สำรวจงานออกแบบที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุง ในงานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568

สำรวจงานออกแบบที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุง ในงานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568

"Design Your Change: Up+Rise Bangkok" สำรวจงานออกแบบที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯ ทุกมิติ ในเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568

กรุงเทพฯ ไม่เพียงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสี แต่ยังเป็นศูนย์กลางของงานออกแบบที่ขับเคลื่อนการพัฒนาชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น ผ่านงานดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทั้งโครงสร้างเมือง คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และธุรกิจ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา "เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ" (Bangkok Design Week) ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของงานออกแบบที่ช่วยขับเคลื่อนเมืองและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่า 3,198 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 2.51 ล้านคน และเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนกรุงเทพฯ ให้เติบโตในฐานะเมืองแห่งการออกแบบ (Bangkok City of Design) ภายใต้เครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) อีกทั้งยังช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นการพลิกฟื้นย่านที่เคยซบเซาอย่างย่านเจริญกรุง - ตลาดน้อย, หัวลำโพง, ปากคลองตลาด ฯลฯ ให้กลายเป็น "ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์" ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ตลอดจนช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ ให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 นี้ เราจะพาไปสำรวจผลงานจากทั้งนักออกแบบและหลายภาคส่วน ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์เฉพาะตัว ทั้งยังสร้างพลังบวกให้แก่เมืองและผู้คน กระตุ้นให้เกิดการคิดและทำในสิ่งที่ดีกว่าเพื่ออนาคตของเมือง การผลักดันงานออกแบบในเทศกาลฯ นี้  จึงไม่เพียงช่วยยกระดับเมือง แต่ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนและชุมชนได้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนและเปลี่ยนอนาคตของกรุงเทพฯ ผ่านความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่หลอมรวมความคิดสร้างสรรค์และความยั่งยืนเข้าด้วยกัน

สำรวจงานออกแบบที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุง ในงานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568

Design Your Change + เปลี่ยนทุกพื้นที่ที่ถูกมองข้าม ให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะของเมือง

ปฏิเสธไม่ได้ว่างบประมาณและนโยบายของสภากรุงเทพมหานครเพียงแหล่งเดียว ยังไม่เพียงพอต่อการพัฒนากรุงเทพฯ เมืองหลวงที่มีประชากรสูงสุดอันดับหนึ่งของไทยกว่า 5 ล้านคน ซึ่งสวนทางกับขนาดของพื้นที่ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความแออัดมาก แต่นั่นก็ไม่สามารถขัดขวางพลังแห่งการสร้างสรรค์ด้านการออกแบบเพื่อมอบทางเลือกให้แก่เมืองได้ we!park คือหนึ่งในกลุ่มที่ตระหนักถึงข้อจำกัดดังกล่าวนี้ และมองว่าเป็นความท้าทาย จึงได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร และสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย พลิกฟื้นพื้นที่รกร้างบริเวณใต้ทางด่วนถนนสุรวงศ์ให้กลายเป็น "Prompt Park" สวนสาธารณะมีชีวิตชีวา ที่สามารถรองรับการพักผ่อน และพบปะสังสรรค์ของคนในชุมชน ทั้งยังพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่แปรปรวน นิทรรศการติดตั้งเชิงทดลอง (Tactical Intervention) ในรูปแบบสวนสาธารณะนี้ โดดเด่นด้วยการนำความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบผังเมืองของเนเธอร์แลนด์ที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรน้ำ มาประยุกต์ใช้ในการดีไซน์เมืองให้น่าอยู่สำหรับทุกคน ผู้สนใจสามารถชมสวนสาธารณะที่ผสานความเชี่ยวชาญระดับสากลเข้ากับไอเดียเพื่อแก้ปัญหาเมืองได้ ณ บริเวณพื้นที่ใต้ทางด่วนถนนสุรวงศ์  

พบกับอีกหนึ่งผลงานของ we!park ที่พลิกฟื้นพื้นที่ของเอกชนมาเป็นสวนสาธารณะที่รองรับทุกกิจกรรมสำหรับทุกคน โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงผู้คน สังคม และธรรมชาติเข้าด้วยกัน จึงเกิดเป็น "Pop-Up Park" พื้นที่สีเขียวรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้ถูกจำกัดว่าต้องทำบนพื้นที่ของรัฐเท่านั้น ผู้สนใจสามารถเข้าชมสวนสาธารณะแห่งใหม่นี้ได้ ณ ลานห้างบางลำพู (เดิม)

นอกจากนี้ ตามไปดูต้นแบบสำคัญสำหรับการพัฒนาเมืองในอนาคต กับโครงการเชิงทดลองบนที่ดินส่วนบุคคลที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วกรุงเทพฯ จากทีมนักออกแบบ SP/N ซึ่งต้องการส่งเสริมการพักผ่อนให้กับคนในชุมชน ผ่านการ ‘งีบในที่สาธารณะ’ และส่งเสริมการเล่นการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ "ปีนป่าย" ในสนามเด็กเล่น จากสิ่งก่อสร้างที่สามารถติดตั้งได้ชั่วคราวของโครงการ "MinutePocket_UrbanBed" เพื่อเป็นตัวอย่างของการกระตุ้นการนำพื้นที่รกร้างส่วนบุคคลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมไอเดียสร้างสรรค์นี้ได้บริเวณถนนสำราญราษฎร์ 

สำรวจงานออกแบบที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุง ในงานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568

และโปรเจกต์ Puppup Parklet จาก Urban Ally กับการแปลงโฉมพื้นที่ 2 ช่องจอดรถให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะชั่วคราว เพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อนของคนในชุมชน ทั้งยังเป็นการคืนทางเท้าให้ผู้คนสามารถสัญจรไปมา ตลอดจนรองรับการทำกิจกรรมที่ใช้เวลาไม่นานได้ด้วยเช่นกัน มาร่วมเยี่ยมชมการแปลงโฉมพื้นที่นี้ได้ ณ ถนนสำราญราษฎร์ "สนามประลองวิทยายุทธ" ของกลุ่ม Attention Studio มาพร้อมแนวคิดที่ต้องการก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ โดยนำเสนอไอเดียและการออกแบบบริเวณย่านเยาวราช - ทรงวาด ให้เป็นพื้นที่ใช้งานแบบ Multi-Function ทั้งการเล่นกีฬา การพบปะของผู้คน ตลอดจนการจัดแสดงงานศิลปะ โปรเจกต์นี้มีเป้าหมายที่จะรองรับความต้องการอันหลากหลายของคนในย่าน ผู้สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการท่องยุทธภพสร้างสรรค์นี้ได้ ณ ลาน Vintage Vespa Thailand 

Design Your Change + เปลี่ยนปัญหาเรื้อรังของเมืองด้วยงานดีไซน์

ปัจจุบันการออกแบบมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างเมือง โดยเฉพาะเรื่องที่ยึดโยงกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นที่สาธารณะที่เอื้อต่อการใช้ชีวิต ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีที่ผสานเข้ากับงานดีไซน์เพื่อทลายข้อจำกัดของการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความท้าทายต่อไอเดียของนักออกแบบหลากหลายสาขา เช่น "เมย์เดย์" (MAYDAY!) กลุ่มคนที่ยังคงศรัทธาและผลักดันให้ขนส่งสาธารณะไทยเป็นมิตรต่อทุกคน ปีนี้หมุดหมายของเมย์เดย์ย้ายพิกัดจากรถเมล์มาเป็นรถสองแถว หนึ่งในขนส่งสาธารณะที่วิ่งอยู่ตามตรอกซอกซอยในกรุงเทพฯ มานานหลายสิบปี แต่เนื่องด้วยการใช้บริการรถสองแถวมีปัญหาและข้อจำกัดที่สะสมมานาน ทั้งความไม่ปลอดภัย ความไม่สะดวกสบายในการใช้บริการ ตลอดจนการออกแบบที่ไม่สอดรับกับคนทุกกลุ่ม จึงเป็นที่มาของ นิทรรศการ "สองแถว แปลงร่าง" ซึ่งเป็นการนำเสนอ Design Solution สำหรับการพัฒนารถสองแถว ทั้งในแง่ของ "ปัญหา" และ "ทางออก" เพื่อปรับปรุงการใช้งานรถสองแถวให้สอดรับกับคนทุกกลุ่ม ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการนี้ได้ ณ ลาน MRT วัดมังกร 

อีกหนึ่งงานออกแบบที่เข้ามาแก้ไขปัญหาเรื้อรังให้กับคนกรุงเทพฯ คือการออกแบบถังดักไขมันพกพาสำหรับร้านรถเข็น ที่มักจะมีพฤติกรรมเทน้ำเสียลงไปในท่อระบายน้ำ ทำให้เกิดก้อนไขมันสะสมอุดตันอยู่ในท่อสาธารณะของเมือง และส่งผลต่อการระบายน้ำในที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหานี้ กลุ่ม Everyday Architect Design Studio จึงได้ต่อยอดงานวิจัย "สถาปัตยกรรมคณะเรี่ยราด" โดยคิดค้นไอเดียการนำอุปกรณ์ที่ใช้หนุนล้อรถเพื่อจอดเทียบฟุตบาทของรถเข็น มาแปลงเป็น "ตัวโดนเท" ถังดักไขมันแบบพกพาที่เป็นได้ทั้งตัวช่วยจอดรถเข็นบนทางเท้า และตัวกรองไขมันอาหารจากน้ำเสีย ร่วมสัมผัสไอเดียสร้างสรรค์นี้ได้ ณ ซอยเจริญกรุง 32

"กากีนั่ง" โปรเจกต์ที่ไม่ได้มีแค่ชื่อสุดครีเอต แต่ยังสะท้อนความสร้างสรรค์ผ่านการแก้ไขจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลายคนมองข้ามอย่าง "รู" บนเก้าอี้พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่คู่ร้านสตรีทฟู้ดทั่วกรุงเทพฯ โดยนำเสนอไอเดียการ "ซ่อน" รูดังกล่าว และต่อเติมเป็นที่วางของเล็ก ๆ เพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งาน ทำให้ลูกค้าสามารถดื่มด่ำกับการลิ้มรสชาติอาหารได้อย่างแท้จริง ผลงานนี้ยังถูกนำไปใช้งานจริงในร้านต่าง ๆ ของย่านเยาวราชอีกด้วย มาทดลองใช้เก้าอี้กากีนั่งได้ ณ ข้าวแกงเจ็กปุ๊ย (เจ๊เฉีย) 

สำรวจงานออกแบบที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุง ในงานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568

Design Your Change + เปลี่ยนทัศนคติคนเมืองให้เคารพสิ่งแวดล้อม

กรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ประสบปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างหนักหน่วงและเรื้อรังมาหลายทศวรรษ ทั้งการจัดการขยะ สภาพอากาศ ตลอดจนการขาดแคลนพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง สิ่งเหล่านี้ทำให้ทีมนักออกแบบอย่าง MVRDV Architects ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA, สถานทูตเนเธอร์แลนด์ และพาร์ตเนอร์อย่าง PTT Global Chemicals รังสรรค์ "Mega Mat" เสื่อพลาสติกรีไซเคิลไซส์ยักษ์ ขนาด 860 ตารางเมตรขึ้น เสื่อดีไซน์ไทยสะดุดตาผืนนี้นำเสนอแนวคิดที่ต้องการนำพลาสติกมารีไซเคิล พร้อมกับยกระดับไอเท็มที่สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยอย่าง "เสื่อ" ที่มีมาช้านาน โดยนำมาปูให้เต็มลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร จุดเด่นของเสื่ออยู่ที่รูปทรง ลวดลาย และสีสัน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหลังคาของวัดสุทัศนเทพวราราม วัดสำคัญที่ตั้งอยู่ใกล้กับศาลาว่าการกรุงเทพมหานครอีกด้วย นอกจากนี้เสื่อยังสามารถนำมาใช้ใหม่ได้ด้วยการออกแบบและสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ไม่รู้จบ ร่วมสัมผัสความพิเศษของเสื่อยักษ์ที่แปลงร่างมาจากพลาสติกเหลือใช้ได้ ณ ลานคนเมือง 

อีกหนึ่งผลงานสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ ยกให้ "หย่อมป่า จาก AP Thailand" ที่มาพร้อมโครงสร้างสีสันสะดุดตาและหลักคิดที่ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนที่ว่า ความหลากหลายสามารถเกิดได้ใจกลางเมือง จึงเป็นที่มาของหย่อมป่าที่ต้องการเติมสมดุลทางธรรมชาติให้กับเมือง เพื่อดึงดูดนกหลายสายพันธุ์ที่หายไปจากท้องฟ้าของกรุงเทพฯ และเป็นการคืนความหลากหลายทางชีวภาพให้แก่เมืองอีกครั้ง มาร่วมสัมผัสประสบการณ์เจอนก เจอร์นี่ ได้ ณ อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปกันดูบ้าง กับการลงมือทำ "ธูป สัก สิทธิ์" จาก "ขี้เลื่อยไม้สัก" วัสดุเหลือใช้ที่เป็นกิมมิกคู่ย่านบางโพ ซึ่งแต่เดิมมักนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ไม้ต่าง ๆ ไอเดียสุดครีเอตนี้เป็นของทีมคณาจารย์นักออกแบบ ARCHD KMUTNB ที่ชวนทุกคนมาทำธูปจากขี้เลื่อยไม้สัก เพื่อใช้สักการะเจ้าแม่ทับทิม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำย่านบางโพ อีกหนึ่งย่านที่โดดเด่นเรื่องงานไม้ ซึ่งเข้าร่วมจัดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปนี้ได้ ณ BangPho Green Space 

Design Your Change + เปลี่ยนธุรกิจให้ไปต่อได้ด้วยพลังจากงานดีไซน์

พลังแห่งการสร้างสรรค์นั้น ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน และเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเมือง แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สามารถต่อยอดธุรกิจเดิมและสร้างธุรกิจใหม่ได้เช่นกัน

"NEIGHBOURMART Bangkok ห้างซัพสินค้าของคนรักกรุงเทพฯ" คือตัวแทนของสิ่งที่เรากำลังกล่าวถึง แหล่งรวมสินค้าจากร้านโลคัลและร้านยุคเก๋าจากทั่วกรุงเทพฯ เป็นผลงานของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ที่ร่วมกับทีมนักออกแบบ iliU โดยได้คัดสรรสินค้ามาสำหรับคนชอบซัปพอร์ต ที่ต้องการหวนรำลึกถึงกลิ่นอายของร้านโชห่วย และร้านขายของชำสมัยก่อน ซึ่งนับวันยิ่งเหลือน้อยเต็มที ในร้านนี้จะได้พบกับผลิตภัณฑ์ยุคเก่า เช่น ซีอิ๊วดำหวานที่หมักในโอ่งดินตามสูตรโบราณ ยี่ห้อกุหลาบ หรือจะเป็นยานัตถ์หมอมี แบรนด์ติดหูสำหรับคนยุคก่อน มาร่วมเดิน ชิม ช้อป ได้ที่ TCDC กรุงเทพฯ ชั้น 1 มาต่อกันที่ Made in Phranakorn โปรเจ็กต์เล่นใหญ่สไตล์ Business Matching ที่พานักสร้างสรรค์มาเจอกับเจ้าของร้านรุ่นเก๋าในย่านพระนคร กับการเปลี่ยนโฉม ปรับภาพลักษณ์ พร้อมกับยกระดับผลิตภัณฑ์ให้กับร้านอาหารเก่าแก่ - แบรนด์น้ำอบโบราณ - ร้านของกินเล่น - ร้านขายใบชาสุดคลาสสิก และร้านขายสังฆภัณฑ์เก่าแก่คู่ย่าน เพื่อมุ่งแก้ไขข้อจำกัดเดิม ไปสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่ทำให้ร้านเติบโตและเดินต่อไปได้ โดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์และตัวตนของร้าน โปรเจ็กต์นี้นำเสนอเรื่องราวของ The Old Town’s Favorite 5 ของโปรดชาวพระนคร ผู้สนใจสามารถตามไปพบกับร้านทั้งหมดนี้ได้ บริเวณถนนมหรรณพ 

  • Made in Phranakorn x นิยมโภชนา เสาชิงช้า โดย UA x Creator x นิยมโภชนา เสาชิงช้า 
  • Made in Phranakorn: Re-scented Pranakorn โดย Eqlibrum x Nangloy 
  • Made in Phranakorn x ร้านยุ้ยเผือกทอด เสาชิงช้า โดย จิรายุ พงส์วรุตม์
  • Made in Phranakorn x ร้านใบชาตรากระต่าย โดย ชิตสุดา อมรศักดิ์
  • Made in Phranakorn x อรรคภัณฑ์ โดย อักษรสนาน

สุดท้ายกับ Creative House By CEA โชว์เคสที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การหมาชน) หรือ CEA ร่วมกับ Capital สื่อธุรกิจชั้นนำ คัดสรรผู้เข้าร่วมจัดเทศกาลฯ กว่า 60 ราย ที่มีศักยภาพด้านธุรกิจที่โดดเด่นมารวมไว้ในแคมเปญภายใต้ชื่อ Creative House By CEA: Creativity x Business เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น สนับสนุนให้เกิดรายได้ และการจ้างงานต่าง ๆ 

สำรวจงานออกแบบที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุง ในงานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568

Design Your Change เปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 

เพื่อให้กรุงเทพฯ สมกับการเป็น "เมืองของคนเทพสร้าง" ที่สามารถโอบรับทุกชีวิต โดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และทุกคนสามารถใช้พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์เชิงบวกท้าทายข้อจำกัดที่หลากหลายของเมืองได้ ทั้งประเด็นผู้สูงอายุ เด็ก และสัตว์จรจัด STUDIO150 เป็นหนึ่งในทีมที่มาร่วมเล่นในสนามแห่งไอเดียนี้ โดยนำเสนอการแก้ Pain Point ของสื่อการสอนภาษาไทยที่มีอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน ซึ่งยังคงไม่ปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยและไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก Pain Point ดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจให้คุณแม่ท่านหนึ่งร่วมมือกับทีมนักออกแบบ สร้างสรรค์ "บัตรคำ ก-ฮ" ผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ช่วยให้จดจำพยัญชนะได้ง่ายและลดความผิดพลาดในการเขียน โดยดึงลักษณะเด่นของพยัญชนะไทยทั้ง 44 ตัว มาวิเคราะห์และค้นหาความเชื่อมโยง จนเกิดเป็นภาพประกอบที่ใกล้เคียงกับตัวอักษร ผู้สนใจสามารถชมไอเดียสุดครีเอตนี้ได้ ณ The Corner House Bangkok (ชัยพัฒนศิลป์)  ยังคงอยู่ในธีมเด็กกับนิทรรศการ "Little more+" จากทีม Keep Right ที่พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักไม่อุดหนุนสินค้าชุมชนมากนักเพราะไม่มั่นใจและไม่รู้จักร้านโลคัล ทำให้เลือกที่จะอุดหนุนร้านเจ้าใหญ่มากกว่า เป็นที่มาของการต่อยอดโครงการ "ไกด์เด็กสลักหิน" ที่มีอยู่เดิม สู่การสร้างสรรค์นิทรรศการ Little more+ ที่ทุกคนจะได้เห็นเรื่องราวของธุรกิจเล็ก ๆ ในชุมชนตรอกสลักหิน ซึ่งถูกเล่าผ่านมุมมองของเหล่า "ไกด์เด็ก" เพื่อกระตุ้นให้เกิดการอุดหนุนธุรกิจชุมชนมากขึ้น ผู้สนใจสามารถร่วมชมนิทรรศการได้ ณ ตรอกสลักหิน 

"ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ไม่ได้หมายถึงผู้คนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงน้องหมาแมวด้วยเช่นกัน "โครงการจรจัดสรร (Stand For Strays)" เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน NGOs และบุคคลทั่วไป ที่ต้องการแก้ไขปัญหาสัตว์จรจัดในเขตพื้นที่ชุมชนเมือง ผ่านการเพนต์สีรูปอัณฑะแมว ในธีม อัณฑะเหมียวครองเมือง + หมาน้อย หมาน้อยธรรมดา เพื่อสร้างการตระหนักรู้เรื่องการควบคุมจำนวนและอุปการะแมวและหมาจรจัด พร้อมทั้งการให้ความรู้เรื่องการทำหมันให้กับสัตว์ ตลอดจนการกระตุ้นการอุปการะสัตว์แทนการซื้อ นอกจากนี้ยังมีการหาบ้านเชิงรุกให้กับเหล่าสัตว์สี่ขาที่นำออกมาจากศูนย์พักพิงของกรุงเทพมหานครด้วยเช่นกัน 

ตามไปชมความน่ารักของน้องแมวน้องหมาเหล่านี้ได้ ณ วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ เพราะเราทุกคนหลีกหนีความชราไม่ได้ ทีมนักออกแบบ RISE IMPACT จึงได้จัดเวิร์กช็อป "ชราจรเวิร์กชอป" ขึ้น โดยชวนผู้คนมาตั้งคำถามว่าหากเราแก่ตัวลง กรุงเทพฯ จะยังคงเป็นเมืองที่เราไว้วางใจที่จะเดิน เที่ยว เล่น ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่? ทีมนักออกแบบชวนผู้คนให้ลองมาสวมบทเป็นผู้สูงวัยในเมืองใหญ่ ผ่านการเล่นเกมหมุนวงล้อ "สุ่มสี่สุ่มห้า สุ่มตาสุ่มยาย" เพื่อให้เกิดการรับรู้มุมมองของผู้สูงอายุที่แม้จะเก๋าเกม แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในชีวิตหลายเรื่อง ทั้งสุขภาพ ความไม่คล่องตัวเนื่องด้วยร่างกายแก่ตัวลง ตลอดจนความเหงาและความกลัวที่อาจเกิดขึ้นในใจ มาทดลองหมุนวงล้อเพื่อเข้าใจผู้สูงอายุได้ ณ ถนนสำราญราษฎร์ 

ปัจจุบัน เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ได้เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่รวบรวมผลงานการออกแบบจากหลากหลายแขนงที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในหลากหลายมิติ ผ่านการนำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ และนวัตกรรมที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงงานดีไซน์ส่วนหนึ่งจากหลากหลายชิ้นงานที่เพิ่มพลังบวกให้กับเมืองจากเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 ทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่าการลงทุนเรื่องงานออกแบบนั้นไม่เพียงมีประโยชน์ด้านความสวยงาม แต่ยังสามารถนำมาใช้เป็นกลไกหรือต่อยอดสู่นโยบายระดับเมืองที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นได้ นั่นเท่ากับเป็นการลงทุนที่ส่งผลอย่างยั่งยืนต่อคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และความน่าอยู่ของเมือง อันจะส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เติบโตได้อย่างมีทิศทางและมั่นคงต่อไป