TPIPP ประกาศข่าวดีส่งท้ายปี โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะฯ สงขลาเริ่มเปิดดำเนินการ

TPIPP เริ่มเปิดดำเนินการ โครงการกำจัดขยะเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง การจัดการมูลฝอย พ.ศ.2560 ที่ ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะเป็นบริษัท Carbon-Free Power Plant หรือ โรงไฟฟ้าไร้คาร์บอน ด้วยการเริ่มเปิดดำเนินการ โครงการกำจัดขยะเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง การจัดการมูลฝอย พ.ศ.2560 ที่ ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา การเริ่มเปิดดำเนินการโครงการนี้จะช่วยเรื่องการกำจัดขยะมูลฝอยของจังหวัดสงขลา และยังช่วยเรื่องความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในพื้นที่ นอกจากนี้ บริษัท ทีพีไอ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด เพาเวอร์ (มหาชน) ยังเป็นหนึ่งในศูนย์รับขยะหาดใหญ่ ในช่วงที่อำเภอหาดใหญ่มีความจำเป็นต้องการกำจัดขยะด้วย
TPIPP ประกาศนโยบายว่า บริษัทฯ จะเป็นโรงไฟฟ้าที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ในปี 2569 ทำให้โรงไฟฟ้าของบริษัทฯ จะกลายเป็นโรงไฟฟ้าสีเขียว ไร้คาร์บอน 100% ตั้งแต่ปลายปีเป็นต้นไป ทางบริษัทฯ จะสามารถกำจัดขยะได้ประมาณ 15-20% ของขยะที่ผลิตในประเทศไทย ทำให้บริษัทฯ กลายเป็นผู้กำจัดขยะที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับโรงงานที่อยู่ในจุดเดียวกัน นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ได้แจ้งเปิดดำเนินการโครงการกำจัดขยะเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง การจัดการมูลฝอย พ.ศ.2560 ที่ ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ในวันที่ 8 ธันวาคม 2568 โดยโรงไฟฟ้าได้ผ่านการตรวจสอบโดย กฟภ. (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) และกกพ. (คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน)
นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่สงขลาจะช่วยเรื่องความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในพื้นที่ และยังช่วยกำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องผลประกอบการของบริษัทฯ
“การเริ่มเปิดดำเนินการของโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่สงขลาจะช่วยผลประกอบการของบริษัทฯ ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าหลักของบริษัทฯ ที่จังหวัดสระบุรี แต่ค่าไฟฟ้ารวมกับค่ากำจัดก็สูงกว่าโรงไฟฟ้าที่สระบุรี นอกจากนั้นด้วยเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่อำเภอหาดใหญ่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน หลังจากระดับน้ำลดลงมีขยะคงเหลือจำนวนมากที่ต้องการกำจัด ทางจังหวัด ทั้งผู้ว่าฯ ทั้งนายกอบจ. จึงได้ติดต่อมาที่บริษัทฯ ให้ช่วยรับกำจัดขยะหาดใหญ่ ทางบริษัทฯ ได้เห็นความลำบากของคนในพื้นที่จึงได้รับอาสากำจัดขยะที่คงค้างอยู่ในอำเภอหาดใหญ่บางส่วนให้ บริษัทฯ ยังยืนยันว่าเราไม่ได้มองแต่ผลกำไรอย่างเดียว แต่เรายังคำนึงถึงการอยู่ร่วมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG ที่บริษัทฯ เคยกล่าวไว้” นายภัคพล กล่าว







