'บุญจักษุ' การให้เพียงหนึ่งครั้ง มีความหมายต่อหลายชีวิต

ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ร่วมกับภาคเอกชน รวมถึงกลุ่มบริษัทบางจาก จัดแคมเปญ "บุญจักษุ" (บุน-ยะ-จัก-ษุ) พลังแห่งการให้..สู่ตาสดใสของผู้รับ เพื่อสร้างความเข้าใจและกระตุ้นการบริจาคดวงตาในสังคมไทย
ในประเทศไทย ยังมีผู้ป่วยที่สูญเสียการมองเห็นและรอคอยการปลูกถ่ายกระจกตากว่า 12,000 ราย และในแต่ละปีมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นราว 3,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้บริจาคดวงตายังมีไม่เพียงพอ ทำให้ต้องรอคิวนาน 3-5 ปี ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย จึงร่วมกับภาคเอกชน รวมถึง กลุ่มบริษัทบางจาก จัดแคมเปญ "บุญจักษุ" (บุน-ยะ-จัก-ษุ) พลังแห่งการให้..สู่ตาสดใสของผู้รับ เพื่อสร้างความเข้าใจและกระตุ้นการบริจาคดวงตาในสังคมไทย
ช่องว่างระหว่าง "ผู้ป่วย" กับ "ผู้บริจาค"
รศ.พิเศษ พญ.สมพร จันทรา จักษุแพทย์ หัวหน้างานกระจกตา กลุ่มงานจักษุวิทยา โรงพยาบาลราชวิถี ได้เล่าถึงปัญหานี้ผ่านเวทีเสวนา พลังแห่งการให้..สู่ตาสดใสของผู้รับ ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ บุญจักษุ ซึ่งจัดโดยศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า กลุ่มคนที่แสดงความจำนงบริจาคดวงตาส่วนใหญ่ในไทยเป็นกลุ่มคนอายุน้อย ซึ่งยังต้องใช้เวลารออีกนานกว่าจะถึงขั้นตอนบริจาคจริง ดวงตาที่ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยได้รับส่วนใหญ่ จึงมาจากกลุ่มผู้บริจาคที่เสียชีวิตหรือกำลังจะเสียชีวิตในโรงพยาบาล ซึ่งบางแห่งมีการแนะนำญาติผู้ป่วยใกล้เสียชีวิตให้ทราบถึงโอกาสในการบริจาคดวงตา แต่ผู้บริจาคที่ได้จากช่องทางนี้ยังมีสัดส่วนน้อยมาก ไม่ถึง 1% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด
ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกานั้น มีระบบการบริจาคดวงตาที่มีความเข้มแข็ง ทำให้ปัจจุบันจำนวนผู้รอรับกระจกตาแทบเป็นศูนย์ และสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายได้แทบจะทันที
"หมอหวังว่าเราจะสร้างระบบการรับ บริจาคดวงตา ที่แข็งแกร่งได้ในประเทศไทย และมีผู้บริจาคดวงตามากพอๆ กับผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยไม่ต้องรอนาน และได้รับแสงสว่างกลับคืนมาอีกครั้ง" รศ.พิเศษ พญ.สมพร กล่าว
"บริจาคดวงตา" การให้ ที่มอบชีวิตใหม่ให้ผู้รับ
ณภัทร เมธีพินิจ ได้เล่าถึงความรู้สึกในฐานะผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายกระจกตาว่า ทุกวันนี้หนูตั้งใจใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้ จากที่เคยออกกำลังกายไม่ได้ ตอนนี้เริ่มออกกำลังกายได้แล้ว และไปพบจักษุแพทย์ตามนัดตลอด เพราะเมื่อได้รับกระจกตามาแล้ว ต้องดูแลรักษาให้ดีที่สุด พร้อมขอบคุณผู้บริจาคที่ทำให้ได้กลับมามองเห็นและได้ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ได้ทำกิจกรรม พบเจอผู้คน และเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง พร้อมหวังว่าความรู้สึกขอบคุณนี้จะส่งถึงครอบครัวผู้ให้
ดวงตา 1 คู่ อาจช่วย 6 ชีวิตได้มองเห็น
หลายคนอาจไม่รู้ว่าการบริจาคดวงตา 1 ข้าง สามารถช่วยคนได้มากกว่า 1 คน เพราะปัจจุบันกระจกตาสามารถตัดแยกเป็นชั้นหน้าและชั้นหลังให้ผู้ป่วย 2 คน และส่วนของเนื้อเยื่อขอบกระจกตายังมีสเต็มเซลล์ ที่สามารถนำไปเพาะและนำไปปลูกถ่ายให้กับผู้ที่มีภาวะสเต็มเซลล์กระจกตาบกพร่อง และส่วนของตาขาวยังสามารถนำไปใช้กับผู้ป่วยที่ต้องการความแข็งแรงของดวงตาก่อนได้รับกระจกตา
การให้ครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่
กัณฐณัฏฐ์ ไวยฉาย บุตรสาวผู้บริจาคดวงตารายหนึ่ง กล่าวว่า แม่ทำเรื่องบริจาคอวัยวะไว้นานแล้ว เมื่อถึงเวลา ได้รับการติดต่อจาก สภากาชาดไทย เราก็ตอบไปทันทีว่าไม่ติดขัด เพราะนี่คือความตั้งใจของแม่ ในตอนที่เรามีชีวิตอยู่จะบริจาคเป็นเงินหรือทรัพย์สินก็ได้ แต่เมื่อจากไป ร่างกายยังมอบประโยชน์และเป็นแสงสว่างให้ผู้อื่นได้ ถือเป็นบุญที่สูงที่สุด
รศ.พิเศษ พญ.สมพร กล่าวเสริมว่า ในฐานะ จักษุแพทย์ ที่ได้เห็นทั้งความซาบซึ้งของผู้ที่ได้รับ และความสูญเสียของครอบครัวผู้ให้ ทุกครั้งที่มีใครสักคนกลับมามองเห็นได้ ย่อมหมายถึงมีใครอีกคนมอบสิ่งล้ำค่านี้ไว้ก่อนจากไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่แสดงเจตจำนงตั้งแต่สุขภาพแข็งแรง หรือผู้ป่วยที่รู้ว่ามีเวลาอีกไม่นาน และอยากจะให้เป็นครั้งสุดท้าย
"หมอจึงอยากเชิญทุกคนที่มีความตั้งใจบริจาคดวงตามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อมอบโอกาสให้หลายชีวิตได้กลับมามองเห็นอีกครั้ง" รศ.พิเศษ พญ.สมพร กล่าว
กลุ่มบริษัทบางจาก ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อแสงสว่าง
ตลอด 4 ทศวรรษที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทบางจาก ให้ความสำคัญกับการแบ่งปัน พร้อมสนับสนุนการส่งต่อความดีในหลากหลายรูปแบบ ทั้งด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต จึงขอเชิญชวนร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อแสงสว่างให้กับผู้ป่วย โดยสามารถแสดงความจำนงบริจาคดวงตา ผ่านเว็บไซต์ของสภากาชาดไทย แอปพลิเคชัน "หมอพร้อม" และศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย
เพราะหนึ่งครั้งของการให้...คือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่สำหรับอีกหลายคน







