ธรรมนัส เปิดงานแถลงผลงานพร้อมมอบนโยบาย กรมวิชาการเกษตร ครบรอบ 50 ปี
"ธรรมนัส" เปิดงานแถลงผลงานพร้อมมอบนโยบาย กรมวิชาการเกษตร ครบรอบ 50 ปี ก้าวเข้าสู่ปีที่ 51 ภายใต้แนวคิด "ตลาดนำการวิจัย มุ่งสู่เศรษฐกิจใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม"
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร เป็นหน่วยงานสำคัญของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เป็นหน่วยงานถือว่าเป็นมันสมอง เป็นคลังสมอง มีหน้าที่ในการศึกษาวิจัยในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพการแปรปรวนของภูมิอากาศ การระบาดของโรค แมลงศัตรูพืชใหม่ โดยเน้นย้ำเสมอว่าเป็นเรื่องสำคัญ และยังเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องทั้ง 77 จังหวัด เกิดประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกรของคนไทยทั้งแผ่นดิน
"หากมองภาพกว้าง กรมวิชาการเกษตรเปรียบเหมือนกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่มีเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่จะศึกษา วิจัย ค้นคว้า ในสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ที่เรียกว่านวัตกรรมใหม่ เพื่อให้ปรับเข้าสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมในปัจจุบัน เกษตรกรมักจะได้รับผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้วิถีชีวิตคนไทยเปลี่ยนไป จำเป็นที่จะต้องปรับตัว เกษตรกรก็ต้องปรับตัว ชาวบ้านที่ไม่มีหลักวิชาการก็จะทำให้พี่น้องเกษตรกรต่อสู้แบบเดิม ในวิถีชีวิตแบบเดิมที่ทำให้ลูกหลานที่กำลังเจริญเติบโตมองไม่เห็นอนาคตครอบครัวตัวเอง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรหลายหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ จำเป็นที่จะต้องนำผลงานไปสู่พี่น้องเกษตรกรภายใน 100 วัน"
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวย้ำอีกว่า กรมวิชาการเกษตร เป็นคลังสมอง เป็นผู้กำหนดทิศทางของของกระทรวงเกษตรฯ เพราะเป็นผู้มีความรู้ที่จะนำสิ่งดีๆ ไปสู่พี่น้องเกษตรกร วันนี้จึงรู้สึกยินดีและปลาบปลื้มใจที่ได้มาพบปะกับครอบครัวของกระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะกรมวิชาการเกษตร ขอให้รักษาผลงาน สานต่อผลงาน ตามสโลแกนที่ท่านอธิบดีได้วางไว้ว่า "เราจะสร้างรายได้ สร้างโอกาส สร้างคุณภาพชีวิต โดยใช้หลักตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มโอกาส"
พร้อมกันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือและสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ระหว่างกรมวิชาการเกษตร กับหน่วยงานภาคีเครือข่าย พร้อมมอบรางวัลรางวัลผลงานวิจัยดีเด่นประจำปี 2565 รางวัลโครงการพระราชดำริ และโครงการพิเศษดีเด่น ประจำปี 2566 รางวัลนักวิจัยดีเด่นรุ่นอาวุโส และนักวิจัยดีเด่นรุ่นเยาว์ ประจำปี 2566 และมอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับผู้สร้างคุณูปการแก่กรมวิชาการเกษตร
"นอกจากนี้ภายในงานยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการบริหารจัดการองค์ความรู้ด้านความรู้ด้านการเกษตรจากผลงานวิจัยและนวัตกรรม และมีการลงนามด้านการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและการต่อยอดผลงานวิจัยภาคเกษตร ระหว่างกรมวิชาการเกษตรกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายวิชาการเกษตร ซึ่งการลงนามฉบับที่ 3 เป็นการลงนามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตรกับผู้ประกอบการ"
นายระพีภัทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ระหว่างวันที่ 20-22 กันยายน 2566 จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เข้าร่วมประชุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งใช้หลักตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ซึ่ง กรมวิชาการเกษตร จะนำผลงานไปสู่การปฏิบัติทันทีภายใน 100 วัน ภายใต้นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจะนำการประชุมในครั้งนี้เร่งรัดทำนโยบายแผนปฏิบัติงานจริงภายใน 100 วัน เพื่อให้เกิดผลงานชิ้นโบว์แดงของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามที่ท่านรัฐมนตรีมอบหมาย
