที่จับต้องได้

 

เรามีแผนพัฒนาระบบไอทีและแอพลิเคชั่นเพื่อการให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว เข้าถึงทุกพื้นที่ เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน และตอบโจทย์ในทุกการบริการที่เหนือระดับจากรถบริการสาธารณะทั่วไป และนี่เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้เราได้รับการสนับสนุนจากบริษัทข้ามชาติ”  ซึ่ง“การลงนามในบันทึกความเข้าใจเชิงกลยุทธ์ (MOU) กับ Zhejiang Geely New Energy Commercial Vehicle Group เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและบริษัทพาร์ทเนอร์เท่านั้น ในส่วนของการสร้างความแข็งแกร่งทางการตลาด รวมถึงกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการให้กับผู้ใช้งานจะตามมาเร็วๆนี้อย่างแน่นอน ผศ.ดร.ศรายุทธ เรืองสุวรรณ (ที่ 1 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด กล่าว

 

ทั้งนี้ เอเชีย แค็บ เดินหน้าเต็มกำลังเพื่อ ผลิตรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน และสามารถผลิตได้ถึง 1,800 คัน เพื่อเตรียมให้บริการรถแท็กซี่พรีเมี่ยมแบบครบวงจรพร้อมระบบเรียกรถผ่านแอพลิเคชั่น คาดว่าในปี 2020 จะได้เห็นรถลอนดอนแท็กซี่ในแบบของไทย มาตรฐานสากลมาวิ่งให้บริการได้อย่างแน่นอน