"เซ็นทรัลพัฒนา" เดินหน้า NET ZERO 2050 คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Awards

"เซ็นทรัลพัฒนา" เดินหน้า NET ZERO 2050 คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Awards

เซ็นทรัลพัฒนา เดินหน้าเป้าหมาย Net Zero 2050 นำ 11 อาคารคว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Awards ตอกย้ำความมุ่งมั่นสร้าง Sustainable Ecosystem เพื่อผู้คนและโลก

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เดินหน้าเป้าหมาย Net Zero 2050 คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Award จากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จาก 11 อาคารแบ่งเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล 10 แห่ง และอาคารสำนักงาน 1 แห่ง ซึ่งมีความโดดเด่นด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ตอกย้ำการเป็นองค์กรยั่งยืนระดับโลกภายใต้วิสัยทัศน์ "Imagining better futures for all" มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน

"เซ็นทรัลพัฒนา" เดินหน้า NET ZERO 2050 คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Awards

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า เราได้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ better futures ให้กับทุกคน ด้วยบทบาทที่เป็น Place Maker ผู้พัฒนาพื้นที่แห่งอนาคต ใส่ใจยกระดับคุณภาพชีวิต ไปพร้อมกับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ที่ที่เราเข้าไป และในโอกาสที่อาคารของเซ็นทรัลพัฒนาถึง 11 แห่งได้รับรางวัลอาคารประหยัดพลังงานในครั้งนี้ เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราที่ได้ตั้งเป้าเดินหน้าสู่การเป็นองค์กร Net Zero ในปี 2050 และนับเป็นความภูมิใจและกำลังใจให้กับทีมงานเซ็นทรัลพัฒนาทุกคนที่ได้ใส่ใจในทุกขั้นตอนของการพัฒนาทุกโครงการของเรา

"เซ็นทรัลพัฒนา" เดินหน้า NET ZERO 2050 คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Awards

นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า เรามีความตั้งใจในการพัฒนาโครงการที่เรามีความเชี่ยวชาญในทุกรูปแบบทั้งศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน, ที่อยู่อาศัย และโรงเรม ให้เป็นพื้นที่แห่งการใช้ชีวิตที่ดีสำหรับคนทุกเจเนอร์เรชั่น โดยให้ความสำคัญในด้าน Green & Energy และ Well-Being โดยในการพัฒนาโครงการเราใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ โดยเฉพาะด้าน Energy Saving เพื่อให้อาคารของเรามีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน โดยนำ Innovation และ Design Thinking มาใช้ ได้แก่ การติดตั้ง Solar Rooftop การติดตั้งฝ้าเสริมเพื่อลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร, การออกแบบโดยใช้แสงธรรมชาติภายในศูนย์ฯ ให้มากที่สุด ไปจนถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วทั้งโครงการ อีกทั้งยังนำไปสู่การริเริ่มโมเดลใหม่ๆ ในการพัฒนาศูนย์การค้าในรูปแบบ Semi-Outdoor ที่ประสบความสำเร็จทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ที่เราเข้าไปพัฒนาโครงการ

โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนาได้ผ่านเกณฑ์ประเมินด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน MEA Index (Management of Energy Achievement Index) ของกฟน.และเกณฑ์การประเมินด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Awards ในปี 2564 ใน 11 อาคาร แบ่งเป็นศูนย์การค้า 10 แห่ง ได้แก่  เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล เวสต์เกต, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัล รามอินทรา, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และอาคารสำนักงาน 1 แห่ง คืออาคาร centralwOrld Offices จากการดำเนินมาตรการประหยัดพลังงาน อาทิ การเลือกใช้พลังงานสะอาดโดยติดตั้งระบบโซล่าร์เซลล์ (Solar Rooftop) บนหลังคาของศูนย์การค้า การเปลี่ยนมาใช้เครื่องทำความเย็นประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Chiller) ซึ่งเลือกใช้สารทำความเย็นที่ช่วยลดผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อนมากถึง 700 เท่า การติดตั้งหลอดไฟ LED ในศูนย์การค้าและ LED Motion Sensor บริเวณทางหนีไฟและลานจอดรถ เป็นต้น

"เซ็นทรัลพัฒนา" เดินหน้า NET ZERO 2050 คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Awards

ปัจจุบัน บริษัทฯ ขับเคลื่อนสู่อนาคตภายใต้เจตจำนงค์ของแบรนด์ Imagining better futures for all ด้วยการสร้างและพัฒนาพื้นที่ที่มีคุณภาพเพื่อดูแลคนและชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตควบคู่ไปกับการเดินหน้าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนประเทศไทย สู่การสร้าง Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยเป็นบริษัทอสังหาฯ หนึ่งเดียวในไทยที่เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และ DJSI Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8

นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว ภาพยนตร์โฆษณาใหม่ เพื่อสะท้อน Commitment for better futures และมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน Mixed-Use Development บริหารจัดการศูนย์การค้ารวม 36 แห่ง (อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ, ต่างจังหวัด 20 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ), ศูนย์การค้าภายใต้กิจการร่วมค้า 1 แห่ง และคอมมูนิตี้ มอลล์ 18 แห่ง ตลอดจนบริหารศูนย์อาหาร 32 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร, โรงแรม 2 แห่ง, และโครงการที่พักอาศัยอีก 22 โครงการ