"กฎ 3D" ช่วยชะลอความเสื่อม "ไตวายเรื้อรัง"

"กฎ 3D" ช่วยชะลอความเสื่อม "ไตวายเรื้อรัง"

แพทย์อายุรศาสตร์โรคไต โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง แนะวิธีการชะลอความเสื่อม "ไตวายเรื้อรัง" สามารถทำได้ ด้วย "กฎ 3D"

หากมีอาการปัสสาวะขัดหรือลำบาก ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะกลางคืนบ่อยกว่าปกติ หลายคนอาจจะคิดถึงโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ แต่ทั้งนี้ทราบหรือไม่ว่านี่อาจเป็นสัญญาณเตือนสำคัญของ ไตวายเรื้อรัง ซึ่งไตวายเรื้อรังเปรียบได้เสมือนฆาตกรเงียบ เนื่องจากในช่วงแรกแทบไม่มีสัญญาณเตือนและอาการจะปรากฏชัดเจนในช่วงระยะท้าย เมื่อไตได้รับความเสียหายไปมากแล้ว 

พญ.เนสินี เก้าเอี้ยน แพทย์ชำนาญการ อายุรศาสตร์โรคไต โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง กล่าวถึงความรู้เพื่อทำความรู้จักไตเบื้องต้นว่า คนเรามีไตสองข้างมีรูปร่างคล้ายถั่ว ตั้งอยู่ในตำแหน่งแถวใต้ชายโครงด้านหลัง บริเวณบั้นเอวทั้งสองข้าง และอยู่นอกช่องท้อง ไตสองข้างต่อกับท่อปัสสาวะและมาเปิดที่กระเพาะปัสสาวะ โดยที่ไตแต่ละข้างมีหน่วยไตข้างละ 1 ล้านหน่วย เสมือนรูกรองในเครื่องกรองน้ำ ไตมี 4 หน้าที่สำคัญ ได้แก่ การผลิตปัสสาวะเพื่อกำจัดของเสีย การกำจัดสารพิษหรือยาบางชนิดออกจากร่างกาย การสร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการสร้างเม็ดเลือดแดง และวิตามินดีซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างกระดูก และมีหน้าที่ในการควบคุมความเป็นกรดด่างในเลือด ควบคุมความดันโลหิต สมดุลน้ำและเกลือแร่ ทราบหรือไม่โรคทางไตมี 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่มีความผิดปกติของปัสสาวะแต่ไม่มีอาการแสดง กลุ่มโรคเนื้อไตอักเสบ กลุ่มโรคไตบวมน้ำ กลุ่มไตวายเฉียบพลัน และกลุ่มไตวายเรื้อรัง โรคไตวายเรื้อรัง คือภาวะที่ไตสูญเสียหน้าที่หลักอย่างต่อเนื่อง หรือมีการทำงานของไตน้อยลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งอาศัยค่าอัตราการกรองของเสียของไต ปัจจัยที่เกิดไตวายเรื้อรังมีหลายสาเหตุ แต่มักเกิดจากผลจากโรคแทรกซ้อนจาก โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง 

\"กฎ 3D\" ช่วยชะลอความเสื่อม \"ไตวายเรื้อรัง\"

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น โรคนิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อยครั้ง ไตอักเสบ โรคทางพันธุกรรม เช่น โรคถุงน้ำในไต รวมถึงอาจเกิดจากผลข้างเคียงจากการใช้ยาแก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด (NSAID) ยาปฏิชีวนะบางตัว และสมุนไพร

ปัญหาของ ไตวายเรื้อรัง มักไม่มีสัญญาณเตือนความผิดปกติจะไม่แสดงจนกว่าการทำงานของไตจะลดลงเหลือ 1 ใน 4 ของการทำงานปกติ อาการที่สงสัยว่าเกิดภาวะไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ซีด ขาบวมเมื่อกดลงไปแล้วบุ๋ม คันตามตัว ปัสสาวะกลางคืนบ่อยครั้ง ปัสสาวะเป็นฟอง ปัสสาวะเป็นเลือด 

สำหรับการวินิจฉัยภาวะไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีการตรวจพบโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ตรวจเลือดพบ การทำงานของไตลดลงต่อเนื่องนานเกิน 3 เดือน อัลตราซาวด์พบ ขนาดไตเล็กลง ระดับความรุนแรงของไตวายเรื้อรัง แบ่งตามอัตราการกรองของไต มี 5 ระยะ ดังต่อไปนี้ 

  • ระยะที่ 1 อัตราการกรอง > 90 ไตเริ่มผิดปกติ 
  • ระยะที่ 2 อัตราการกรอง 60-89 ไตเรื้อรังระยะเริ่มต้น 
  • ระยะที่ 3 อัตราการกรอง 30-59 ไตเรื้อรังระยะปานกลาง
  • ระยะที่ 4 อัตราการกรอง 15-29 ไตเรื้อรังระยะรุนแรง
  • ระยะที่ 5 อัตราการกรอง < 15 ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย 

การรักษา ไตวายเรื้อรัง เนื่องจากความรุนแรงของไตวายเรื้อรังมีหลายระยะการรักษาจึงเป็นไปตามความรุนแรงในแต่ละระยะ ตั้งแต่การการรักษาเพื่อชะลอความเสื่อมของไตไปถึงการรักษาด้วยวิธีบำบัดทดแทนไต หรือการล้างไต ซึ่งจะเป็นการรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะที่ 5 เท่านั้น

แพทย์ชำนาญการ อายุรศาสตร์โรคไต รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง จึงแนะนำการชะลอความเสื่อมไตวายเรื้อรังสามารถทำได้ ด้วย "กฎ 3D"  

  • D Diet ได้แก่ คุมอาหารเค็ม โดยปริมาณโซเดียม ควรน้อยกว่า 2000 มิลลิกรัมต่อวัน คุมอาหารโปรตีนสูง ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดีร่วมกับกรดอะมิโน ปริมาณตามคำแนะนำของแพทย์ รวมทั้งคุมอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง
  • D Drug ได้แก่ คุมความดันโลหิตน้อยกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท คุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยมีเป้าหมายระดับน้ำตาลสะสม 6.5-7 % เช่น ยากลุ่ม SGLT2 inhibitor คุมระดับไขมันให้ระดับไขมัน LDL-C น้อยกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร อีกทั้งงดยาที่มีผลเสียต่อไต เช่น ยาแก้ปวดชนิด NSAIDs และยาสมุนไพร 
  • D Do ได้แก่ คุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม คุมการออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และงดการสูบบุหรี่ เพื่อลดการรั่วของโปรตีนไข่ขาวในปัสสาวะ

ดังนั้น การใช้ "กฎ 3D" ร่วมกับการไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีที่ดีในการชะลอความเสื่อมของไต