ไทยเบฟ ร่วมยกระดับภูมิปัญญาไทยสู่สากล ใน OTOP City 2025 วันนี้ – 28 ธ.ค. 68 นี้

ไทยเบฟ ผนึกเครือข่ายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับภูมิปัญญาไทยสู่สากล ในงาน OTOP City 2025 ตั้งแต่วันนี้ – 28 ธ.ค. 68 นี้
กรมการพัฒนาชุมชน โดย กระทรวงมหาดไทย จัดงาน OTOP City 2025 ภายใต้ธีมงานแนวคิด “Heaven’s Gift A Legacy of Giving ของขวัญจากฟ้า สานคุณค่าสู่ปวงชน” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นดั่ง “แสงจากฟ้า” ที่ส่องนำให้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ความวิจิตรของหัตถศิลป์ไทย และทักษะของชาวบ้านในชุมชนต่างๆ กลับมามีชีวิต มีคุณค่า กลายเป็นพลังทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศได้อย่างยั่งยืน พร้อมเชิญชวนคนไทยช้อปผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นของขวัญของฝากที่ดีที่สุดจาก ภูมิปัญญาไทย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่จัดขึ้นระหว่างวันนี้ - วันที่ 28 ธันวาคม 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานมีการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เพิ่มช่องทางการตลาดผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ สร้างโอกาสในการเรียนรู้และเพิ่มทักษะในการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และ OTOP ชวนชิม
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท รู้รักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนทั่วประเทศ และมุ่งเน้นพัฒนา เศรษฐกิจฐานราก ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน โดยการจัดบูธนิทรรศการสำหรับจำหน่ายสินค้าชุมชน โดยแบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่
1. โซน Pavillion เศรษฐกิจฐานราก สินค้าจากเครือข่ายรู้รักสามัคคี ชุมชนในเครือข่ายสารพัดสรรพศิลป์ และชุมชนดีมีรอยยิ้ม
2. โซนร้านกาแฟ ภายใต้โครงการชุมชนดีมีรอยยิ้มจังหวัดน่า กาแฟลัวะ สายพันธุ์อาราบิก้าตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาสูงล้อมรายรอบด้วยป่าไม้สูง 1,200 -1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง การเพาะปลูกกาแฟบนความสูงระดับนี้ทำให้เมล็ดกาแฟสามารถสะสมอาหารได้อย่างเต็มที่ ด้วยการปลูกกาแฟในรูปแบบของกาแฟอินทรีย์ งดใช้สารเคมีทำให้พื้นที่ป่าเกิดความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางธรรมชาติ ด้วยมีห้วยขาบ ห้วยหมี เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่สะอาดไหลผ่านตลอดทั้งปี เหมาะแก่การปลูกกาแฟ อีกทั้งบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงมีบ่อเกลือภูเขา ของอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่านทำให้รสชาติกาแฟมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และผสมผสานความหวานบริสุทธิ์ของ น้ำอ้อยอินทรีย์ไร่อิ่มบุญ ในเครือข่ายรู้รักสามัคคี จ.สุโขทัย อ้อยที่ปลูกโดยไม่พึ่งสารเคมี เคี่ยวอย่างพิถีพิถัน ให้ความหวานนุ่ม กลมกล่อม ไม่กลบตัวตนของวัตถุดิบอื่น เติมเต็มด้วยความเนียนนุ่มของไอศกรีมนมแพะ จ.สตูล นมแพะสดจากฟาร์มเล็กๆ ทางใต้ รสละมุน ย่อยง่าย หอมมันอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อทุกพื้นที่ ทุกวิถีชีวิต มาพบกันในถ้วยเดียว จึงเกิดเป็นไอศกรีมที่ไม่ได้มีแค่รสชาติแต่มีเรื่องราวของชุมชน ความตั้งใจ และความยั่งยืนจากเหนือจรดใต้ของประเทศไทย
3. โซนผ้าขาวม้าในบูธมาตรฐาน 12 บูท: โซนบูธผ้าขาวม้า เรียนรู้ ชม ช้อป ครบในที่เดียว ปีนี้โซนบูธผ้าขาวม้า ภายใต้ โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย ขอชวนทุกท่านมาสัมผัสเสน่ห์ผ้าทอไทยอย่างใกล้ชิด ผ่านกิจกรรมและคอลเลกชันพิเศษที่ยกมาไว้ในงานเดียว สาธิตการทอผ้าจริงจากกี่ทอมือ โดย ผ้าฝ้ายอำพัน ยกกี่ทอผ้ามาถึงหน้างาน เปิดพื้นที่การเรียนรู้เป็นรอบๆ ให้ผู้สนใจได้ชมขั้นตอนการทอผ้าอย่างใกล้ชิด พร้อมพูดคุย แลกเปลี่ยน และเข้าใจคุณค่าภูมิปัญญาผ้าทอไทยจากช่างทอตัวจริง ผลงานผ้าขาวม้าสู่เวทีสากล กับเสื้อผ้าจาก Natrada Cotton ผลงานจากทายาทผ้าขาวม้าที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน ยกคอลเลกชันมาจำหน่ายให้เลือกชมและเลือกช้อปภายในงาน ผ้าฝ้ายทอมือโทนขาว–ดำ ดีไซน์ร่วมสมัย เสื้อผ้าและไอเทมจากผ้าฝ้ายทอมือที่ออกแบบใหม่ให้สวมใส่ได้ทั้งในวันทำงานและชีวิตประจำวัน เรียบ เท่ ใส่ง่าย แต่ยังคงเอกลักษณ์งานหัตถศิลป์ไทย คอลเลกชันใหม่จากโครงการ Creative Designer ผลงานการนำผ้าขาวม้ามาต่อยอดผ่านมุมมองนักออกแบบรุ่นใหม่ ตัดเย็บให้ร่วมสมัย สวมใส่ง่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง พบกันได้ที่บูธชุมชน โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย มาสัมผัสเรื่องราวของผ้า วิถีชุมชน และพลังสร้างสรรค์ที่เชื่อมอดีต ปัจจุบัน และอนาคตไว้ด้วยกัน
ขอเชิญชวนแฟนพันธุ์แท้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากชุมชน มาชม ชิม ช้อป และภาคภูมิใจกับผลิตภัณฑ์จาก ภูมิปัญญาไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการ วันนี้ - 28 ธันวาคม 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี







