ปิดฉาก! กรมที่ดินเพิกถอนโฉนด 2,111 ไร่ “สมพร-ธนาธร-ชนาพรรณ” รุกป่า

ปิดฉาก! กรมที่ดินเพิกถอนโฉนด 2,111 ไร่ “สมพร-ธนาธร-ชนาพรรณ” รุกป่า

ปิดฉาก! กรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนโฉนด น.ส.3 ก. รวม 59 ฉบับ 2,111 ไร่ “สมพร-ธนาธร-ชนาพรรณ” บุกรุกป่าไม้ถาวร-ป่าสงวนแห่งชาติฝ่างซ้ายแม่น้ำภาชี เหลืออีก 1 แปลง อยู่ระหว่างสอบข้อเท็จจริง

จากกรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบที่ดินกว่า 2,100 ไร่ ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า รวมถึงที่ดินของนายธนาธร และ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาวนายธนาธร กรณีถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ โดยระบุว่าอีก 1-2 วันคาดว่าจะมีการชี้ขาดเรื่องดังกล่าว โดยจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีบางแปลงบุกรุกพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติจริงนั้น

อ่านข่าว: “สมพร-ธนาธร-ชนาพรรณ” มีที่ดินบางแปลงรุกป่า! “นิพนธ์” เผยอีก 1-2 วันได้คำตอบ

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2565 กรมที่ดินเผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนโฉนด น.ส.3 ก. ในพื้นที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 59 ฉบับ เนื้อที่รวม 2,111 ไร่ 1 งาน 69 ตารางวา (ตรว.) ที่ได้ออกเมื่อปี 2521 ตามโครงการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) โดยใช้ระวางรูปถ่ายทางอากาศ มิได้แจ้งการครอบครองที่ดิน

โดยที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตป่าไม้ถาวรป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี” ต่อมาได้ประกาศเป็นเขต “ป่าสงวนแห่งชาติ” เมื่อปี 2527 จึงเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ห้ามดำเนินการในเขตป่าไม้ถาวร และเป็นที่ดินต้องห้ามมิให้ออก น.ส.3 ก. ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2527) ข้อ 3 ซึ่งบังคับใช้อยู่ในขณะนั้น

คณะกรรมการสอบสวนเห็นว่า น.ส.3 ก.ดังกล่าว ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สมควรเพิกถอน น.ส.3 ก. ทั้ง 59 ฉบับ กรมที่ดิน จึงมีคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 747/2565 ลงวันที่ 29 มี.ค. 2565 เพิกถอน น.ส.3 ก. ทั้ง 59 ฉบับ

ปิดฉาก! กรมที่ดินเพิกถอนโฉนด 2,111 ไร่ “สมพร-ธนาธร-ชนาพรรณ” รุกป่า

โดยกรณีนี้สืบเนื่องจากศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศก.พป.) กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบ และส่งเรื่องให้กรมที่ดินพิจารณาเพิกถอน น.ส.3 ก.ดังกล่าว โดยจากการสอบสวนปรากฏว่า มีการตรวจสอบข้อมูล ตำแหน่งพิกัดในพื้นที่จริง และย้ายรูปแปลง น.ส.3 ก.ดังกล่าว จากระวางรูปถ่ายทางอากาศ มาตราส่วน 1:5,000 ลงในระวางรูปถ่ายทางอากาศ มาตรา 1:4,000 ปรากฏว่า น.ส.3 ก.ทั้ง 59 ฉบับ ตำแหน่งที่ดินอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ที่กรมพัฒนาที่ดินได้ขีดเขตป่าลงในระวางแผนที่ และยืนยันแนวเขตที่ได้ขีดไว้แล้วทั้งแปลง อีกทั้งกรมป่าไม้ได้ยืนยันแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ได้ขีดเขตไว้ในระวางแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ดียังมี น.ส.3 ก.อีก 1 ฉบับ บางส่วนได้ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในเขตป่าไม้ถาวรดังกล่าว เรื่องอยู่ระหว่างจังหวัดราชบุรี จัดทำรูปแผนที่กันเขต น.ส.3 ก. (เพิกถอนบางส่วน) ให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงต่อไป

ปิดฉาก! กรมที่ดินเพิกถอนโฉนด 2,111 ไร่ “สมพร-ธนาธร-ชนาพรรณ” รุกป่า

นายนิพนธ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณ๊นี้ว่า เมื่อมีการเพิกถอนหนังสือ น.ส. 3 ก. แล้ว นางสมพร ในฐานะเจ้าของที่ดินก็มีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลปกครองภายในระยะเวลาที่กำหนด

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีการร้องเรียนเข้ามา เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อพบว่าที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนจริงก็ต้องมีการเพิกถอน โดยกรมป่าไม้ และกรมพัฒนาที่ดินยืนยันว่า อยู่ในแนวเขตป่าถาวรจริง ดังนั้น กรมที่ดินต้องมีการเพิกถอนตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้เริ่มต้นจากกรมป่าไม้ ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าโฉนดที่ดิน น.ส.3 ก. กว่า 2,100 ไร่ ในชื่อของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า รวมถึงที่ดินของนายธนาธร และ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาวนายธนาธร บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี”

ต่อมากรมป่าไม้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พบว่า มีโฉนด น.ส.3 ก. อย่างน้อย 60 ฉบับ รวมเนื้อที่ 2,154 ไร่ 3 งาน 82 ตารางวา เข้าข่ายบุกรุกพื้นที่เขตป่าไม้ถาวร และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ต่อมาเมื่อดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกพบว่า มีที่ดินอย่างน้อย 59 ฉบับ รวมเนื้อที่ 2,111 ไร่ 1 งาน 69 ตารางวา บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นเขตป่าไม้ถาวรเดิม ส่วนอีก 1 แปลง ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม

ปัจจุบันกรณีดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 

1.การเพิกถอนโฉนดที่ดิน น.ส.3 ก.ข้างต้น โดยกรมป่าไม้ ส่งเรื่องไปยังกรมที่ดินเพื่อดำเนินการเพิกถอนโฉนด โดยอธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งที่ 747/2565 ลงวันที่ 29 มี.ค. 2565 เพิกถอน น.ส.3 ก. ทั้ง 59 ฉบับไปแล้ว

2.การดำเนินคดีอาญา กรมป่าไม้ส่งสำนวนไปยัง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม เป็นคดีอาญาเลขที่ 4-6/2564 ทว่าเมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2564 พนักงานสอบสวน บก.ปทส. มีความเห็นไปยังอัยการไม่สั่งฟ้องนางสมพร กับพวก ทำให้กรมป่าไม้ทำหนังสือถึงอัยการจังหวัดราชบุรี เห็นแย้งความเห็นพนักงานสอบสวนดังกล่าว โดยขอให้อัยการดำเนินการฟ้องคดีนี้ ปัจจุบันเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการจังหวัดราชบุรี

อย่างไรก็ดี นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังถูกกล่าวหาอีก 1 คดีจากกรมป่าไม้ โดยมีการส่งเรื่องไปยังเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับนางสมพร ในฐานความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีการยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันมีลักษณะเป็นการค้า ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ปปง. พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (15) ในการถือครองที่ดิน น.ส.2 จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 250 ไร่ และ ภ.บ.ท.5 จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 90 ไร่ รวม 8 แปลง เนื้อที่ 440 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ปัจจุบันเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของ ปปง.