คอนเนคชั่น‘แสวง บุญมี’ บารมี‘2บิ๊ก-ขุมการเมือง’

"แสวง บุญมี" เลขาฯกกต.คนใหม่ คอนเนคชันการเมืองไม่ธรรม คนดังจ.ชลบุรี กระซิบ คนใหญ่ตึกไทยคู่ฟ้า ให้ช่วยเชียร์ "พี่ใหญ่ป่ารอยต่อ" ไม่ขัดข้อง "ลูกพี่บุรีรัมย์" ไฟเขียว ชื่อของ "แสวง" จึงเข้าวินแบบนอนมา
การเฟ้นบุคคลเพื่อมาทำหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แทน “พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา” ที่ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไปนั่งเก้าอี้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เมื่อช่วงปลายปี 2564
ล่าสุดเป็นไปตามความคาดหมาย เมื่อที่ประชุมกกต. มีมติเป็นเอกฉันท์ เลือก“แสวง บุญมี” เป็นเลขาธิการสำนักงาน กกต.คนใหม่ หลังพิจารณาความเห็นและรายงานสรุปผลการรับฟังวิสัยทัศน์ผู้สมัครทั้ง2คนคือแสวงและ พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ขั้นตอนหลังจาหนี้ สำนักงาน กกต. จะเสนอประกาศผลการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต.ให้ประธาน กกต.ลงนาม และแจ้งให้ผู้ได้รับการคัดเลือกลาออกจากตำแหน่งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ประกาศผลการคัดเลือก
โดยสำนักงาน กกต.จะได้เสนอสัญญาจ้างและคำสั่งแต่งตั้งให้ กกต.พิจารณาตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ การได้มาซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 ต่อไป
พลิกปูมหลังที่มาที่ไปก่อนกกต.จะมีมติดังกล่าวพบว่าทั้ง “แสวง-ชยพล” ต่างเบียดกันมาแบบคู่คี่สูสี ด้วยคอนเนคชั่นทางการเมืองไม่ธรรมดา
ในส่วนของ “แสวง” ถือว่าไม่ได้ห่างเหินกับคนใหญ่ตึกไทยคู่ฟ้า และอยู่ในโฟกัสของ“พี่ใหญ่” มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดแบบต่อสายหา “2บิ๊ก” ได้ไม่ยาก
ขณะเดียวกัน “แสวง” ก็มีสายสัมพันธ์อันดีกับนักการเมืองหลายพรรค-หลายก๊ก-หลายกลุ่ม ถือได้ว่า ถูกใจนักการเมืองรุ่นใหม่-รุ่นเก่า การประสานงานด้านต่างๆ จึงไร้ปัญหา
ที่สำคัญในฐานะลูกหม้อกกต.“แสวง” จึงรู้งานเป็นอย่างดี จนนักการเมืองคนดังแห่งชลบุรี กระซิบกับ “คนใหญ่ตึกไทยคู่ฟ้า” ช่วยเชียร์อีกแรง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีแรงหนุนจาก “ลูกพี่ใหญ่ค่ายบุรีรัมย์” ที่รู้จักมักคุ้นกันดี ดังนั้นชื่อของ “แสวง” จึงค่อนข้างมาแรงตั้งแต่ต้น
ส่วน “พล.ต.อ.ชยพล” แม้คนในตึกไทยคู่ฟ้า และมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จะไม่ติดขัดอะไร แต่เป็นรองตรงที่แรงเชียร์จาก “ฝั่งการเมือง” ไม่ค่อยมี ทำให้แรงส่งให้ถึงฝั่งฝันยังแผ่วกว่าอีกฝ่าย ฉะนั้นแม้เจ้าตัวจะมั่นใจในคอนเนคชั่นของตัวเอง
แต่กกต.ก็มีมติเอกฉันท์เลือก “แสวง” ขึ้นแท่นเลขากกต.คนใหม่ในท้ายที่สุด
ย้อนดูโปรไฟล์ของเลขาธิการกกต.คนใหม่ พบว่า "เลขาแสวง" ปัจจุปันอายุ58 ปี 4 เดือน ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กกต. จบการศึกษา รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การปกครอง) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) เกียรตินิยมอันดับสอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง , นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
นอกจากนี้ยังนับว่าเป็น“ลูกหม้อ” คนหนึ่งของกตต. เคยดำรงตำแหน่งอาทิ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 3 และอดีตผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 5 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นต้น
สำหรับตำแหน่งเลขาธิการ กกต.มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง แต่ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกันส่วนอัตราเงินเดือน 97,900-150,000 บาท เงินประจำตำแหน่ง 35,000 บาท และเงินเพิ่มพิเศษ 35,000 บาท
ต้องจับตาบทบบาทของ “เลขาธิการกกต.” คนใหม่หลังจากนี้ในการทำหน้าที่สำคัญโดยเฉพาะการสวมหมวกเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยเฉพาะ1ด่านพิสูจน์ฝีมือนั่นคือการจัดการเลือกตั้ง
ท่ามกลาง “เสียงปีกลอง” ที่เวลานี้กำลังส่งสัญญาณถึงการเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้าไม่นานหลังจากนี้