"กมธ.มั่นคง" พบ4ปัญหา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบาด จี้ "กสทช.-ธปท." เร่งแก้ไข

"กมธ.มั่นคง" พบ4ปัญหา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบาด จี้ "กสทช.-ธปท." เร่งแก้ไข

กมธ.มั่นคง เชิญหลายหน่วยงาน เสาะหาต้นตอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนัก พบ 4ปัญหาสำคัญ ทั้งข้อมูลรั่ว-ไม่ทราบต้นทาง-แจ้งความยุ่งยาก-ระงับธุรกรรมไม่ทันท่วงที จี้ "กสทช.-ธปท." แก้ไข

         นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่าคณะกมธ.ฯ ได้พิจารณาเรื่องปัญหาการหลอกลวงทางโทรศัพท์ หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)   โดยพบว่ามีสถิติการรับแจ้งเหตุ เดือน ธันวาคม 2563 ถึงปัจจุบัน มีประมาณ  5,000 คดี มูลค่าความเสียหาย 1,000ล้านบาท  นอกจากนั้นยังพบการหลอกลวง หรือแอบอ้างว่าเป็นสถาบันการเงิน หรือธนาคาร  เดือนกันยายน 2563 ถึง กันยายน 2564 มีผู้ร้องเรียน 1,900 ราย พบว่าประชาชนถูกหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์มากที่สุด และปัจจุบันมีการหลอกลวงทางโทรศัพท์เพิ่มขึ้น

 

          "สำหรับที่มาปัญหาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือ ข้อมูลรั่ว ช่องทางการสื่อสารที่ไม่ทราบต้นทาง นอกจากนั้นการแจ้งความของผู้เสียหาย ที่ไม่สะดวกต้องแจ้งความที่สถานีตำรวจ และ การระงับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือโอนเงินที่ไม่ทันท่วงที ทั้งนี้กมธ.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กสทช., ธปท. เร่งปรับปรุงแก้ไข" นายมนูญ กล่าว

       ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกมธ. กล่าวว่า รูปแบบการก่ออาชญากรรมเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน ไม่ได้ก่อเหตุในประเทศไทย แต่มีการดำเนินการในต่างประเทศ ซึ่งกมธ.เห็นว่า หน่วยงานสำคัญที่ช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็ว คือ ธปท. และธนาคารที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องร่วมกันหาแนวทาง ว่าจะทำอย่างไรที่จะระงับหรือชะลอการโอนเงินได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งปัจจุบันมีความล่าช้าไม่ทันการณ์

 

         "กมธ.มีข้อเสนอแนะด้วยว่าหากต้องการแก้ไขกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาให้นำเสนอแนวทางการปรับปรุงกฎหมายมายังคณะกมธ.ฯ เพื่อจะร่วมผลักดันการแก้ปัญหาไปยังรัฐบาล จะได้ช่วยระงับความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อประชาชน และป้องกันปัญหาในอนาคต" พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว.