โตโยต้าส่ง ‘Mirai’ มาไทย อวดโฉมยนตรกรรมแห่งอนาคต

‘MIRAI’ รถยนต์ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนมาจัดแสดงในงานการประชุมและนิทรรศการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2559
โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ส่งสุดยอดยนตรกรรมแห่งอนาคต ‘MIRAI’ รถยนต์ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell Vehicle) มาจัดแสดงในงานการประชุมและนิทรรศการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2559 หรือ SETA2016 ที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคมนี้
ในงานนี้ ผู้เข้าร่วมงานชาวไทยและชาวต่างชาติ จะได้มีโอกาสสัมผัสรถยนต์พลังงานใช้เชื้อเพลิงทดแทน ที่โตโยต้าได้พัฒนามาตลอดระยะกว่า 20ปี และประสบผลสำเร็จจนสามารถผลิตออกจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในญี่ปุ่นแล้ว‘MIRAI’ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “อนาคต” สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดรถยนต์สำหรับคนรุ่นต่อไปที่ต้องเป็นยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน โดยMIRAI ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีของไฮโดรเจน และที่สำคัญMIRAI ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แต่ปล่อยน้ำออกมาเท่านั้น
พลังงานไฮโดรเจน คือแหล่งพลังงานทางเลือกประเภทหนึ่ง ซึ่งมีอยู่อย่างมากมายในหลายรูปแบบ แต่ที่พบมากคือในรูปของน้ำและเชื้อเพลิงจากซากดึกดำบรรพ์ ที่สำคัญ ถือเป็น “ตัวช่วย” สำหรับสังคมคาร์บอนต่ำ เพราะไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เหมือนเครื่องยนต์ระบบเผาไหม้นอกจากนั้น ความหนาแน่นของพลังงานไฮโดรเจนจะสูงกว่าแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าและมีความความสะดวกในการเก็บรักษาและการขนส่ง
นอกจากจะมีรถ MIRAI ตัวจริงเสียงจริงมาอวดโฉมแล้ว ในงาน SETA 2016 นี้แล้วนายโยชิคาซุ ทานากะหัวหน้าวิศวกรในโครงการพัฒนายานยนต์เพื่ออนาคตของโตโยต้า จะมาบรรยายถึงยุทธศาสตร์การพัฒนายานยนต์ในรุ่นต่อไปของโตโยต้า และแน่นอนว่าผู้เข้าร่วมงานจะได้รับฟังความเป็นมาของแนวคิดการพัฒนารถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน MIRAIด้วย
“MIRAI ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด ‘ผู้บุกเบิกไฮโดรเจนแห่งศตวรรษหน้า’เพื่อให้เป็นยนตรกรรมผู้นำในสังคมพลังงานไฮโดรเจนในอีกร้อยปีข้างหน้า รถยนต์นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างนิยามใหม่ให้คุณค่าแห่งยานพาหนะ” นายทานากะกล่าว
สำหรับ MIRAI นอกจากจะมีเสถียรภาพแห่งการควบคุมขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายแล้ว รถรุ่นนี้ยังสามารถขับได้ในระยะทางไกล และใช้เวลาในการเติมพลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเพียงประมาณสามนาทีเท่านั้น นอกจากนั้น ยังมีระบบการทำงานที่สามารถสำรองที่พลังงานภายนอก นอกเหนือจากการขับเคลื่อนโดยพลังงานที่ได้จากเซลล์เชื้อเพลิง และระบบที่สามารถเก็บสำรองพลังงานไว้ได้ยาวนานหลายเท่ากว่ายานยนต์ไฟฟ้าทั่วๆไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ
“ความสำเร็จแห่งการพัฒนายานยนต์สายพันธ์ใหม่และการสร้างสรรค์สังคมพลังงานไฮโดรเจนนั้น เราต้องการให้มีบริษัทผู้ผลิตยานยนต์เข้าสู่ธุรกิจพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงให้มากขึ้น ดังนั้น โตโยต้าจึงออกมาตรการพิเศษ โดยประกาศให้สามารถใช้เทคโนโลยียานยนต์เซลล์เชื้อเพลิง5680 ภายใต้สิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องของโตโยต้าได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และด้วยต้นทุนระบบเซลล์เชื้อเพลิงที่ลดลงและประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น การพัฒนาเพื่อสร้างยานยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงที่ดีกว่าเดิมย่อมเกิดขึ้นได้” นายทานากะกล่าว




