ส่องไฮไลต์ งาน AIS Business Digital Future 2026 พารู้จักบริการคลาวด์ผ่าน AIS Cloud

ส่องไฮไลต์ งาน AIS Business Digital Future 2026 พาเจาะลึก "AIS Cloud" คลาวด์มาตรฐานโลกที่ดำเนินการโดยคนไทย เพื่อตอบโจทย์องค์กรรัฐ-เอกชน ทั้งด้านความปลอดภัยของข้อมูล และการสร้างสรรค์นวัตกรรมท่ามกลางกระแสยุค AI
AIS Business เดินหน้าเสริมความแกร่งโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ภายในงาน AIS Business Digital Future 2026 โดยได้เปิดตัวบริการ "AIS Cloud powered by Oracle Cloud Infrastructure" ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการให้บริการ Hyperscale Cloud มาตรฐานระดับโลกในรูปแบบ Sovereign Cloud โดยศูนย์ข้อมูลตั้งอยู่ในประเทศทั้งหมด พร้อมทีมงานคนไทย 100% ภายใต้กรอบกฎหมายไทย ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรภาครัฐและเอกชนที่ต้องการปกป้องข้อมูลพร้อมพัฒนานวัตกรรมในยุคที่เทคโนโลยี AI, Big Data และ Machine Learning กำลังกลายเป็นหัวใจของการแข่งขันทางธุรกิจ
โซลูชันนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ แต่ยังเน้นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การควบคุมข้อมูลภายใต้กฎหมายในประเทศ และการลดความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์จากการใช้คลาวด์ต่างชาติ ซึ่งอาจอยู่ภายใต้กฎหมายเช่น CLOUD Act ของสหรัฐ ที่มีสิทธิ์ขอเรียกดูข้อมูลจากผู้ให้บริการคลาวด์ได้แม้ข้อมูลจะอยู่ต่างประเทศ ดังนั้น "โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของคนไทย จึงต้องอยู่ในมือคนไทย"
ภูผา เอกะวิภาต หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เป็นของคนไทย คือหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เราเชื่อว่าไทยควรมีโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สามารถควบคุมและบริหารจัดการได้ด้วยตนเอง ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัย แต่เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและความมั่นคงในระยะยาว
AIS Cloud มีจุดเด่นในเรื่อง ความเร็ว (Ultra Low Latency ต่ำกว่า 10 ms) จากการติดตั้งในศูนย์ข้อมูลภายในประเทศและเชื่อมต่อตรงกับโครงข่ายความเร็วสูงของ AIS ทั้งศูนย์ข้อมูล DC และ DR ความสามารถในการรองรับ Workload ขนาดใหญ่ และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่อัปเดตสม่ำเสมอ โดยทั้งหมดให้บริการในสกุลเงินบาท ทำให้ลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และสามารถทำสัญญาและบริการหลังการขายเป็นภาษาไทยได้อย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ยังถูกออกแบบให้มี interoperability หรือความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบคลาวด์อื่นได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นระบบ Hybrid หรือ Multi-Cloud ซึ่งเหมาะสำหรับองค์กรที่มีความหลากหลายของระบบอยู่แล้ว และต้องการประสิทธิภาพในการประมวลผลและจัดการข้อมูลแบบครบวงจร
AIS NaaS - เชื่อมเครือข่ายองค์กรอย่างอิสระ
ภายในงาน AIS ยังได้เปิดตัวบริการ AIS NaaS (Network as a Service) ซึ่งเปิดให้ภาคธุรกิจสามารถบริหารจัดการระบบเครือข่ายของตนเองผ่านพอร์ทัลออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงสาขา การเพิ่มจุดใช้งาน หรือการขยายระบบระหว่างประเทศ โดยสามารถเชื่อมต่อกับ AIS Cloud ได้ทั้งแบบ Fiber Optic และ 5G ซึ่งให้ความยืดหยุ่น ปลอดภัย และบริหารต้นทุนได้ง่าย
บริการทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสถานการณ์ไม่แน่นอนของโลกธุรกิจยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Digital Disruption, ภัยไซเบอร์ หรือแรงกดดันด้านความยั่งยืน โดย AIS ย้ำแนวทาง "ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น" เพื่อลดภาระการลงทุนล่วงหน้า และเปิดโอกาสให้ธุรกิจร่วมหาโซลูชันที่สอดคล้องกับโจทย์ขององค์กรก่อนตัดสินใจ
แพลตฟอร์มหลักของการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจ AI
AIS Business ยังเน้นการเป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับการพัฒนาดิจิทัลของประเทศ โดยเน้นองค์ประกอบสำคัญ 3 ด้าน ดังนี้
- Data Collection & Integration - รองรับการรวบรวม วิเคราะห์ และแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างปลอดภัย
- Compute Power & Cybersecurity - เสริมความแข็งแกร่งด้านการประมวลผลและความปลอดภัยเชิงระบบ
- AI & Analytics - เปลี่ยนข้อมูลให้กลายเป็นโซลูชันธุรกิจที่จับต้องได้ เช่น พฤติกรรมผู้บริโภคแบบเฉพาะเจาะจง
ทั้งหมดนี้ ผสานกับเป้าหมายระยะยาวในการสร้าง ภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลของประเทศ เพื่อไม่ให้ไทยต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศเพียงฝ่ายเดียว โดยมีศูนย์ข้อมูลในประเทศเป็นหัวใจสำคัญ พร้อมระบบสำรอง เพิ่มความพร้อมในการรับมือกับเหตุฉุกเฉิน
เจาะ 5 คุณสมบัติและบริการเด่น บน AIS Cloud ขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัล
1. AIS Cloud : Data in Thailand. Governed by Thai Law.
แพลตฟอร์มคลาวด์ครบวงจรสัญชาติไทย ที่มาพร้อมด้วยศักยภาพการให้บริการด้วยเทคโนโลยี Cloud ระดับโลก Oracle Cloud Infrastructure ดำเนินการโดยบริษัทไทย มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล โดยมีศูนย์ข้อมูลในประเทศไทย (Local Data Center) ให้บริการภายใต้การกำกับดูแลตามกฎหมายและอยู่ภายใต้อำนาจศาลไทย ทำสัญญาเป็นภาษาไทย และให้บริการเป็นค่าเงินบาท ลดความซับซ้อนและผันผวนของค่าเงิน
2. Cloud Security : Built-in Security. Always In Control.
ปกป้องข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์อย่างเชิงรุก ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ภัยคุกคามและประเมินความสอดคล้องที่รวมอยู่ใน AIS Cloud โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อาทิ AIS Cloud Data Safe และ Cloud Guard ที่ช่วยตรวจจับความเสี่ยง เฝ้าระวังภัยคุกคาม และสามารถแจ้งเตือนได้แบบเรียลไทม์
3. Scalable Cloud : Smart to Scale. Speed to Grow.
ความสามารถในการปรับขยายทรัพยากรแบบเรียลไทม์ในระดับสูงสุดสำหรับแอปพลิเคชันและฐานข้อมูล - สามารถปรับเพิ่มหรือลดขนาดได้ทันทีโดยอัตโนมัติ โดยไม่เกิด Downtime ทำให้องค์กร จ่ายเฉพาะที่ใช้ เหมาะกับธุรกิจที่โหลดผันผวนหรือให้บริการ 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องลงทุนเกินจำเป็น
4. Data & AI Cloud : Unleash Your Data. Empower AI.
ความสามารถในการจัดการด้านข้อมูล Data Platform เช่น Autonomous Database และเครื่องมือในการพัฒนา AI โดยมี pre-build services อาทิ Big Data, Machine Learning, AI, Generative เพิ่มศักยภาพการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ตั้งแต่ Data Platform จนถึงการพัฒนา Application
5. Hybrid & Integration : Multi-Cloud for Your Modern Workloads
โครงสร้าง Hybrid Cloud ที่ AIS ดำเนินการช่วยองค์กรผสาน On-Premise และ Cloud ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น พร้อมบริการออกแบบ Private Zone และอินทิเกรตกับระบบเดิม
โดยการทำงานทั้งหมดยังควบคู่ไปกับดาต้า เซ็นเตอร์ ที่ AIS ให้บริการอยู่ทั่วประเทศ เพราะถือเป็น "มันสมอง" ของโครงสร้างคลาวด์ รองรับภาคธุรกิจ-องค์กรขนาดใหญ่-กลุ่มลูกค้าต่างชาติ พร้อมเดินหน้าขยายศูนย์ข้อมูลใหม่ในปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการไฮเปอร์สเกลและกลุ่ม AI โดยเฉพาะ
ปัจจุบัน AIS มีศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ อาทิ กรุงเทพฯ, ขอนแก่น, เชียงใหม่, หาดใหญ่ โดยศูนย์บางแห่งมีบทบาทเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศ เช่น ศูนย์เชียงใหม่ที่เชื่อมต่อไปยังเมียนมา และศูนย์หาดใหญ่ที่เชื่อมไปยังสิงคโปร์ ส่วนศูนย์ในกรุงเทพฯ เช่น ไซเบอร์ เวิลด์ รัชดาภิเษก จะเน้นรองรับกลุ่มลูกค้า SME และกลุ่มที่ใช้บริการคลาวด์ทั่วไป
เทรนคนไทยใช้ AI-คลาวด์ฟรีทั่วประเทศ
ทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยี Cloud ระดับ Hyperscaler ที่ได้ร่วมมือกับ AIS เป็นเทคโนโลยีรุ่นที่ 2 ซึ่งมีความก้าวหน้า และด้วยโครงสร้างพื้นฐานระดับเดียวกันนี้ Oracle เป็น Cloud Provider ให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำมากมายที่ต้องใช้หน่วยประมวลผลระดับสูง
ในส่วนของ AIS Cloud ล่าสุดนี้มีบริการคลาวด์เช่นเดียวกันกับ Oracle (OCI) ที่มีมากกว่า 100 บริการ รวมถึงความสามารถด้าน AI ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ด้วยระบบและบริการ Sovereign Cloud ที่มีความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการจัดเก็บข้อมูลของประเทศไทย
โดยขณะนี้ ออราเคิลเป็นผู้ให้บริการคลาวด์เพียงรายเดียวที่มี Local Cloud Region ในประเทศไทย จากปัจจุบันที่มี Cloud Region มากกว่า 200 แห่งทั่วโลก และมี Backlog หรือสัญญาคลาวด์ที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบสูงหลายพันล้านดอลลาร์ เติบโต 41% ในปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าเพิ่มอีก 100% ภายในปีงบประมาณ 2026 ซึ่งสามารถรองรับระบบที่มีความอ่อนไหวสูง เช่น ระบบการเงิน การโอนเงินแบบ Real-time หรือระบบป้องกันข้อมูลในกรณีระบบล่ม (Disaster Recovery) ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ต้องส่งข้อมูลข้ามประเทศ
นอกจากประกาศความสำเร็จเปิดให้บริการ "AIS Cloud for Thai" โครงสร้างไฮเปอร์สเกลคลาวด์ระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย ที่ร่วมพัฒนาด้วยกันแล้ว ยังเปิดตัวโครงการยกระดับทักษะด้านดิจิทัลและ AI แก่คนไทยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตั้งเป้าผลักดันประเทศสู่การมี "อธิปไตยทางดิจิทัล" อย่างแท้จริง
สำหรับโครงการอบรมฟรีที่เปิดตัวในวันนี้ ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของคนไทยในการยกระดับทักษะดิจิทัลด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอมหาวิทยาลัยหรือระบบราชการ โดยตั้งเป้าหมายจะเทรนบุคลากรอย่างน้อย 100,000 คนภายใน 3 ปีในเรื่อง Cloud, AI และ Cybersecurity เพื่อผลักดันให้ไทยมีทรัพยากรมนุษย์พร้อมแข่งขันในเวทีโลก
ซึ่งถือเป็นคลาวด์ระดับชาติที่ดำเนินงานภายใต้กฎหมายไทย ข้อมูลทั้งหมดไม่ต้องส่งออกนอกประเทศ และสามารถให้บริการได้เทียบเท่ากับ Oracle Region ทั่วโลก ทั้งด้านความปลอดภัย (Security) ประสิทธิภาพ (Performance) และความยืดหยุ่น (Scalability)
"เราไม่อยากเห็นไทยพลาดขบวนอีกเหมือนยุคดิจิทัลเมื่อ 20 ปีก่อน วันนี้คือโอกาสใหม่ของคนไทยในการใช้ AI เป็นเครื่องมือสร้างอนาคต และ AIS พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ของทุกองค์กรในประเทศ เพื่อเดินหน้าสู่อนาคตด้วยกัน" ผู้บริหารกล่าวทิ้งท้าย พร้อมย้ำว่า AIS Cloud for Thai ไม่ใช่แค่โครงสร้างพื้นฐาน แต่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างอธิปไตยทางดิจิทัลให้ประเทศไทยอย่างยั่งยืน
นอกจากประกาศความสำเร็จเปิดให้บริการ "AIS Cloud for Thai" โครงสร้างไฮเปอร์สเกลคลาวด์ระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย ที่ร่วมพัฒนาด้วยกันแล้ว ยังเปิดตัวโครงการยกระดับทักษะด้านดิจิทัล และ AI แก่คนไทยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตั้งเป้าผลักดันประเทศสู่การมี "อธิปไตยทางดิจิทัล" อย่างแท้จริง
สนใจบริการ AIS Cloud สามารถติดต่อได้ที่ E-mail หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AIS Business







