ธ.ไทยเครดิตฯ จับมือ กรมการพัฒนาชุมชน เดินหน้าขยายหลักสูตรการเงินตังค์โต

ธ.ไทยเครดิตฯ จับมือ กรมการพัฒนาชุมชน เดินหน้าขยายหลักสูตรการเงินตังค์โต

ธ.ไทยเครดิตฯ จับมือ กรมการพัฒนาชุมชน เดินหน้าขยายหลักสูตรการเงินตังค์โต Know-how สู่ผู้นำชุมชน หวังสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

มร. รอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยเครดิตฯ เผยว่า “ในยุคโควิดนี้ หรือแม้กระทั่งในชีวิต   ประจำวัน ความรู้ทางการเงินถือว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการหนี้ และเงินออม สำหรับใช้ยามฉุกเฉิน  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาหลักในหลักสูตรตังค์โต Know-how ที่ได้ถ่ายทอดสู่ผู้นำชุมชน ในรูปแบบ เทรน-เดอะ เทรนเนอร์ โมเดล เพื่อส่งต่อองค์ความรู้สู่ผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชน

ธ.ไทยเครดิตฯ จับมือ กรมการพัฒนาชุมชน เดินหน้าขยายหลักสูตรการเงินตังค์โต

โดยเงินออมในสัดส่วนจำนวนเท่าต่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดของแต่ละสายวิชาชีพ อาจมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความมั่นคงของแต่ละสายงาน เช่น  อาชีพข้าราชการที่มีความมั่นคงในอาชีพสูง ควรมีเงินออมฉุกเฉิน 3 เท่าของค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่หากเป็นมนุษย์เงินเดือน มีความมั่นคงในอาชีพรองลงมา ต้องมีเงินออมฉุกเฉินถึง 6 เท่า ในขณะที่อาชีพอิสระ อย่างพ่อค้าแม่ค้ารวมถึงผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร ฟรีแลนซ์ต่างๆ ควรเตรียมไว้ถึง 12 เท่า  และต้องใส่ใจในการบริหารจัดการหนี้สิน อย่างมีระบบ มีขั้นตอน ทั้งหนี้นอกระบบ และในระบบ โดยพิจารณาจากวงเงินกู้ยืม ระยะเวลา ดอกเบี้ย เป็นต้น รวมถึงการสร้างอาชีพเสริมจากความสามารถพิเศษ จากงานอดิเรก เพื่อเพิ่มรายได้ ทั้งนี้เพื่อการอยู่รอดในภาวะวิกฤตต่างๆ และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”

โดยเงินออมในสัดส่วนจำนวนเท่าต่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดของแต่ละสายวิชาชีพ อาจมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความมั่นคงของแต่ละสายงาน เช่น  อาชีพข้าราชการที่มีความมั่นคงในอาชีพสูง ควรมีเงินออมฉุกเฉิน 3 เท่าของค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่หากเป็นมนุษย์เงินเดือน มีความมั่นคงในอาชีพรองลงมา ต้องมีเงินออมฉุกเฉินถึง 6 เท่า ในขณะที่อาชีพอิสระ อย่างพ่อค้าแม่ค้ารวมถึงผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร ฟรีแลนซ์ต่างๆ ควรเตรียมไว้ถึง 12 เท่า  และต้องใส่ใจในการบริหารจัดการหนี้สิน อย่างมีระบบ มีขั้นตอน ทั้งหนี้นอกระบบ และในระบบ โดยพิจารณาจากวงเงินกู้ยืม ระยะเวลา ดอกเบี้ย เป็นต้น รวมถึงการสร้างอาชีพเสริมจากความสามารถพิเศษ จากงานอดิเรก เพื่อเพิ่มรายได้ ทั้งนี้เพื่อการอยู่รอดในภาวะวิกฤตต่างๆ และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”

 

ด้าน นายทรงพล วิชัยขัทคะ ผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาทุนและองค์กรการเงินชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เผยว่า ทางกรมฯ ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพศูนย์จัดการกองทุนชุมชนต้นแบบด้านการบริหารจัดการหนี้ “สำนึกดี แผนดี บริหารหนี้ได้”  ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน อันเป็นที่ทราบกันดี เรื่องภาวะหนี้สินครัวเรือนของพี่น้องประชาชนนั้นเป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ ทางกรมฯ จึงได้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ความยากจน  ลดความเหลื่อมล้ำ

ธ.ไทยเครดิตฯ จับมือ กรมการพัฒนาชุมชน เดินหน้าขยายหลักสูตรการเงินตังค์โต

 

ผู้บริหารธนาคารไทยเครดิตฯ กล่าวเพิ่มเติมถึงการให้ความร่วมมือในอนาคตกับกรมการพัฒนาชุมชน โดยพร้อมลงพื้นที่นำความรู้ด้านการบริหารการเงินและการบริหารจัดการหนี้สิน สู่ชุมชนทั่วประเทศ ผ่านหลักสูตรตังค์โต Know-how  นอกเหนือจากการเปิดอบรมแบบเฟซบุ๊กไลฟ์ สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยของธนาคาร และผู้สนใจทั่วไป โดยได้ไลฟ์สดทุกวันพุธในสัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน อีกทั้งยังได้ตระเตรียมหลักสูตรการวางแผนการเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน  โดยเริ่มตั้งแต่ วัยเริ่มต้นทำงาน จนกระทั่ง สร้างครอบครัว ถึงวัยเกษียณ โดยจะมีการอบรมผ่านไลฟ์สดทุกสิ้นเดือน ประเดิม 30 กันยายนศกนี้

ธ.ไทยเครดิตฯ จับมือ กรมการพัฒนาชุมชน เดินหน้าขยายหลักสูตรการเงินตังค์โต

“ธนาคารไทยเครดิตฯ เป็นธนาคารแรกที่เห็นความสำคัญของผู้ประกอบการรายย่อย บุคคลตัวเล็กๆ ผู้ซึ่งเป็นฐานรากเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้ปรัชญา  Everyone Matters ใครไม่เห็น เราเห็น  ที่ธนาคารยึดมั่นมาโดยตลอด ที่มุ่งมั่นสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเติบโตทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมให้ลูกค้าทุกคนมีความรู้และวินัยทางการเงิน อันเป็นอาวุธหลักที่จะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยนำไปปรับใช้และเอาตัวรอดในวิกฤตต่างๆ รวมถึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน” มร. รอย กล่าวปิดท้าย

สำหรับผู้ที่สนใจหลักสูตรตังค์โต Know-how สามารถเข้าชมได้ที่เฟซบุ๊ก ตังค์โต Know-how by Thai Credit, เว็บไซต์ www.tcrbank.com หรือโทร.02-6975454

#ตังค์โต #ตังค์โตknowhow #ไทยเครดิต #ThaiCredit #EveryoneMatters #กรมการพัฒนาชุมชน #CDD