ผู้บริหาร "AQ" พาเยี่ยมชมไร่กัญชง ณ ลำพูน พร้อมหาพันธมิตรเตรียมต่อยอดธุรกิจ

ผู้บริหาร "AQ" พาเยี่ยมชมไร่กัญชง ณ ลำพูน พร้อมหาพันธมิตรเตรียมต่อยอดธุรกิจ

ผู้บริหาร "AQ" พาสื่อเยี่ยมชมไร่กัญชงของบริษัทฯ ณ จังหวัดลำพูน พร้อมหาพันธมิตรเตรียมต่อยอดสู่ธุรกิจกลางน้ำและปลายน้ำ

บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ นำโดย นายชนน วังตาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายวรวุฒิ ไหลท่วมทวีกุล กรรมการบริหารบริษัท พาคณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมไร่กัญชงของบริษัทฯ ณ จังหวัดลำพูน เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเข้าลงทุนและประกาศเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งจุดประสงค์หลักในเชิญสื่อเข้าเยี่ยมชมในครั้งนี้ เพื่อให้ได้เห็นถึงโครงการอันเป็นรูปธรรมชิ้นใหม่ภายหลังการปรับโครงสร้างและทีมบริหารในองค์กร และเพื่อนำเสนอให้เห็นถึงขั้นตอนการพัฒนานวัตกรรมการปลูกกัญชงของบริษัทฯ ที่จะเป็นฐานรายได้สำคัญให้กับกลุ่ม AQ ในอนาคต

โดยทางบริษัทฯ ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้าน กัญชง-กัญชา จากศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผู้ให้คำปรึกษาตลอดการดำเนินการที่ผ่านมา และใช้นวัตกรรมในการปลูกกัญชง รวมถึงโรงอบของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในการอบกัญชงอีกด้วย ซึ่งไร่กัญชงผืนแรกของบริษัทฯ AQ ตั้งอยู่ ณ ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าชาง จังหวัดลำพูน มีโรงเรือนสำหรับการเพาะปลูก (Green House) จำนวน 50 อาคาร เป็นพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 8,000 ตารางเมตร และพื้นที่ปลูกกลางแจ้ง (Outdoor) ประมาณ 3,300 ตารางเมตร รวมพื้นที่แปลงเพาะปลูกกว่า 12,000 ตารางเมตร

 

นายชนน วังตาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สื่อมวลชนมาเยี่ยมชมไร่ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ จากการเล็งเห็นถึงความสำคัญของการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ทาง AQ จึงได้มีการกระจายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจ กัญชง ที่ถือเป็นธุรกิจยังสามารถเติบโตและสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ได้อีกมาก แม้ว่าจะมีการแข่งขันในตลาดสูง แต่เราได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากบริษัท Egronix ซึ่งเป็นฟาร์มผลิตขนาดใหญ่ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพเข้ามาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของเรา แน่นอนว่าเมื่อมาสายธุรกิจนี้แล้วเราก็เตรียมที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำอย่างแน่นอน

นายวรวุฒิ ไหลท่วมทวีกุล กรรมการบริหารบริษัท เสริมว่า จากพื้นที่แปลงเพาะปลูกกว่า 12,000 ตารางเมตร จะสามารถสร้างผลผลิตในรอบการปลูกได้กว่า 7,500 กิโลกรัม ต่อรอบปลูกและสามารถปลูกได้ 3-4 รอบ ต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิต ได้ในไตรมาสแรกของปี 2566 และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากการขายกัญชงได้ภายในปี 2566 เช่นกัน

"ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์โดยพัฒนาสินค้าที่มีส่วนประกอบของกัญชงและกัญชามาวางขายในตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันทางบริษัทฯ ได้มีพันธมิตรเพื่อต่อยอดธุรกิจปลายน้ำแล้ว และกำลังมองหาคู่ค้าที่สนใจรับซื้อในส่วนของ ช่อดอก ราก ลำต้นและใบ รวมถึงพันธมิตรเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดธุรกิจอื่นๆ ในส่วนของธุรกิจกลางน้ำและปลายน้ำต่อไป" 

ปัจจุบัน AQ ดำเนินธุรกิจในลักษณะเป็น Holding Company โดยมีธุรกิจหลักดังเดิมที่มีความเชี่ยวชาญคือ 1) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เน้นโครงการแนวราบ 2) กลุ่มธุรกิจโรงแรม 3) ธุรกิจพลังงานทางเลือก ได้แก่พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ 4) ธุรกิจการเงินได้แก่สินเชื่อ แบบ NonBank  และ 5) ธุรกิจ กัญชง-กัญชา แบบครบวงจร