การเคหะฯ ลงนามในสัญญาให้บริการสมาชิกเครดิตบูโร

 

การเคหะแห่งชาติร่วมกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด จัดพิธีลงนามในสัญญาให้บริการสมาชิกเครดิตบูโร โดยมี นางสาวอุบลวรรณ สืบยุบล รองผู้ว่าการ รักษาการแทนผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และ นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ร่วมลงนามในสัญญา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของการเคหะแห่งชาติได้รับทราบผลอนุมัติสินเชื่ออย่างรวดเร็ว เมื่อเร็วๆ นี้ ณ สำนักงานใหญ่      การเคหะแห่งชาติ

นางสาวอุบลวรรณ สืบยุบล รองผู้ว่าการ รักษาการแทนผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติมีภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย พร้อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งด้าน กายภาพ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันได้พัฒนาที่อยู่อาศัยทั่วประเทศกว่า 700,000 หน่วย จากภารกิจดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่การเคหะแห่งชาติจะต้องทำงานให้รวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากที่สุด

โดยเฉพาะการพิจารณาให้สินเชื่อ เช่าซื้อที่อยู่อาศัย การเคหะแห่งชาติจึงได้สมัครเข้าเป็นสมาชิก บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เพื่อจัดส่งข้อมูล ผู้เช่าซื้อโครงการเคหะชุมชนและโครงการบ้านเอื้ออาทรประมาณ 31,000 ราย ให้กับบริษัทฯ ดำเนินการจัดเก็บรักษา ประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับประวัติเงินกู้ ประวัติการชำระและการค้างชำระ เพื่อให้สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์หรืออนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าต่อไป

 “การพัฒนาการให้บริการด้านการเงินในครั้งนี้ การเคหะแห่งชาติหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ดี โดยลูกค้าของการเคหะแห่งชาติจะสามารถทราบผลการอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และยังเป็นการสร้างวินัยทางการเงินให้กับลูกค้าอีกทางหนึ่งด้วย” นางสาวอุบลวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติได้เข้ามาเป็นสมาชิกเครดิตบูโรรายล่าสุด และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ฐานข้อมูลเครดิตบูโรมีข้อมูล ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยครบถ้วนสมบูรณ์ตามจริง อันเป็นประโยชน์ต่อระบบสถาบันการเงินโดยรวม การเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโรในครั้งนี้จะเป็นการยกระดับการบริหารความเสี่ยงของการเคหะแห่งชาติให้มีความเข้มแข็งและ มีความมั่นคงในระบบการเงินไทย ตลอดจนสามารถเสริมสร้างกลไกตลาดในการเข้าถึงเงินกู้ของรายย่อย และสร้างคุณภาพหนี้ที่ดีตามนโยบายภาครัฐ