“ประกัยภัยไทยวิวัฒน์” 70 ปี แห่งผู้นำ “InsurTech” ก้าวสู่ทศวรรษที่ 8 มุ่งสร้างประสบการณ์แห่งอนาคต

“ประกัยภัยไทยวิวัฒน์” 70 ปี แห่งผู้นำ “InsurTech” ก้าวสู่ทศวรรษที่ 8 มุ่งสร้างประสบการณ์แห่งอนาคต

“ประกันภัยไทยวิวัฒน์” ประกาศความสำเร็จ 70 ปี แห่งการเป็นผู้นำด้าน “InsurTech” พร้อมสำหรับทศวรรษที่ 8 ปักหมุด “สร้างประสบการณ์แห่งอนาคต”

ประกันภัยไทยวิวัฒน์” ประกาศความสำเร็จ 70 ปี พร้อมสำหรับทศวรรษที่ 8 เป็นผู้นำ InsurTech มาใช้เต็มรูปแบบ เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ มุ่งแก้ปัญหา Pain Point ผู้บริโภคอย่างเข้าใจในทุกมิติ หวังสร้างความประทับใจสูงสุดสำหรับผู้เอาประกันภัย ภายใต้แนวคิด “คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต” ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีกว่าเดิม พร้อมนำเทคโนโลยีและฐานข้อมูลที่สะสมมายาวนานสร้างระบบปัญญาประดิษฐ์ เพิ่มความสะดวก-รวดเร็ว-ถูกต้อง-แม่นยำ อัพมาตรฐานการประกันภัย สร้างประสบการณ์แห่งอนาคต ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับโตทะลุ 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปี

“ประกัยภัยไทยวิวัฒน์” 70 ปี แห่งผู้นำ “InsurTech” ก้าวสู่ทศวรรษที่ 8 มุ่งสร้างประสบการณ์แห่งอนาคต

นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ “TVI” ผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย เปิดเผยภายในงานแถลงข่าวครบรอบ 70 ปี “ประกันภัยไทยวิวัฒน์” องค์กรแห่งผู้นำด้าน “InsurTech” วันพุธที่ 1 ธันวาคม 2564 ว่า ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ได้มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการ หวังสร้างหลักประกันที่มั่นคง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีกว่าเดิม ภายใต้การยึดหลักแนวคิด "คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต" ในทุกๆ สถานการณ์
โดยได้เน้นคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความยืดหยุ่น มุ่งแก้ปัญหา Pain Point ของผู้บริโภคอย่างเข้าใจในทุกมิติ ทั้งด้าน “ความคุ้มครอง” และ “ความคุ้มค่า” สอดรับวิถีชีวิตและความต้องการเฉพาะบุคคล ส่งผลให้ได้รับกระแสการตอบรับจากผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลักดันยอดกรมธรรม์ และเบี้ยรับใหม่เติบโตก้าวกระโดด โดยคาดว่า ภาพรวมเบี้ยประกันภัยรับปี 2564 จะเติบโตขึ้นทะลุ 6,000 ล้านบาท 
 

“ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับในฐานะบริษัทประกันวินาศภัยที่เป็นผู้นำด้าน InsurTech โดยองค์กรและสถาบันชั้นนำ แต่ยังได้รับการยกย่องในด้านการเป็นสถาบันที่มีการทำงานอย่างมีธรรมาภิบาล สะท้อนได้จากล่าสุดบริษัทได้รับประเมินในระดับ Excellent CG Scoring หรือระดับ 5 ดาว ประจำปี 2564 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” นายจีรพันธ์ กล่าว 

นายจีรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เสมือนเป็นตัวเร่งให้โลกเปลี่ยนเข้าสู่ความปกติใหม่ (New Normal) อย่างฉับพลัน เทคโนโลยีกลายเป็นอีกปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตประจำวัน ส่งผลให้การคิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของทุกภาคส่วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาประกันภัยไทยวิวัฒน์ได้ตระหนักถึงความสำคัญ และมุ่งมั่นในการใช้เทคโยโลยีเพื่อพัฒนายกระดับการประกันภัยมาตลอดระยะเวลา 70 ปี ภายใต้ปณิธานเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมประกันภัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยให้ผู้บริโภคมีหลักประกันที่มั่นคง สามารถเลือกใช้ชีวิตได้อย่างอิสระในแบบที่ต้องการ ขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพระบบการจัดการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพด้านทรัพยากรบุคคลให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น  
 

“ประกัยภัยไทยวิวัฒน์” 70 ปี แห่งผู้นำ “InsurTech” ก้าวสู่ทศวรรษที่ 8 มุ่งสร้างประสบการณ์แห่งอนาคต

ด้าน นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI บอกว่า สำหรับก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8 ประกันภัยไทยวิวัฒน์มุ่งสร้างประสบการณ์ประกันภัยแห่งอนาคต ด้วยการนำ InsurTech มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ยกระดับบริการเติมเต็มวิถีชีวิตในแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างลงตัวมากขึ้น เดินหน้าพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ และประเภทความคุ้มครอง ทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor ให้มีความหลากหลาย เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก คุ้มค่า คุ้มราคา ครอบคลุมลักษณะการใช้งาน และวิถีชีวิตที่มีความแตกต่างกันของแต่ละบุคคลได้มากขึ้น พร้อมเดินหน้าขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งรายเก่าและรายใหม่ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์เติมเต็มทุกช่วงจังหวะการใช้ชีวิตของผู้บริโภค ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า

โดยเชื่อมั่นว่า การประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะ “ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์แบบเปิดปิด” ที่ TVI เป็นบริษัทประกันวินาศภัยเพียงรายเดียวที่นำเสนอผลิตภัณฑ์นี้ให้กับคนไทย ภายใต้มาตรฐานความคุ้มครองและการบริการเสมือนการประกันภัยรถยนต์ปกติ แต่โดดเด่นเรื่องความยุติธรรมของเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย ซึ่งช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้สูงสุดถึง 70% ยังมีโอกาสเติบโตสูงกว่า 100 เท่า สะท้อนจากผลสำรวจที่พบว่า ปัจจุบันคนไทยมีอัตราการเข้าถึงประกันวินาศภัยอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีอัตราเบี้ยต่อ GDP เฉลี่ยอยู่ที่ 10-20% ขณะที่ประเทศไทยต่ำกว่า 2% เท่านั้น นอกจากนั้นยังพบว่ารถยนต์ที่จดทะเบียนส่วนบุคคลในประเทศไทยที่ยังไม่มีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจอยู่กว่า 7 ล้านคัน ซึ่งสาเหตุสำคัญของการเข้าถึงการประกันภัยที่ยังต่ำโดยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจน่าจะมาจากผู้ทำประกันรถยนต์ส่วนใหญ่กว่า 80% เห็นว่าต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงกว่าความจำเป็น 

นายเทพพันธ์ บอกเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการเดินหน้าสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เข้ามาใช้ตรวจประเมินสภาพรถยนต์ทั้งก่อนทำประกันภัยและหลังการเกิดอุบัติเหตุผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเดินหน้ายกระดับระบบจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management: CRM) เชื่อมต่อข้อมูลติดตามตรวจสอบเป็นรายกรณีแบบเรียลไทม์ ยกระดับประสิทธิภาพงานบริการสู่ One Stop Service ควบคู่ไปกับยกระดับเทคโนโลยีรับ-ส่งข้อมูลเป็น 4G และ 5G เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในทุกการเชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อ ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ประโยชน์คืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง โดยในโอกาสครบรอบ 70 ปี บริษัทฯได้จัดทำแคมเปญพิเศษ  “Caring is Giving” มอบเงินส่วนหนึ่งของเบี้ยรับที่มาจากการขายทาง Online รวม 1 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิยุวพัฒน์, มูลนิธิรามาธิบดี และสภากาชาดไทย พร้อมจัดโครงการ Thaivivat Innovation Awards 2021 ด้วยการจับมือ 3 พันธมิตรหลัก ได้แก่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และ บริษัท Amazon Web Service Thailand จำกัด ร่วมทำ Workshop เฟ้นหาคน InsurTech เจนเนอเรชันใหม่สู่วงการประกันภัย โดยได้มีนักเรียน นักศึกษา และนักพัฒนาใหม่ๆ เข้าร่วมแข่งขันถึง 41 ทีม โดยทางบริษัทจะมอบเงินทุนการศึกษารวม 1 แสนบาทให้กับ 3 ทีมสุดท้าย ที่ได้รับการคัดเลือก

ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบ 70 ปี และร่วมส่งความสุขช่วงท้ายปี 2564 บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย แคมเปญสุดยิ่งใหญ่ YEAR END BIG DEAL 2021  แคมเปญส่งท้ายปี ที่มอบส่วนลดและโปรโมชันสุดพิเศษ ทั้งประกันรถเปิดปิด ประกันภัยสุขภาพ ทั้ง Active Health และใจป้ำมีคืน โดยประกันรถเปิดปิด มอบความคุ้มครองเพิ่ม 30 วัน และรับระยะเวลาคุ้มครองเพิ่ม 30 ชั่วโมง เมื่อซื้อหรือต่ออายุ ประกันรถเปิดปิด แบบ Package, แบบ Top-up, ประกันรถเปิดปิด Home Plus แผน 365 วัน ทุกประเภทความคุ้มครองผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.thaivivat.co.th หรือ Call center  02-200-7000 หรือแอปพลิเคชัน Thaivivat ตั้งแต่ วันที่  1 ธ.ค. 64 – 31 ธ.ค. 64    

รวมถึงยังมอบส่วนลดค่าเบี้ยงวดแรกสำหรับประกันภัยสุขภาพ Thaivivat Active Health ทุกแผน  สูงสุดถึง 1,400 บาท  และส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยงวดแรกสำหรับประกันสุขภาพใจป้ำมีคืน 350 บาท สำหรับแผนความคุ้มครองผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก (IPD+OPD) เมื่อสมัครผ่านเว็บไซต์หรือ Call center 02-200-7111  ตั้งแต่ วันที่  1 ธ.ค. 64 – 31 ธ.ค. 64 

นอกจากกิจกรรมส่งเสริมการขายแล้ว ยังมอบสิทธิพิเศษ จากร้านค้า, ร้านอาหาร และแบรนด์พันธมิตรชั้นนำมากมาย อาทิ สิทธิพิเศษตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 30 รายการ ,พ่นฆ่าเชื้อป้องกันไวรัสโควิด 19 ,เติมลมยางไนโตเจน , ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ จากศูนย์บริการรถยนต์ AUTOBACS รวมถึงโปรแกรมตรวจสุขภาพ ไทยวิวัฒน์ 70 ปี ร่วมกับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่นในราคาพิเศษเพียง 2,490 บาท  อีกทั้งยังมีบริการจองที่จอดรถล่วงหน้า Thaivivat Parking ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 6 สาขาทั่วกรุงเทพมหานคร และบริการเรียกล้างรถนอกสถานที่  โดยสิทธิประโยชน์ทั้งหมดนี้สามารถรับสิทธิ์ได้ผ่าน แอปพลิเคชัน Thaivivat