โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 แห่งความสำเร็จ “new normal” ไปสู่ “new future”

โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 แห่งความสำเร็จ “new normal” ไปสู่ “new future”

โควิด-19 นับเป็นวิกฤตที่สอนให้เราได้เรียนรู้ ปรับตัว และพัฒนา จนเกิดเป็น ‘New Normal’ หรือความปกติใหม่นั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิต ในหลายวงการสาขาอาชีพ รวมถึงวงการแพทย์

ผศ.นพ.วีรยะ เภาเจริญ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน กล่าวว่า “เราอาจจะต้องอยู่กับ COVID-19 กันไปปีกว่าหรือสองปี เราจึงต้องรักษาสุขภาพให้ดีและแข็งแรง เพื่อรับมือกับการอาศัยในสภาวะที่โรคระบาดนี้ยังคงดำเนินอยู่”

ฉะนั้น การรักษาที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและครอบคลุมทั้งระบบ เชื่อมโยงตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัย ให้คำปรึกษา เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม จนถึงการติดตามผลหลังการรักษา จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และความชำนาญการของแพทย์แต่ละสาขา ทั้งยังจำเป็นต้องมีบุคลากรทางการแพทย์จากหลากหลายสาขาวิชาชีพที่ชำนาญการเฉพาะทาง คอยสนับสนุนการทำงานของแพทย์ในทุกขั้นตอน เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถดำรงชีวิตได้ยาวนานมากขึ้น

ผศ.นพ.วีรยะ กล่าวต่อว่า โควิด-19 นับเป็นวิกฤตที่สอนให้เราได้เรียนรู้ ปรับตัว และพัฒนา จนเกิดเป็น ‘New Normal’ หรือความปกติใหม่นั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตหลายด้าน ในหลายวงการสาขาอาชีพ รวมถึงวงการแพทย์ และ New Normal ที่ว่านี้

โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 แห่งความสำเร็จ “new normal” ไปสู่ “new future”

  1. การแยกพื้นที่บริการเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ สำหรับผู้มาใช้บริการ ภายใต้มาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย
  2. Homecare services เช่น บริการฉีดวัคซีน บริการจัดส่งยา (Drug delivery) เพื่อให้ผู้ป่วย ได้รับบริการอย่างรวดเร็ว ถึงง่าย และปลอดภัยสูงสุด
  3. Virtual Care โทรเวช หรือ Telemedicine โรงพยาบาล เปาโล พหลโยธิน ได้นำ Telemedicine มาใช้เพื่อตอบโจทย์การรักษาพยาบาลผู้ป่วย ถือเป็นการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และปลอดภัยสูง การดูแลรักษาที่มีทั้งผ่านทางออนไลน์อย่างเดียว หรือผสมผสานออนไลน์เข้ากับ offline ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกหรือพฤติกรรมการใช้บริการของผู้รับบริการทุกช่วงอายุ บางท่านสะดวก online บางท่านยังต้องการแบบ offline อยู่ หรือบางท่านก็เป็นแบบผสม เรียกได้ว่าเราสามารถที่จะให้บริการได้หมดทุกวิถีทาง เข้าถึงความต้องการของลูกค้าต้องการทุกกลุ่มอายุ กลุ่มประเภท โดยมีบริการต่างๆ อาทิ บริการเจาะเลือดที่บ้านแล้วสามารถฟังผลออนไลน์ การให้คำปรึกษาทางการแพทย์แบบออนไลน์ การนัดการดูแลติดตามอาการผู้ป่วยเรื้อรัง การดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ เป็นต้น
  4. การจัดสัมมนาออนไลน์ ถ่ายทอดองค์ความรู้และความชำนาญทางการแพทย์ให้กับทีมแพทย์ จะเห็นได้ว่าโรงพยาบาลฯ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดยั้งไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตามโรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน มีการการถ่ายทอดองค์ความรู้ (Knowledge sharing) ต่างๆ ทางด้านประสบการณ์ด้านการแพทย์ เช่น ทันตกรรมดิจิทัล ของ Digital Dental Center ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะ สาขาทันตกรรมรากเทียม โรงพยาบาลฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญขึ้น จัดตั้งสถาบันการเรียนรู้แก่ทันตแพทย์ที่สนใจทั้งภายในและนอกโรงพยาบาล  เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มประสบการณ์ พัฒนาความรู้ความสามารถอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนับว่าเป็นภาพลักษณ์อันดีต่อองค์กร

โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 แห่งความสำเร็จ “new normal” ไปสู่ “new future”

ผศ.นพ.วีรยะ กล่าวต่ออีกว่า โรงพยาบาลฯ ให้บริการทางการแพทย์ครอบคลุมทุกมิติ กว่า 24 สาขา โดยหลักๆ จะเน้นให้บริการกลุ่มโรคหลัก ดังนี้ 1. โรคหัวใจ 2. โรคกระดูกและข้อ 3. ทันตกรรม รากเทียม ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล 4. โรคมะเร็ง 5. โรคระบบประสาทและสมอง 6. การดูแลสุขภาพจิต (Let’s Talk Center) 7. การผ่าตัดแผลเล็ก 8. เทคโนโลยีการรักษาด้วยออกซิเจนบรรยากาศสูง (HBO)

โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 แห่งความสำเร็จ “new normal” ไปสู่ “new future”

นอกจากนี้ โรงพยาบาลฯ ยังมีระบบการบริหารจัดการด้านการแพทย์ด้วยโมเดลธุรกิจแบบ Networking ที่มีระบบเครือข่ายร่วมกันกับโรงพยาบาลในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท 1 และ โรงพยาบาลพญาไท 2 ในด้านการรักษาโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) การรักษาโรคมะเร็ง เป็นต้น โดยมีเจตนาในการส่งมอบคุณภาพการรักษาที่ได้มาตรฐานที่ดีที่สุดแก่ผู้ป่วย เพื่อเสริมพลัง สร้างศักยภาพให้มีการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ในกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ไปจนถึงระดับบน ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยแบ่งเบาภาระแก่โรงพยาบาลภาครัฐ และเกิดผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วยประเทศไทยผ่านหลายวิกฤต เราไม่เคยเป็นผู้แพ้ แต่ตรงกันข้ามเราพยายามสู้เอาตัวรอดมาได้อย่างสวยงามทุกครั้งจนมาถึงการระบาดของโควิด-19 หากมองว่าโควิด-19 เป็นวิกฤต วิกฤตนี้ก็นับเป็นโอกาส ความท้าทายให้กลายเป็นสิ่งที่ต้องทำ การเดินหน้าต่อยอดให้บริการด้านการแพทย์อย่างมุ่หงมั่น ปรับมุมมองให้โรงพยาบาลฯ เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มารับการรักษา ท่ามกลางการแข่งขันที่เกิดขึ้นแบบรอบทิศ การดูแลรักษาพยาบาลที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และน่าประทับใจ ตลอดจนความใส่ใจในรายละเอียดเพื่อมาตรฐานคุณภาพ และความปลอดภัย ซึ่งทั้งหมดเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เราสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี