CWT ชูบริษัทย่อย “SakunC” เป็นผู้ผลิต EV Bus-Boat

CWT ชูบริษัทย่อย “SakunC” เป็นผู้ผลิต EV Bus-Boat

CWT ชูบริษัทย่อย “SakunC” เป็นผู้ผลิต EV Bus-Boat คุณภาพมาตรฐานสากล ทยอยผลงานต่อเนื่อง

 

บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT เผยข่าวดีต่อเนื่อง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งบริษัทย่อย “บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด” หรือ SakunC ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกับ 3 หน่วยงานราชการและเอกชนได้แก่ 1.กรมเจ้าท่า 2. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ 3. บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ในการร่วมมือด้านการพัฒนาการออกแบบ การผลิต และมาตรฐานสำหรับเรือไฟฟ้า ระบบอัดประจุ แบตเตอรี่และชิ้นส่วนที่เกี่ยวเนื่อง ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ซึ่งบริษัทคาดว่าจะพัฒนาเป็นเรือไฟฟ้า (EV Ferry) ได้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2563 โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัท และจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทฯ ในอนาคต

 

ปัจจุบัน CWT ผู้ประกอบการด้านผลิตและขายธุรกิจเบาะนั่งสำหรับยานยนต์,ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจออกแบบและจัดจำหน่ายเรือและรถโดยสารขนาดเล็กที่ผลิตด้วยอลูมิเนียม ซึ่งเป็นการลงทุนในบริษัทย่อย “SakunC” ภายใต้การร่วมบริหารและวางแผนพัฒนากับกลุ่ม “โชคนำชัย” ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและพัฒนาตัวถังรถ-เรือจากอลูมิเนียม ทำให้“สกุลฎ์ซี” เป็นหนึ่งในผู้ผลิตสัญชาติไทย ที่ได้รับความไว้วางใจผลิต EV Bus - EV Boat คุณภาพมาตรฐานสากลให้กับลูกค้ามากมาย

 

ด้านนายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ เผยว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับกลุ่มบริษัทฯที่ได้เข้าร่วมศึกษาพัฒนาโครงการเพื่อช่วยพัฒนาให้ประเทศมีระบบการคมนาคมที่ดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผลงานของ “SakunC” ที่ผ่านมามีความโดดเด่น เราได้รับการสนับสนุนให้ศึกษาและพัฒนาทำ  EV Bus ต้นแบบเพื่อส่งมอบให้กับ ขสมก. โดยได้ทุนจาก สวทช.อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่ใช่งานแรกและงานเดียวที่ SakunC ได้ทำ แต่ยังมีงานดีๆอีกหลายโครงการที่กำลังพัฒนาและจะทยอยนำออกสู่ตลาดยานยนต์ในอนาคตอันใกล้ โดยในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายของ SakunC ไว้ที่ 600 ล้านบาท นอกจากนี้ทางบริษัท CWT ยังลองศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจใหม่ๆที่จะมาช่วยเสริมให้ธุรกิจด้านพลังงานของเราครบวงจรมากขึ้น เพื่อหนุนให้รายได้โดยรวมของบริษัทโตขึ้นในทุกๆปี และด้านผลิตและขายธุรกิจเบาะนั่งสำหรับยานยนต์นั้น บริษัทจะกลับมาเริ่มดำเนินการได้เต็มที่ช่วงเดือนตุลาคมและคาดว่าผลประกอบการจะกลับมาเป็นปกติได้ในไตรมาส 4/2563 ตามทิศทางของตล