'บางจาก' จุดประกายอนาคตการเดินเรือสู่ความยั่งยืนของไทย

B24 Marine Biofuel น้ำมันเชื้อเพลิงเรือเดินสมุทรที่ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และพร้อมใช้งานจริงในระดับอุตสาหกรรม ที่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการปล่อยมลพิษต่ำ
เดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล หรือ Marine Environment Protection Committee (MEPC) ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ International Maritime Organization (IMO) ได้ประกาศเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในปี ค.ศ. 2050 เพื่อจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการเดินเรือทั่วโลก ทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปยังทางออกในด้านพลังงานสะอาดที่จะตอบโจทย์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ หนึ่งในคำตอบนั้นคือ B24 Marine Biofuels น้ำมันเชื้อเพลิงเรือเดินสมุทรที่ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังพร้อมใช้งานจริงในระดับอุตสาหกรรม
วันนี้ บางจากหลากมุมมองได้รับเกียรติจาก นายอนุวัตร รุ่งเรืองรัตนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC มาแบ่งปันถึงการพัฒนา B24 Marine Biofuels ที่ BSRC เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรายแรกในประเทศไทย และแนวทางที่ธุรกิจพลังงานไทยสามารถเดินหน้าอย่างยั่งยืนได้จริง
- พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตของการเดินเรือ
อนุวัตร กล่าวไว้ว่า B24 Marine Biofuels คือน้ำมันเชื้อเพลิงเรือเดินสมุทร ที่มีส่วนผสมของเมทิลเอสเทอร์ที่สังเคราะห์จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (Used Cooking Oil Methyl Ester หรือที่เรียกย่อๆ ว่า UCOME) ในอัตราส่วน 24% ผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงกำมะถันต่ำ 0.5%S (Very Low Sulphur Fuel Oil VLSFO) มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการปล่อยมลพิษต่ำ และเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่สามารถใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ได้โดยตรงซึ่งการนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในลักษณะ circular economy นี้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตั้งแต่ต้นทางของกระบวนการผลิต
- รักษ์โลกได้มากกว่า ด้วยมาตรฐานที่ไม่เปลี่ยนแปลง
B24 Marine Biofuels จาก BSRC คือผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงเรือเดินสมุทร รายแรกของประเทศไทย ที่ได้รับมาตรฐาน ISO 8217 รับรองการใช้งานกับเครื่องยนต์เรือได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องมีการดัดแปลงเครื่องยนต์ หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านเชื้อเพลิงของเรือ และได้รับการรองมาตรฐานด้านความยั่งยืน International Sustainability and Carbon Certification (ISCC EU) โดยมีความพร้อมในการจำหน่ายให้ลูกค้าทั่วโลก
อนุวัตร กล่าวต่อว่า ลูกค้ารายแรกของเราคือบริษัท NYK Line จากประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในบริษัทขนส่งทางเรือชั้นนำของโลก ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพและความพร้อมของ B24 Marine Biofuels สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์
- ตอบโจทย์ธุรกิจ เดินหน้าสู่อนาคต
ในอดีตเรือเดินสมุทรส่วนใหญ่ใช้น้ำมันเตา เนื่องจากน้ำมันดีเซลมีราคาสูงกว่า แต่ในเรื่องของการเผาไหม้ น้ำมันเตานั้นปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าน้ำมันดีเซล อย่างไรก็ดี ด้วยภาวะปัจจุบันของโลก ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศ อุตสาหกรรมการเดินเรือก็ต้องมุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในฝั่งยุโรปที่มีนโยบายชัดเจนด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้เชื้อเพลิงกลุ่ม B24 ไปจนถึง B30 กลายเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ ทำได้จริง และคุ้มค่า เมื่อเทียบกับทางเลือกอื่น อย่างเช่น การติดตั้งตัวดักจับกำมะถัน (Scrubber) บนเรือ หรือการใช้น้ำมันกำมะถันต่ำแบบพิเศษ
- BSRC ขับเคลื่อนพลังงานไทยด้วยวิสัยทัศน์แห่งความยั่งยืน
โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา ของ BSRC พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเรือเดินสมุทรหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ High Sulphur Fuel Oil, Low Sulphur Fuel Oil, Marine Gas Oil และในปัจจุบันมี B24 Marine Biofuels โดยในอนาคตยังมีแนวโน้มการขยายผลิตภัณฑ์สู่สูตร B30 ซึ่งมีสัดส่วนเชื้อเพลิงชีวภาพสูงขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
“เราเชื่อว่าอนาคตของธุรกิจพลังงานจะต้องเชื่อมโยงกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การพัฒนา B24 Marine Biofuels คือก้าวสำคัญของ BSRC ในการสร้างสมดุลระหว่างความสามารถในการแข่งขันเชิงพาณิชย์ กับการขับเคลื่อนเป้าหมายของกลุ่มบริษัทบางจากที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย พร้อมช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” อนุวัตร กล่าวปิด
ในขณะเดียวกัน กลุ่ม บริษัทบางจาก ยังคงเดินหน้าพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อรองรับการเดินทางในหลากหลายรูปแบบ ไม่เพียงแค่ภาคการเดินเรือ แต่ยังครอบคลุมถึงการขนส่งทางบก ผ่านผลิตภัณฑ์ ไบโอดีเซล B100 และทางอากาศ ด้วยการพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง โดยหน่วยผลิตดังกล่าวยังสามารถเลือกผลิตเป็น Renewable Diesel หรือ Green Diesel ได้อีกด้วย ทำให้สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างทางเลือกด้านพลังงานสะอาดที่ครอบคลุมการเดินทางทั้งทางบก น้ำ และอากาศอย่างยั่งยืน







