ย้อนวีรกรรม “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” ปะฉะดะ รัฐมนตรีว่าการ 3 พรรค

ย้อนวีรกรรม “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” ปะฉะดะ รัฐมนตรีว่าการ 3 พรรค

นับแต่รับตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” แห่งพรรคภูมิใจไทย ก็มีวีรกรรมทำเพื่อจุดยืนพรรค จนตกเป็นข่าวเปิดศึก งัดข้อกับรัฐมนตรีว่าการ พรรคร่วมรัฐบาล 3 ราย

เป็นรัฐมนตรีหญิงสายแข็ง ที่เป็นข่าวกล้าท้าชน กับรัฐมนตรีต่างพรรคอย่างไม่เกรงศักดิ์ศรี 

นับแต่รับตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” แห่งพรรคภูมิใจไทย ก็ตกเป็นข่าว งัดข้อกับรัฐมนตรีต่างพรรค รวมกรณีล่าสุด 3 ราย

กลางที่ประชุม ครม.เมื่อ 5 เม.ย.2565 ประเด็นขยะพลาสติก ที่โบ้ยหน้าที่กันผิดกระทรวง ทำให้เกิดวิวาทะระหว่างรัฐมนตรี 2 กระทรวง

ระหว่างการพิจารณาวาระเรื่องการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่จะสิ้นสุดในเดือน ธ.ค. 2564 เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการหันมาใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ และช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ย่อยสลายไม่ได้ กลายเป็นประเด็นโต้ตอบกันระหว่าง มนัญญา รมช.เกษตรและสหกรณ์ พรรคภูมิใจไทย กับ "วราวุธ ศิลปอาชา" รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พรรคชาติไทยพัฒนา

เมื่อ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” แสดงความเห็นในทำนองว่า “ร้านค้าไม่ให้ถุงพลาสติกกับประชาชนที่มาซื้อของ แต่กลับเอามาขาย ซึ่งเป็นการเอาเปรียบประชาชน ขอฝากไปถึงรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยว่า จะช่วยแก้ปัญหาอย่างไร” ทำให้ “วราวุธ ศิลปอาชา” พูดสวนทันทีว่า “ไม่เกี่ยวกับกระทรวง เพราะดูแค่นโยบายลดการใช้พลาสติก ส่วนการขายเป็นเรื่องของร้านค้า ขออย่าพูดพาดพิง อย่าพูดเพื่อเอามัน” ทำให้ มนัญญา ตอบโต้กลับว่า “การพูดแบบนี้ไม่รับผิดชอบ”

ทั้งคู่ ยังเปิดไมค์ตอบโต้กันไปมาหลายครั้ง จนนายกฯ ประยุทธ์ ถึงกับต้องเบรกว่า “พอแล้ว ไปเถียงกันข้างนอก นี่ขนาดผมนั่งอยู่ตรงนี้นะเนี่ย” จึงทำให้ทั้งคู่หยุดโต้เถียงกัน จากนั้น มนัญญาได้ลุกออกจากห้องประชุมทันทีทั้งที่ยังประชุมไม่จบ

กระทั่ง “มนัญญา” ได้โพสต์เฟซบุ๊กหลังประชุม ครม.ว่า “ไม่ได้ติดใจอะไร หญิงชายเท่าเทียมกันอยู่แล้วค่ะ” พร้อมกับระบุอีกว่า “วันนี้ประชุม ครม.มีคำถามที่ถามในมติ ครม. ถามกลับผู้ชายคนหนึ่ง ตอบกลับมาใช้คำว่า ‘เอามัน’ ถามกลับไปว่า ‘เอามัน’ หมายถึงอะไร ตอบกลับมาว่า ‘ก็เอามันคนที่ถาม’ ไม่ได้ติดใจคำนี้ แต่งงมาก เกิดมาไม่เคยได้ยิน ช่วยหาคำตอบให้หน่อยค่ะ …”

แม้ต่อมา วราวุธ ได้พยายามติดต่อเพื่อขอโทษ ด้วยเหตุผลที่อาวุโสน้อยกว่า “กำลังจะตามไปขอโทษ เพราะไม่ควรไปต่อปากต่อคำ เป็นสิ่งไม่ดี ผมอาวุโสน้อยกว่าจึงต้องติดต่อไปขอโทษ และต้องขออภัยด้วยหากตอบอะไรไปแล้วทำให้ระคายเคืองใจ ควรต้องให้เกียรติผู้ใหญ่ ที่ทำไปเป็นสิ่งไม่ดี ยอมรับว่า ในขณะที่มีการโต้ตอบมีอารมณ์หงุดหงิดกัน อาจวุ่นวายไปเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไร”

แต่เมื่อติดต่อไม่ได้ จึงอ้อมไปที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรค พี่ชายมนัญญา สายตรงเคลียร์ใจ เพื่อขออภัยที่ล่วงเกินต่อเรื่องที่เกิดขึ้น

ในที่สุด เช้าวันที่ 6 เม.ย.2565 วันทำบุญวันครบรอบก่อตั้ง เข้าสู่ปีที่ 14 ปีพรรคภูมิใจไทย "อนุทิน" หัวหน้าพรรค ได้ต่อสายให้ทั้งคู่เคลียร์ใจกันต่อหน้าสื่อ ก่อนจะสรุปว่า "ขอยืนยันว่าเคลียร์หมดแล้วทั้งวราวุธ และมนัญญา "ทุกอย่างจบ แหม่มก็จบ ท็อปก็จบ หนูก็จบ ทุกอย่างก็จบ รัฐบาลก็ทำงานต่อไป" ขณะที่ "มนัญญา"บอกหลังวางสายว่า "วราวุธ ได้บอกว่า ขอโทษครับ  รักพี่แหม่ม เหมือนพี่สาว”

ย้อนวีรกรรม “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” ปะฉะดะ รัฐมนตรีว่าการ 3 พรรค

ย้อนวีรกรรม “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” ปะฉะดะ รัฐมนตรีว่าการ 3 พรรค

* เปิดศึกแบน 3 สารเคมี “สุริยะ”

ย้อนไปเมื่อปลายปี 2562 มนัญญาก็เคยเปิดศึกกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐอย่าง “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.อุตสาหกรรม ประเด็นแบนสารเคมีเกษตรอันตราย ขณะที่ สุริยะ นั่งเก้าอี้ ประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพื่อพิจารณา เรื่องการยืดเวลาแบน 2 สารคือ พาราควอต และคลอร์ไพริฟอสไปอีก 6 เดือน โดยให้มีผลวันที่ 1 มิ.ย.2563 และยกเลิกแบน ไกลโฟเซต กลับมาใช้มาตรการจำกัดการใช้

ครั้งนั้น มนัญญาออกมาระบุว่า "ข้องใจดุลพินิจของสุริยะ และกระบวนการที่ไม่มีการลงมติของบอร์ด ดังนั้นจะเป็นมติที่บังคับใช้ได้หรือไม่..." เธอระบุว่า "คนที่ต้องตอบสังคมคือ นายสุริยะ” และยืนยันว่า “จะไม่วางมือจากเรื่องนี้ จะเดินหน้าต่อไป”

งานนี้ พี่ชายอย่าง ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ก็ออกมาร่วมด้วยช่วยน้องสาว “คุณสุริยะ จึงต้องเป็นคนรับผิดชอบ จะเกิดอะไรขึ้นก็ตามในประเทศนี้ เป็นเรื่องของคุณสุริยะ เพราะทุกวันนี้ประชุมครม.ก็ต้องใส่แว่นดำไม่กล้าสบตาใคร” ชาดา ระบุ พร้อมกับบอกว่า

 จากนี้ไปจะไม่ให้ น้องสาวแถลงอะไรอีกแล้ว เพราะเสร็จหน้าที่แล้ว ไม่อยากให้ทะเลาะกัน และในส่วนของพรรคภูมิใจไทย จะให้มนัญญา คืนกรมวิชาการเกษตรกลับไปยัง รมว.เกษตรและสหกรณ์ (เฉลิมชัย ศรีอ่อน) จะเอาไปให้ใครดูแลก็ตามใจ เพราะเราได้พยายามเต็มที่แล้ว ส่วนเรื่องนี้จะขัดต่อมติของคณะรัฐมนตรีหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี หรือนายสุริยะเอาเอง

* งัดข้อ "เฉลิมชัย" รมว.เกษตรฯจาก ปชป.

ถัดมา กลางปี 2563 ประเด็นเรื่องแบนสารเคมีก็ไม่จบ ศึกเรื่องนี้ปะทุขึ้นมาอีกรอบ แต่เป็นในกระทรวงเกษตรฯ เอง ระหว่าง รมช.มนัญญา กับ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ที่ถือเป็นการประจัญหน้ากับ รมว.เกษตรฯ โดยตรง

เมื่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มีท่าทีสนับสนุนให้ทบทวนการแบนสารพิษ โดยรับข้อร้องเรียนจาก สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย และทำหนังสือยกเลิกการแบนพาราควอต ถึงบอร์ดวัตถุอันตราย หลังอ้างว่าไม่พบสารเคมีดังกล่าวตกค้างในสินค้าภายในประเทศ และเกษตรกรส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วย

ทันทีที่เรื่องถึงหู รมช. มนัญญา ที่เปิดศึกเรียกร้องให้แบนสารพิษมาตั้งแต่ต้น ตามจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย เจ้าตัวก็โพสต์เฟสบุ๊คทันทีว่า “คุณไม่หยุด ฉันก็ไม่หยุด !!! ตราบใดที่ยังเห็นผู้บริโภคมีอันตรายอยู่ เราก็ไม่หยุด จะเอาสารพิษอันตรายกลับมาเพื่ออะไรคะ” พร้อมแนบลิงก์เพลง “ยุบเถอะ เลิกเถอะ” ซึ่งเป็นมิวสิค วีดีโอต้านสารพิษของ “แอ๊ด คาราบาว” 

ทั้งยังมีข้อความที่ มนัญญา ตอบกลับความเห็นด้วยตนเอง ถึงข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่สุริยะเป็นประธาน เพราะมีปัญหาเรื่องตัวบุคคลที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ดังนั้นควรแก้ไขการคัดกรองบุคคลเข้าเป็นกรรมการโดยสนับสนุนว่า “ ดีค่ะ ขอบคุณค่ะ”

แม้เรื่องการทำงานอย่างแข็งขัน และมีจุดยืนชัดเจน กล้าปะทะเพราะเป็นเรื่องงาน แต่ก็ขยายวงไปยังการเมืองเรื่องพรรค ซึ่ง “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็โดดมาเล่นเอง โดยได้นำผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข แถลงจุดยืนปกป้องสุขภาพประชาชน พร้อมรณรงค์ขัดขวางกระทรวงเกษตรฯ ที่จะปลุกผีสารพิษดังกล่าวผ่านบอร์ดวัตถุอันตราย อย่างถึงที่สุด

จะว่าไปแล้ว มหากาพย์เรื่องการแบนสารพิษเกษตรฯ ที่ต่อสู้กันมาอย่างยืดเยื้อ ยาวนาน ก็เพราะข้อกังขาเรื่องผลประโยชน์ จากความพยายามล็อบบี้ของเครือข่ายทุนสารเคมีข้ามชาติ ผู้ผลิตและจำหน่ายสารเคมีเหล่านี้ 

การเข้ามาขวางเรื่องนี้ ก็สร้างชื่อ “มนัญญา”ให้โดดเด่นเป็นที่จดจำ กระทั่งได้ฉายา “มาดามแบนเก้อ” จากสื่อทำเนียบฯ ปี 2562 โดยมีคำอธิบายว่า “ด้วยบุคลิกเฉิดฉาย เด็ดเดี่ยว และ โดดเด่น เดินหน้าแบน 3 สารพิษ อย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม แม้ต้องชนกับเจ้ากระทรวงของตัวเองก็ไม่หวาดหวั่น เดินหน้าตามธงที่ถือไว้ แต่จนแล้วจนรอด การแบนสามสารก็ยังไม่สามารถปฏิบัติได้จริง” 

กว่าจะครบวาระรัฐบาล รัฐมนตรีสายแข็งอย่าง "มนัญญา อาจถูกจับตาว่า จะมีวีรกรรมทำเพื่องาน ให้เป็นที่จดจำอีกหรือไม่