สพภ.เปิดตัวท่องเที่ยวชีวภาพ สร้างคุณค่าและรายได้ให้ท้องถิ่น

สพภ.เปิดตัวท่องเที่ยวชีวภาพ สร้างคุณค่าและรายได้ให้ท้องถิ่น

การท่องเที่ยวที่ปลอดภัย ยุค Covid 19 เที่ยวแบบปลอดภัยสุขกายสุขใจ เที่ยวเป็นเฉพาะกลุ่ม วางแผนการเดินทาง เที่ยวแบบเข้าใจธรรมชาติและวิถีชีวิตชุมชนในท้องถิ่น

 ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานกรรมการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ สพภ. เปิดเผยถึงแนวคิด ท่องเที่ยวชีวภาพ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแนวใหม่ยุค New Normal ที่นำความสวยงามของธรรมชาติ ความอุดมสมบรูณ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ และวิถีท้องถิ่นในชุมชน รวมถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาเป็นจุดขาย ทุนธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพมาสร้างคุณค่าและรายได้ให้กับกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นชุมชนด้วย “การท่องเที่ยวชีวภาพ” หรือ “BioTourism”

โดยเป็นเครื่องมือการตลาด ที่สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ สพภ. นำทุนธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพมาสร้างคุณค่าและรายได้ให้กับ กลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น/ชุมชน เป็นสินค้าที่มีมูลค่า ไม่สูงมาก ตลอดจนทัศนียภาพที่สวยงามของพื้นที่ วิว ทิวทัศน์ สัตว์หายาก รวมถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่น

“ท่องเที่ยวชีวภาพ” เป็นการตลาดแบบ Outside in คือ การสร้างหรือสื่อสารความน่าสนใจของพื้นที่ชุมชนและดึงดูดให้คนภายนอกเข้ามาสัมผัส เยี่ยมชมสถานที่ วิถีชุมชน เลือกชมสินค้าและบริการ ทำให้สินค้าจากภูมิปัญญาและ ทรัพยากรชีวภาพที่เดิมมีปริมาณและมูลค่าไม่มาก ไม่คุ้มค่าที่จะนำไปจำหน่ายพื้นที่ห่างไกล รวมทั้งสินค้าประเภทบริการที่สร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชนได้ เมื่อชุมชนมีรายได้จากทรัพยากรท้องถิ่นตนเอง ก็จะกระตุ้นให้ชุมชนแบ่งผลกำไรหรือรายได้มา ทำกิจกรรมอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรให้มีความยั่งยืน หรือกล่าวได้ว่า อนุรักษ์แล้ว ต้องมีกินมีใช้ด้วย

สำหรับหลักการท้องถิ่น//ชุมชน เป็น แหล่งท่องเที่ยวชีวภาพนั้น ประกอบด้วย

1.ชุมชนตั้งอยู่ห่างไกล  เมืองใหญ่ ถนนสายหลัก หรือตลาดหลักค่อนข้างมาก

2.สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ชมุชน   มูลค่าไม่สูงมาก  อายุการเก็บรักษาไม่นาน เป็นสินค้าพื้นฐาน

3.มีสิ่งดึงดูดอื่นๆ  เช่น ภูมิทัศน์ สภาพธรรมชาติ มีสัตว์ป่าหายาก  หรือมีภูมิปัญญาที่เชื่อมโยงกับทรัพยากรชีวภาพท้องถิ่น

4.ชุมชนมีความต้องการ  และให้ความร่วมมือ

 

       ที่ผ่านมาสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ สพภ. ส่งเสริมสนับสนุนท้องถิ่น ชุมชน สร้างเศรษฐกิจ สู่การอนุรักษ์ สร้างคุณค่าและรายได้ให้กับชุมชน กับ“แหล่งท่องเที่ยวชีวภาพ”ทั่วประเทศ รวม 6 พื้นที่ ประกอบด้วย

1. กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี บ้านรวมไทย ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

2.กลุ่มเกษตรยั่งยืน ชุมชนบ้านศรีเจริญ ต.เลยวังไสย์ อ.ภูหลวง จ.เลย

3.กลุ่มโหนด นา เล ต.ท่าหิน อ.สทิงพระ จ.สงขลา

4.กลุ่มพัฒนาทรัพยากรชีวภาพ (ส้มมะปี๊ด) ต.วันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี

5.ชุมชนปงไคร้ อ.แม่ริม  จ.เชียงใหม่ 

6.ซุมชนตำบลลุ่มสุ่ม จ.กาญจนบุรี

 ทั้ง 6 ชุมชนสามารถ สร้างเศรษฐกิจ สู่การอนุรักษ์  สร้างคุณค่าและรายได้ให้กับชุมชนตนเองได้เป็นอย่างดี  สอดคล้องกับ ทิศทางการท่องเที่ยวชุมชนในประเทศไทย จากรายงานการสำรวจเทรนด์การท่องเที่ยวในประเทศไทย  ปี 2562 โดย Airbnb พบว่า ร้อยละ 84 ต้องการท่องเที่ยวแบบใช้ชีวิตแบบเดียวกับคนในท้องถิ่นและ ใช้จ่ายไปกับร้านอาหารในชุมชนมากที่สุด ถึงกว่า 1.7 พันล้านบาท

ขณะที่ข้อมูลของ Expedia ที่ เจาะลึกข้อมูล  การท่องเที่ยวในปี 2561 พบว่านักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเลือกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเป็นแหล่ง ชุมชนท้องถิ่นในเมืองรอง อาทิ สกลนคร นครพนม น่าน อัตราการท่องเที่ยว ลักษณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นกว่า ร้อยละ  50 เมื่อเทียบปี 2560 สะท้อนให้เห็นว่าในปัจจุบัน การท่องเที่ยวตามรอยวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนต่างๆ เป็นแหล่งการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ สพภ.เตรียมสนับสนุนและส่งเสริมท้องถิ่นชุมชนตั้งอยู่ห่างไกล ซึ่งมีสิ่งภูมิทัศน์ สภาพธรรมชาติ มีสัตว์ป่าหายาก  หรือมีภูมิปัญญาที่เชื่อมโยงกับทรัพยากรชีวภาพท้องถิ่น ซึ่งมีความต้องการ พัฒนาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชีวภาพ สร้างเศรษฐกิจ สร้างคุณค่าและรายได้ นำไปสู่การอนุรักษ์ชุมชน ท่ามกลางกระแส การท่องเที่ยวที่ปลอดภัย ยุค Covid 19 เที่ยวสุขกายสุขใจ เที่ยวเป็นกลุ่มเล็กๆ เฉพาะกลุ่ม วางแผนการเดินทาง เที่ยวแบบเข้าใจธรรมชาติและวิถีชีวิตชุมชนในท้องถิ่น กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง เพิ่มขึ้นต่อไป