บ้านปาร์คนายเลิศ

เรือนรับรองที่พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) ได้วาดแบบและให้สร้างขึ้นอยู่อาศัยถาวรของนายเลิศและครอบครัวเพื่อการอนุรักษ์และระลึกถึง
บ้านปาร์คนายเลิศ เป็นเรือนรับรองที่พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) ได้วาดแบบและให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘ ต่อมาได้ปรับปรุงเป็นเรือนอยู่อาศัยถาวรของนายเลิศและครอบครัว ก่อนจะตกทอดมาสู่ ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ บุตรสาวคนเดียว ซึ่งสมรสกับคุณพินิจ สมบัติศิริ และได้ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้มาโดยตลอด
บ้านปาร์คนายเลิศ มิได้เป็นเพียงชื่อเรือนไม้สักหลังใหญ่อายุกว่า ๑๐๐ ปีบนผืนดินอันร่มรื่นใจกลางกรุงเทพฯ แต่ บ้านปาร์คนายเลิศ ยังหมายถึงวิถีการใช้ชีวิตและวิธีคิดที่ผสมผสานทั้งเก่าและใหม่ จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ในการดำเนินชีวิตร่วมสมัย ซึ่งได้สืบทอดมาสู่ทายาทรุ่นหลานและเหลนของนายเลิศในปัจจุบัน
ในโอกาสครบรอบหนึ่งศตวรรษ บ้านปาร์คนายเลิศได้รับการบูรณะปรับปรุงให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์เหมือนเมื่อแรกสร้าง และได้เปิดเป็น บ้านที่อนุรักษ์เป็นมรดกตกทอด (Heritage Home) เพื่อการระลึกถึง และถ่ายทอดวิถีแห่งนายเลิศผู้ไม่เหมือนใคร
ชมวีดีโอ เรื่องราวของบ้านปาร์คนายเลิศ ได้ที่ https://youtu.be/ZtKi7r06bxk
บ้านปาร์คนายเลิศ เปิดให้เข้าชม ทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์
วันละ ๓ รอบ เวลา ๑๑.๐๐น . ๑๔.๐๐ น. และ ๑๖.๐๐ น.
กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าชมเป็นหมู่คณะ และการจัดงาน
โทร. ๐๒ ๒๕๓ ๐๑๒๓ แฟ็กซ์ ๐๒ ๒๕๓ ๖๔๗๔ e mail [email protected]
Website: www.nailertparkheritagehome.com
Facebook: @nailertparkheritagehome
Instagram: nailertpark_heritagehome
ปาร์คนายเลิศ
“ปาร์ค" หรือสวนสาธารณะแบบตะวันตก
ชื่อเรียกสวนของนายเลิศที่มีต้นไม้ใหญ่ เป็นสวนสาธารณะให้คนทั่วไปเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ โดยไม่เก็บค่าเข้าชม รวมถึงเป็นสถานที่จัดกิจกรรมกลางแจ้ง และพักแรมของลูกเสือในสมัยรัชกาลที่ ๖ อีกทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนของครอบครัวนายเลิศ วันนี้ชื่อของ "ปาร์คนายเลิศ" ยังคงถูกจดจำไว้ในฐานะพื้นที่สีเขียวท่ามกลางหมู่ตึกสมัยใหม่ใจกลางย่านธุรกิจมูลค่ามหาศาล ซึ่งได้รับการดูแลรักษาอย่างดีโดยทายาทของนายเลิศ
"นายเลิศ"
พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร)
๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๑๕- ๑๕ ธันวาคม ๒๔๘๘
พ.ศ. ๒๔๖๘ นายเลิศได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยาภักดีนรเศรษฐ ซึ่งแปลว่า "เศรษฐีผู้มีคนรัก" นายเลิศเป็นที่จดจำในฐานะนักธุรกิจผู้มีความคิดก้าวล้ำนำสมัยไม่เหมือนใคร เป็นผู้ริเริ่มบุกเบิกธุรกิจใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนในสังคมไทย เช่น สร้างโรงน้ำแข็ง สร้างอาคารพาณิชย์สูงที่สุดแห่งแรกของกรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๐ นำเข้ารถยนต์จากยุโรปและอเมริกา ริเริ่มกิจการรถโดยสารประจำทางสายแรกของกรุงเทพฯ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพลังความคิดสร้างสรรค์ของนายเลิศ
หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ นายเลิศได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ทิ้งอาณาจักรธุรกิจไว้ให้ภรรยาผู้เป็นที่รัก คือคุณหญิงสิน สกุลเดิมเตวิทย์ และบุตรีผู้เป็นทายาทเพียงคนเดียว คือท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ หลักการดำเนินชีวิตของนายเลิศได้ส่งผ่านทายาทจากรุ่นสู่รุ่น ดังปรากฏในตราสัญลักษณ์ของนายเลิศ อันหมายถึงพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ซึ่งยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน







