โครงการ EEC คืออะไร ส่งผลต่อวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างไร

Eastern Economic Corridor หรือโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พัฒนาต่อยอดมาจาก Eastern Seaboard หรือ แผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก
หากพูดถึงโครงการใหญ่ระดับประเทศ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง EEC หรือโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน มีเม็ดเงินการลงทุนสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าการเกิดขึ้นของโครงการระดับนี้ ย่อมส่งผลต่อหลายภาคส่วน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ และสำหรับใครที่อาจสงสัยว่าโครงการ EEC คืออะไร และส่งผลต่อวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างไร บทความนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
ทำความรู้จัก โครงการ EEC
ก่อนจะไปดูว่า EEC ส่งผลต่อวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างไร ขอพาไปทำความรู้จักโครงการยักษ์ใหญ่ระดับประเทศกันก่อน โดย EEC ย่อมาจาก Eastern Economic Corridor หรือ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พัฒนาต่อยอดมาจาก Eastern Seaboard หรือ แผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 เป้าหมายของโครงการเพื่อยกระดับคุณภาพของประเทศทุกภาคส่วนโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรม พร้อมยกระดับความสามารถการแข่งขันด้านการผลิตและบริการ ซึ่งระยะแรกจะเนรมิตพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมด้านการคมนาคมทั้งทางบกและทางน้ำให้กลายเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมหลักในยุคไทยแลนด์ 4.0 และเป็นศูนย์กลางการลงทุนที่ทั่วโลกให้ความสนใจ จนทำให้ปัจจุบันมีบริษัทใหญ่จากหลายประเทศทั้งฝั่งเอเชียและฝั่งยุโรปเตรียมพร้อมลงทุนในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษนี้
แล้ว EEC ส่งผลต่อวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างไรบ้าง ?
- ความต้องการที่อยู่อาศัยของประชากรที่ย้ายถิ่นฐานสู่ภาคตะวันออก
จากเดิมที่คนจำนวนมากนิยมหางานในกรุงเทพฯ แต่ในอนาคตเมื่อเมืองหลวงกลายเป็นพื้นที่แออัดสำหรับการพักอาศัย ไหนจะราคาอสังหาริมทรัพย์ดีดตัวสูงอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้ประชากรมีตัวเลือกในการย้ายถิ่นฐานสู่หัวเมืองภาคตะวันออกที่คาดว่าจะมีอัตราการจ้างงานสูงขึ้นเพราะความเจริญด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม อีกทั้งราคาเฉลี่ยบ้านและที่ดินถูกกว่าในกรุงเทพฯ ทำให้อสังหาริมทรัพย์พื้นที่ภาคตะวันออกเป็นที่ต้องการสำหรับคนไทย ย
- การมองหาบ้านและคอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติ
EEC ทำให้บริษัทจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เป็นผลให้นักลงทุนและพนักงานชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษนี้ต่างมองหาบ้านหรือคอนโดมิเนียมเพื่อพักอาศัยระยะยาว ประกอบกับความเจริญทางเศรษฐกิจและการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว ยิ่งทำให้อสังหาริมทรัพย์พื้นที่นี้คือตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับการพักอาศัย
- การลงทุนอสังหาริมทรัพย์สอดคล้องกับธุรกิจท่องเที่ยวที่เจริญเติบโต
โครงการ EEC ไม่ได้เพิ่มเม็ดเงินจากภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น เพราะยังเพิ่มเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากการคมนาคมที่สะดวกสบาย มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานอู่ตะเภา ประกอบกับการที่ภาคตะวันออกมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทำให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ โดยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นมากถึง 10 ล้านคนต่อปี นั่นจึงทำให้การลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่าทั้งระยะสั้นและระยะยาวรวมถึงการขายต่อ เป็นตัวเลือกน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาทำเลศักยภาพแห่งใหม่
ทั้งหมดนี้คือผลกระทบด้านบวกของโครงการ EEC ต่อวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดการณ์ว่าการเป็นศูนย์กลางการลงทุนระดับโลกของพื้นที่ภาคตะวันออกจะทำให้โครงการอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคัก เพราะได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้นี่กลายเป็นหนึ่งโครงการสำคัญที่น่าจับตามอง และหากคุณกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ใกล้โครงการ EEC หรือในทำเลอื่น ๆ สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มได้ที่ DDproperty.com เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ได้รวบรวมข้อมูลประกาศซื้อ ขาย เช่า ที่น่าสนใจทั้งโครงการใหม่และบ้านมือสองในหลากหลายทำเลครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมเป็นแหล่งรวมความรู้ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการซื้อ-ขาย-เช่า เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการตัดสินใจซื้อให้ผู้ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองสามารถเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด







