เที่ยวเมืองรองถึงสิ้นปีได้ลดหย่อนภาษี

นักท่องเที่ยวสามารถ นำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากค่าที่พักและเดินทางท่องเที่ยวตามจริงไม่เกิน 15,000 บาท นำไปลดหย่อนภาษีได้
หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เกี่ยวกับมาตรการภาษี เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และการจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรอง 55 จังหวัด เมื่อเดือนธันวาคม 2560 ที่ผ่านมาแล้วนั้น ในช่วงกลางปี 2561 นี้ได้มีการประกาศขยายพื้นที่จาก 55 จังหวัด โดยเพิ่มพื้นที่ อีก 167 อำเภอในเมืองหลักกินพื้นที่ 15 จังหวัด
มาตรการดังกล่าว ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการกระตุ้น การเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งจะมีผลไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 โดยนักท่องเที่ยวสามารถ นำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากค่าที่พักและเดินทางท่องเที่ยวตามจริงไม่เกิน 15,000 บาท นำไปลดหย่อนภาษีได้
มาตรการนี้คือการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีมี 2 ส่วน ส่วนแรก นักท่องเที่ยวไทยที่เป็นบุคคลธรรมดา สามารถนำค่าใช้จ่ายที่พักในจังหวัดท่องเที่ยวรอง ในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม โฮมสเตย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ค่าบริการนำเที่ยว โดยผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สำหรับการเดินทาง นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งนี้ไม่รวมค่าอาหาร โดยสามารถนำใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบหรือใบเสร็จรับเงินมาใช้เป็นหลักฐาน
ส่วนที่สอง สำหรับบริษัทห้างร้านหรือนิติบุคคล สามารถนำมาหักค่าใช้จ่ายห้องสัมมนา ห้องพัก ขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนา รวมไปถึงค่าบริการนำเที่ยว โดยผู้ประกอบธุรกิจนําเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนา มาใช้หักรายจ่ายได้ 2 เท่า โดยมาตรการนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2561
จากมาตรการดังกล่าว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มั่นใจว่า จำนวนท่องเที่ยวที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ จะมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 167 ล้านคนครั้ง เติบโต 4% จากปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ถือว่ามากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 160 ล้านคนครั้ง ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านล้านบาท ขยายตัว 8% จากปีที่แล้ว
“การท่องเที่ยวภายในประเทศยังไปได้สวย อย่างไรก็ตาม ททท.จะเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในเมืองรองในช่วงวันธรรมดา ตั้งแต่จันทร์ถุงศุกร์,” นายยุทธศักดิ์ และว่า
กลุ่มนักท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางท่องเที่ยว ในช่วงวันธรรมดามีหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มนักท่องเที่ยวผู้สูอายุ กลุ่มนักท่องเที่ยวเยาวชนหรือนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย รวมทั้งกลุ่มผู้หญิง เนื่องจากไม่ค่อยมีข้อจำกัดด้านเวลาเดินทางมากนัก
นายยุทธศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกกลุ่มหนึ่งที่มีแนมโน้มดีคือ กลุ่มองค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งททท.ได้ทำความร่วมมือกับบริษัทมหาชนเหล่านี้แล้ว ซึ่งบริษัทต่างๆจะวางแผนการเดินทาง เพื่อการประชุม อบรม สัมมนา เข้าสู่เมืองรองในช่วงวันธรรมดา ซึ่งจะเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ผู้ประกอบการในระดับชุมชนต่อไป
สำหรับ 55 จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง ประกอบด้วย ภาคเหนือ 16 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สุโขทัย ลำพูน อุตรดิตถ์ ลำปาง แม่ฮ่องสอน พิจิตร แพร่ น่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี พะเยา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี อุบลราชธานี หนองคาย เลย มุกดาหาร บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด มหาสารคาม บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ยโสธร หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ
ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก 12 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สุพรรณบุรี นครนายก สระแก้ว ตราด จันทบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม ปราจีนบุรี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี และ ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล ชุมพร ระนอง นราธิวาส ยะลา ปัตตานี
ส่วนพื้นที่เพิ่มเติม จากจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง ประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ อำเภอเขาพนม อำเภอปลายพระยา อำเภอลำทับ, จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอท่าม่วง อำเภอท่ามะกา อำเภอบ่อพลอย อำเภอพนมทวน อำเภอเลาขวัญ อำเภอหนองปรือ อำเภอห้วยกระเจา, จังหวัดขอนแก่น อำเภอกระนวน อำเภอเขาสวนกวาง อำเภอโคกโพธิ์ไชย อำเภอชนบท อำเภอชุมแพ อำเภอซำสูง อำเภอน้ำพอง อำเภอโนนศิลา อำเภอบ้านไผ่ อำเภอบ้านฝาง อำเภอบ้านแฮด อำเภอเปือยน้อย อำเภอพระยืน อำเภอพล อำเภอภูผาม่าน อำเภอภูเวียง อำเภอมัญจาคีรี อำเภอเวียงเก่า อำเภอแวงน้อย อำเภอแวงใหญ่ อำเภอสีชมพู อำเภอหนองนาคำ อำเภอหนองเรือ อำเภอหนองสองห้อง อำเภออุบลรัตน์
จังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอคลองเขื่อน อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว อำเภอแปลงยาว อำเภอราชสาส์น อำเภอสนามชัยเขต, จังหวัดชลบุรี อำเภอเกาะจันทร์ อำเภอบ่อทอง อำเภอบ้านบึง อำเภอพนัสนิคมอำเภอพานทอง อำเภอหนองใหญ่, จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอกัลยาณิวัฒนา อำเภอไชยปราการ อำเภอดอยเต่า อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอดอยหล่อ อำเภอพร้าว อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่แตง อำเภอแม่วาง อำเภอแม่อาย อำเภอเวียงแหง อำเภอสะเมิง อำเภอสันทราย อำเภอสันป่าตอง อำเภอสารภี อำเภออมก๋อย อำเภอฮอด
จังหวัดนครราชสีมา อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอขามทะเลสอ อำเภอขามสะแกแสง อำเภอคงอำเภอครบุรี อำเภอจักราช อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอชุมพวง อำเภอโชคชัย อำเภอด่านขุนทด อำเภอเทพารักษ์ อำเภอโนนแดง อำเภอโนนไทย อำเภอโนนสูง อำเภอบัวลาย อำเภอบัวใหญ่ อำเภอบ้านเหลื่อม อำเภอประทาย อำเภอปักธงชัย อำเภอพระทองคา อำเภอพิมาย อำเภอเมืองยาง อำเภอำทะเมนชัย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอสีคิ้ว อำเภอสีดา อำเภอสูงเนิน อำเภอเสิงสาง อำเภอหนองบุญมาก อำเภอห้วยแถลง
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ อำเภอกุยบุรี อำเภอทับสะแก อำเภอบางสะพาน อำเภอบางสะพานน้อย, จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง อำเภอบางซ้าย อำเภอบางบาล อำเภอบางปะหัน อำเภอบ้านแพรก อำเภอผักไห่ อำเภอภาชี อำเภอมหาราช อำเภอลาดบัวหลวง อำเภอวังน้อย อำเภอเสนา อำเภออุทัย, จังหวัดพังงา อำเภอเมืองพังงา อำเภอกะปง อำเภอคุระบุรี อำเภอทับปุด อำเภอท้ายเหมือง อำเภอเกาะยาว อำเภอตะกั่วทุ่ง, จังหวัดเพชรบุรี อำเภอบ้านลาด อำเภอหนองหญ้าปล้อง, จังหวัดระยอง อำเภอเขาชะเมา อำเภอนิคมพัฒนา อำเภอบ้านค่าย อำเภอบ้านฉาง อำเภอปลวกแดง อำเภอวังจันทร์
จังหวัดสงขลา อำเภอเมืองสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอคลองหอยโข่ง อำเภอ ควนเนียง อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี อำเภอนาหม่อม อำเภอบางกล่ำ อำเภอระโนด อำเภอรัตภูมิ อำเภอสทิงพระ อำเภอสะเดา อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอสิงหนคร, จังหวัดสระบุรี อำเภอแก่งคอย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอดอนพุด อำเภอบ้านหมออำเภอวังม่วง อำเภอวิหารแดง อำเภอหนองแค อำเภอหนองแซง อำเภอหนองโดน และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอคีรีรัฐนิคม อำเภอเคียนซา อำเภอชัยบุรี อำเภอไชยา อำเภอดอนสัก อำเภอท่าฉาง อำเภอท่าชนะ อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอบ้านนาสาร อำเภอพระแสง อำเภอพุนพิน อำเภอวิภาวดี อำเภอเวียงสระ







