MEDEZE ฟันกำไร 9 เดือน ปี 68 เฉียด 160 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 587.99 ล้านบาท

MEDEZE ฟันกำไร 9 เดือน ปี 68 เฉียด 160 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 587.99 ล้านบาท

“เมดีซ กรุ๊ป” ทำกำไรสุทธิ 9 เดือน ปี 68 ที่ 159.95 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 587.99 ล้านบาท ย้ำนับหนึ่ง “ATMPs Sandbox” หนุนความหวังในการรักษาโรค สร้างผลประโยชน์โดยรวมกว่า 2.6 แสนล้านบาท

นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 181.27 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 30.54 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการรวม 9 เดือนของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 587.99 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 159.95 ล้านบาท โดยรายได้หลักของบริษัทฯ ยังคงมาจากเซลล์ต้นกําเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ หรือ Cord Tissue โดยมีสัดส่วนรายได้ในไตรมาส 3 และ 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 43% และ 49% ตามลำดับ โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนในอาคารฝ่ายขาย และการตลาด อาคารคลังสินค้าแห่งใหม่ ระบบพลังงานไฟฟ้า Solar Cell และระบบ MEDEZE Plus Auto Matching Software เป็นต้น เพื่อเป็นการรองรับในการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต รวมถึงการประชาสัมพันธ์โครงการ ATMPs Sandbox อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการได้รับการรับรองระบบ GMP และมาตรฐานธนาคารเซลล์ ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัทฯ และเกิดประโยชน์กับประเทศไทย เพื่อเป็นการให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่ลูกค้ารวมถึงประชาชนทั่วไป

ขณะที่โครงการ ATMPs Sandbox หรือโครงการวิจัยทดลองนำร่อง ATMPs หรือ Advanced Therapy Medicinal Products อาทิ สเต็มเซลล์ โดยมีการอนุมัติผลิตภัณฑ์ ATMPs 2 รายการให้สถานพยาบาล เป้าหมายได้รับการอนุมัติให้ทดลองใช้ ATMPs อย่างน้อย 5 แห่ง คนไทยเข้าถึงยา ATMPs ได้ในประเทศ ผ่านกลไกการอนุญาตวิจัยยา ในปี 2568 และจัดตั้งสถานพยาบาลทดลองภาครัฐที่พร้อมให้บริการคือ ศูนย์การแพทย์บางรักบางรัก กรมควบคุมโรค และรพ.วชิระภูเก็ต ซึ่งได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับบริษัทฯ โดย MEDEZE จะเข้ามาร่วมสนับสนุนห้องปฏิบัติการ สถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ และทุนวิจัย ซึ่งการวิจัยทั้งหมดต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมก่อนเริ่มดำเนินการ

MEDEZE ฟันกำไร 9 เดือน ปี 68 เฉียด 160 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 587.99 ล้านบาท

โครงการวิจัยทดลองนำร่องนี้มุ่งเน้นกลุ่มโรคเริ่มต้นที่สำคัญ 3 กลุ่ม ได้แก่ “โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม - กลุ่มโรคผิวหนังและการชะลอวัย – มะเร็งลำไส้” ซึ่งหลังจากที่ กระทรวงสาธารณสุข ประกาศส่งเสริมการพัฒนาการแพทย์มูลค่าสูง อาทิ สเต็มเซลล์, การบำบัดด้วยยีนและเนื้อเยื่อที่ผ่านการดัดแปลง และเป็นหนึ่งในนโยบายที่ต้องการขับเคลื่อนพัฒนาไทยให้เป็น ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Wellness & Medical Hub ที่คาดว่าจะเกิดผลประโยชน์โดยรวมประมาณ 266,708 ล้านบาท