นวัตกรรม “เครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟ” แบบพกพา ลดต้นทุน ยกระดับการผลิต

นวัตกรรม “เครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟ” แบบพกพา ลดต้นทุน ยกระดับการผลิต

นวัตกรรม “เครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟ” แบบพกพา ลดต้นทุน ยกระดับการผลิต

“กาแฟ” เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของไทย ทำรายได้ให้ประเทศแต่ละปีมากกว่า 5,500 ล้านบาท ในประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกาแฟกว่า 260,000 ไร่ มี 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์อะราบิกา ปลูกมากในภาคเหนือ และพันธุ์โรบัสตา ปลูกมากในภาคใต้ ปัจจุบันใช้แรงงานคนเก็บเกี่ยวเป็นหลัก แต่ก็ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน  และการเก็บเกี่ยวด้วยคนโดยใช้มือเก็บมีต้นทุนค่าเก็บ 5-8 บาทต่อกิโลกรัมผลสด ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูง และยังไม่มีเครื่องมือมาช่วยเก็บเกี่ยว

ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมเชียงใหม่ สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม กรมวิชาการเกษตร จึงได้วิจัยและพัฒนาเครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟแบบพกพา ตัวเครื่องประกอบด้วย แกนหมุน 2 แกน ยาว 100 มิลลิเมตร หมุนสวนทางกัน ด้านข้างแกนหมุนติดเส้นลวดสปริง 2 เส้น สำหรับรูดผลกาแฟออกจากกิ่ง ก้านรูดผลกาแฟทำงานที่ความเร็วเชิงเส้น 4.18 เมตรต่อวินาที ส่งต่อกำลังด้วยเฟือง ต้นกำลังเป็นมอเตอร์กระแสตรง 12 โวลต์ 6 วัตต์ ใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็ก 12 โวลต์ให้กำลังไฟฟ้า โดยรอบตัวเครื่องติดริ้วพลาสติกตัดเรียงเป็นเส้นเพื่อป้องกันผลกาแฟกระเด็นออกจากที่รองรับ

นวัตกรรม “เครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟ” แบบพกพา ลดต้นทุน ยกระดับการผลิต

สำหรับผลทดสอบการใช้งานเครื่องต้นแบบในการเก็บเกี่ยว “ผลกาแฟโรบัสตา” จากต้นที่สุกแก่พร้อมกัน ใช้ตาข่ายไนล่อนขนาด 1.20x1.50x0.50 เมตร รองรับผลกาแฟขณะเก็บเกี่ยว ผลการทดสอบเครื่องสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตเฉลี่ย 85.18 กิโลกรัมต่อชั่วโมง การเก็บด้วยแรงงานคนได้ผลผลิตเฉลี่ย 46.91 กิโลกรัมต่อชั่วโมง    ซึ่งเครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟแบบพกพา มีความสามารถการทำงานมากกว่าคนเก็บ 1.81 เท่า

ส่วนในการเก็บเกี่ยว “ผลกาแฟอะราบิกา” จากต้นที่มีความสุกแก่ 80 เปอร์เซ็นต์ เครื่องมีความสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตเฉลี่ย 30.54 กิโลกรัมต่อชั่วโมง มีผลกาแฟสีเขียวปนเฉลี่ย 2.66 เปอร์เซ็นต์ การใช้แรงงานคนเก็บได้ผลผลิตเฉลี่ย 15.00 กิโลกรัมต่อชั่วโมง มีผลกาแฟสีเขียวปนเฉลี่ย 1.68 เปอร์เซ็นต์  เครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟแบบพกพามีความสามารถในการทำงานมากกว่าคนเก็บ 2.04 เท่า   อย่างไรก็ตามความสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตจะขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติงานถ้าผู้ปฏิบัติงานมีความชำนาญในการใช้เครื่องจะสามารถเก็บเกี่ยวผลกาแฟได้รวดเร็วมากขึ้น

ปัจจุบันมีบริษัทเอกชนมาขอแบบพิมพ์เขียวเครื่องมือเก็บเกี่ยวผลกาแฟที่กรมวิชาการเกษตรวิจัยขึ้น เพื่อนำไปผลิตจำหน่ายเชิงพาณิชย์ให้แก่เกษตรกรชาวสวนกาแฟในประเทศใช้งานแล้ว ในราคาเครื่องละ 4,900 บาท  ซึ่งเครื่องมือเก็บเกี่ยวผลกาแฟจะช่วยลดต้นทุนการเก็บเกี่ยวผลกาแฟให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟได้มากกว่า 40%  ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน   เกษตรกรสามารถทำงานได้เร็วขึ้นและทันต่อฤดูกาลเก็บเกี่ยว สุดท้ายจะทำให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ ขายได้ราคาดี ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกร

นวัตกรรม “เครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟ” แบบพกพา ลดต้นทุน ยกระดับการผลิต