กรมส่งเสริมการเกษตรเตรียมความพร้อมสร้างทหารเป็นเกษตรรุ่นใหม่

กรมส่งเสริมการเกษตรเตรียมความพร้อมสร้างทหารเป็นเกษตรรุ่นใหม่

กรมส่งเสริมการเกษตรหารือร่วมกับผู้แทนกระทรวงกลาโหมและกองทัพบกเสริมความรู้ด้านเกษตรผสมผสาน หวังปั้นทหารกองประจำการป็นผู้นำด้านการเกษตรในชุมชน

 

นายชาตรี บุญนาค รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการดูแลลูกหลานของเกษตรกร ด้วยการพัฒนาและสร้างคนรุ่นใหม่เข้าสู่เกษตรยุคใหม่ เน้นผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ด้านวิชาการเกษตรทั้งระบบ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ การใช้เครื่องจักรกลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งการบริหารจัดการพื้นที่ เป็นการสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพการเกษตร การพึ่งพาตนเอง และการแข่งขันทางการค้าในอนาคต รวมถึงช่วยขับเคลื่อนชุมชนที่ตนอาศัยอยู่อย่างยั่งยืน

กรมส่งเสริมการเกษตร จึงมีแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2562 ในการสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่เพื่อสืบทอดอาชีพการเกษตร มุ่งเน้นการสร้างทายาทเกษตรกรจากรุ่นสู่รุ่น โดยเริ่มตั้งแต่การพัฒนายุวเกษตรกรให้มีความรู้และทักษะทางด้านการเกษตร สนับสนุนและจูงใจให้ลูกหลานเกษตรกรเข้ามาทำการเกษตรมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาให้เป็น Young Smart Farmer

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ทหารกองประจำการถือเป็นกำลังพลที่มีคุณภาพ เนื่องจากได้รับการฝึกให้มีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งได้รับการปลูกฝังให้มีระเบียบวินัย มีความประพฤติดี นับเป็นกำลังหลักสำคัญในการพัฒนาประเทศ กรมส่งเสริมการเกษตรตระหนักดีว่าการส่งเสริมให้มีการเตรียมความพร้อมทหารกองประจำการ ซึ่งเป็นบุตรหลานเกษตรกรให้มีความรู้ ทักษะด้านการเกษตร การใช้เทคโนโลยีทางการเกษตร การบริหารจัดการ และการตลาดสินค้าเกษตร จะเป็นการสร้างทายาทเกษตรรุ่นใหม่ที่พร้อมจะได้รับพัฒนาต่อยอดไปสู่การเป็น Young Smart Farmerเพื่อสืบทอดอาชีพการเกษตรจากบรรพบุรุษ และพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศต่อไป

กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้จัดการประชุมร่วมกับผู้แทนกรมเสมียนตรา สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และกรมกิจการพลเรือนทหารบก กองทัพบกเพื่อหารือแนวทางการดำเนินงานโครงการเตรียมความพร้อมทหารกองประจำการ สู่การเป็นทายาทเกษตรรุ่นใหม่ให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการพัฒนาความรู้และทักษะด้านการเกษตรแก่ทหารกองประจำการ ให้สามารถนำไปประกอบอาชีพมีรายได้หลังปลดประจำการ และเพื่อบ่มเพาะและสร้างทายาทเกษตรรุ่นใหม่ เป้าหมายเป็นทหารกองประจำการที่เป็นบุตรหลานเกษตรกร รวมทั้งสิ้น 120 – 150 ราย

โดยในปี 2562 กรมส่งเสริมการเกษตรจะดำเนินการฝึกอบรมให้กับทหารกองประจำการที่เป็นลูกหลานเกษตรกรและมีความสนใจงานด้านการเกษตรในพื้นที่นำร่อง จำนวน 6 จุดๆ ละประมาณ 20 – 30 ราย ซึ่งได้ทำการคัดเลือกจุดนำร่องตามสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 – 6 (สสก.) สำนักงานละ 1 แห่ง ได้แก่ 1. สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 จังหวัดชัยนาท จะร่วมดำเนินการกับมณฑลทหารบกที่ 13 อำเภอเมืองลพบุรี จ.ลพบุรี โดยใช้ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.ลพบุรี เป็นจุดฝึกอบรม2. สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี จะร่วมดำเนินการกับมณฑลทหารบกที่ 17 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรีโดยใช้ศูนย์ส่งเสริมเยาวชนเกษตรอาเซียน จ.กาญจนุบรี เป็นจุดฝึกอบรม3. สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง จะร่วมดำเนินการกับมณฑลทหารบกที่ 14 ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรีโดยมีศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.ระยอง เป็นจุดฝึกอบรม4. สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่นจัดการฝึกอบรมที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.ขอนแก่น 5. สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิตจ.สุราษฎร์ธานี จะดำเนินการฝึกอบรมที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.สุราษฎร์ธานี และ 6. สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่จะดำเนินการจัดฝึกอบรมที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.เชียงใหม่ สำหรับหลักสูตรจะแบ่งเป็นหลักสูตรพื้นฐาน การทำการเกษตรผสมผสาน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะเวลา 5 วัน และหลักสูตรเพิ่มทักษะอาชีพการเกษตรเฉพาะด้าน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความต้องการของทหารแต่ละคน ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรจะได้ส่งไปฝึกอบรมตามศูนย์ปฏิบัติการของกรมที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ซึ่งมีอยู่กว่า 50 แห่งทั่วประเทศต่อไป

"ภายหลังจากที่ทหารที่ผ่านการอบรมเหล่านี้ปลดประจำการแล้ว และกลับไปประกอบอาชีพที่บ้านเกิด กรมส่งเสริมการเกษตรจะได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่นั้นๆ ติดตามผลการนำความรู้ไปปรับใช้และให้การส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น การอบรมความรู้เฉพาะด้านเพิ่มเติม รวมทั้งการให้คำแนะนำในการเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของรัฐบาลตามความเหมาะสม" รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวในที่สุด