"นายกฯ" นำ "ผบ.เหล่าทัพ" ร่วมพิธีวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ครบ 135 ปี

"นายกฯ" นำ "ผบ.เหล่าทัพ" ร่วมพิธีวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ครบ 135 ปี

"นายกฯ" นำ "ผบ.เหล่าทัพ" ร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนา "กระทรวงกลาโหม" ครบ 135 ปี งดจ้อสื่อ รีบบึ่งไปนั่งหัวโต๊ะ ถก "ศบค.ชุดใหญ่" ต่อทันที

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ครบ 135 ปี โดยมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง โดยเริ่มจากพิธีถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในศาลาว่าการกลาโหม ทั้งเจ้าพ่อหอกลอง พระบวรฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระรูปจอมพลสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ฯ รูปหล่อจอมพลและมหาอำมาตย์เอกเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม-แสง-ชูโต) จากนั้นเป็นพิธีสงฆ์

หลังเสร็จพิธีต่างๆ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ร่วมรับประทานอาหารกับ ผบ.เหล่าทัพ และไม่ได้ทักทายสื่อมวลชน เนื่องจากมีภารกิจประชุม ศบค. ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อ

\"นายกฯ\" นำ \"ผบ.เหล่าทัพ\" ร่วมพิธีวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ครบ 135 ปี

สำหรับวันที่ 8 เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ถือกำเนิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณ และพระปรีชาญาณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และในปี2565 นี้ นับเป็นเวลา 135 ปี ที่เหล่าข้าราชการกระทรวงกลาโหมได้ยืนหยัดเพื่อพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติและรักษาความสงบสุขของประชาชน​ ​

นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน กระทรวงกลาโหมได้มีการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างกองทัพ ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคาม และภัยพิบัติได้ในทุกรูปแบบ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยพัฒนาขีดความสามารถด้านไซเบอร์และอวกาศ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการพัฒนาระบบงานของกระทรวงกลาโหม เพื่อบริหารจัดการด้านความมั่นคง ตลอดจนการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการวิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และความสงบสุขของบ้านเมืองมาอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังได้ดำเนินกิจกรรมโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาดำเนินการร่วมกับส่วนราชการ ภาคเอกชนและประชาชนใน          ทุกภาคส่วน เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและร่วมพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น