"วิโรจน์" ชู นโยบาย สาธารณสุข 3+1 ดูแล คนแก่-ป่วยติดเตียง สู้ศึก "ผู้ว่าฯกทม."

"วิโรจน์" ชู นโยบาย สาธารณสุข 3+1 ดูแล คนแก่-ป่วยติดเตียง สู้ศึก "ผู้ว่าฯกทม."

"วิโรจน์" ควง ว่าที่ผู้สมัครส.ก.ก้าวไกล ลงพื้นที่ ฝั่งธนฯ ติดตาม ปัญหาด้านสาธารณสุข ผู้สูงอายุ ป่วยติดเตียง ชู นโยบาย 3+1 ชี้ ต้องมี care giver คอยดูแล หนุน ดัน วัคซีน ipd ป้องกันปอดอักเสบ เพิ่มศูนย์กายภาพบำบัด เพิ่มงบฯ ออพชั่นพิเศษ telemed

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายสุประวีณ์ น้อยสุขยิ่ง ว่าที่ผู้สมัครส.ก. เขตธนบุรี และนายทรงวุฒิ จันทร์อำนวยโชค ว่าที่ผู้สมัครส.ก. เขตคลองสาน และนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้สูงอายุในชุมชนหิรัญรูจี ชุมชนเก่าแก่ย่านฝั่งธนฯ เพื่อสอบถามพูดคุยและสะท้อนปัญหาด้านสาธารณสุขกับผู้สูงอายุในชุมชนในช่วงการระบาดของโควิด-19 และวิกฤติข้าวของแพง 

ทั้งนี้ เสียงสะท้อนจากชุมชนหิรัญรูจีส่วนใหญ่เป็นประเด็นด้านสาธารณสุข เพราะเป็นชุมชนที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก มีผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ 

โดยนายวิโรจน์ ระบุว่า เราจะต้องมี care giver เพื่อดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งผู้ป่วยติดเตียงส่วนใหญ่มักป่วยหรือมีอาการแทรกซ้อนเป็นโรคปอดอักเสบ นโยบายผู้สูงอายุของผมจะไปให้ไกลกว่าแค่ care giver แต่จะสนับสนุนวัคซีน ipd ป้องกันโรคปอดอักเสบด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องเกิดผู้ป่วยติดเตียงโดยไม่จำเป็น

\"วิโรจน์\" ชู นโยบาย สาธารณสุข 3+1 ดูแล คนแก่-ป่วยติดเตียง สู้ศึก \"ผู้ว่าฯกทม.\"

นโยบายด้านสาธารณสุขของนายวิโรจน์ เป็นชุดนโยบายเรียกสั้นๆ ว่า 3+1 ซึ่งจะประกอบด้วย

(1) การสนับสนุน care giver เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงทั่วกทม.

(2) สนับสนุนวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ (ipd)

(3) สนับสนุนนโยบายเพิ่มศูนย์กายภาพบำบัด เพิ่มงบประมาณปรับปรุง เพิ่มปริมาณอุปกรณ์หายภาพบำบัด 

และสุดท้ายที่เพิ่มขึ้นมาเป็นออพชั่นพิเศษก็คือการแพทย์ทางไกล หรือ telemed เพราะจากการสำรวจ พูดคุยในหลายๆ เขตทั่วกรุงเทพ รวมทั้งชุมชนหิรัญรูจีในวันนี้พบว่า มีผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพัง ต้องการที่จะได้รับการดูแล ต้องการยาหรือต้องการคำแนะนำทางการแพทย์ แต่ไม่สะดวกเดินทางไปยังโรงพยาบาลหรือศูนย์สุขภาพได้ 

"การเพิ่มออพชั่น telemed นอกจากจะช่วยลดปัญหาผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องได้รับคำแนะนำต่างๆจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยังช่วยให้ผู้สูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียว สามารถเข้าถึงโอกาสทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้น" นายวิโรจน์ กล่าว

นอกจากนี้ นายวิโรจน์ ระบุด้วยว่า การใช้งบประมาณสำหรับวัคซีน ipd นั้นน้อยมาก ราว 50 ล้านบาทเท่านั้น แต่ได้ผลลัพธ์ดีมาก เพราะการป้องกันโรคปอดอักเสบในกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุจะช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรค ซึ่งโรคนี้มีจำนวนผู้ป่วยเป็นอันดับ 3 ถ้าลดความรุนแรงของโรคได้ จะช่วยลดปัญหาการดูแลผู้ป่วยในครอบครัวอีกด้วย ส่วนการท็อปอัพสวัสดิการผู้สูงอายุก็ต้องทำควบคู่กันไป เพราะเบี้ยคนแก่ 600 บาทไม่เพียงพอสำหรับการใช้จ่ายด้านต่างๆ กทม. มีงบประมาณสำหรับการจัดสรรตรงนี้ โดยนำเงินมาจากภาษีที่ดินที่จะเก็บเพิ่มได้ 10,000 ล้านบาท มาจ่ายเป็นสวัสดิการ อุดหนุนทั้งผู้สูงอายุ เด็ก คนพิการ ให้มีสวัสดิการที่ดียิ่งขึ้น

\"วิโรจน์\" ชู นโยบาย สาธารณสุข 3+1 ดูแล คนแก่-ป่วยติดเตียง สู้ศึก \"ผู้ว่าฯกทม.\"