"ราเมศ" หนุนปลดล็อคเป็น "สมาชิกพรรค"ไม่เสียเงิน เปิดทางประชาชนมีส่วนร่วม

"ราเมศ" หนุนปลดล็อคเป็น "สมาชิกพรรค"ไม่เสียเงิน เปิดทางประชาชนมีส่วนร่วม

โฆษกปชป.หนุน ปลดล็อคประชาชนเป็น "สมาชิกพรรคการเมือง" โดยไม่เสียเงิน พร้อมย้ำหลักสุจริต -เสรี พร้อมเปืดทางมีส่วนร่วม

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ แก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมือง ได้หยิบยกในประเด็นเงินค่าบำรุงพรรคการเมืองว่า 

หลักการมีส่วนร่วมในทางการเมือง สิทธิขั้นพื้นฐานคือประชาชนสามารถเข้าร่วมดำเนินกิจกรรมกับพรรคการเมืองได้อย่างกว้างขวางและเต็มที่ โดยเฉพาะการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ควรมีจำนวนเงินมาขวางกั้นการเข้าเป็นสมาชิกพรรค

ไม่ว่าประชาชนจะมีฐานะ ร่ำรวยหรือไม่มีฐานะ ก็จะต้องเกิดความเท่าเทียมกันในการเข้ามีส่วนร่วมกับพรรคการเมืองโดยการเป็นสมาชิก เงินจำนวน 100 บาท หรือ 2000 บาทกรณีรายปี อาจจะดูไม่มากสำหรับคนที่มีฐานะ แต่สำหรับชาวบ้านเป็นจำนวนเงินที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าเป็นสมาชิกพรรคอย่างแน่นอน

นายราเมศกล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคก่อนที่จะมีการยกเลิกสมาชิกหากไม่มีการยืนยันสมัยคสช. เคยมีสมาชิกมากที่สุดกว่า 3 ล้านคน

โดยกฎหมายที่ผ่านมามีทั้งเก็บเงินค่าบำรุงและไม่มีการเก็บค่าบำรุง แต่กรณีไม่เก็บเงินค่าบำรุงพรรค ประชาชนจะให้ความสนใจเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด การเข้ามามีส่วนร่วมในหลายเรื่องมีค่ามากกว่าเงิน 100 บาท

เช่น การนำเสนอแนวนโยบาย การช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมและผลงานของพรรค รวมถึงการร่วมในการดำเนินกิจกรรมกับพรรคในรูปแบบอื่นๆมากมาย อาจจะมีการอ้างว่าเพื่อป้องกันการระดมใช้วิธีการฉ้อฉลของพรรคการเมืองที่จะไปนำเอาสำเนาบัตรประชาชนแล้วมาปลอมการสมัคร ในประเด็นนี้คิดว่า ไม่ควรตั้งหลักการฉ้อฉลของพรรคการเมืองบางพรรค มาปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่ควรหาวิธีการป้องกันสิ่งเหล่านี้อย่างรัดกุมและจริงจัง ที่จริงแล้ว กฎหมายพรรคการเมืองในปัจจุบัน

มาตรา 30 ก็ได้กำหนดห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมเพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค และ ในส่วนของประชาชนก็ระบุไว้ใน

มาตรา 31 ไว้ชัดว่าห้ามมิให้ เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด จากพรรคการเมืองหรือจากผู้ใดเพื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก

ฉะนั้นการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองไม่ให้มีการเก็บค่าบำรุงจากประชาชนเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมคือแนวทางที่เหมาะสมที่สุด และในภาคปฎิบัติของนายทะเบียนพรรคการเมือง และพรรคการเมืองก็จะต้องร่วมกันส่งเสริมให้การเข้าเป็นสมาชิกพรรคได้อย่างเสรีและสุจริต เพราะหากจูงใจให้เป็นสมาชิกพรรคด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย อาจจะถูกยุบพรรคและติดคุกได้ตามกฎหมายปัจจุบันอยู่แล้ว เชื่อว่าประเด็นนี้จะมีการถกเถียงกันในชั้นคณะกรรมาธิการอย่างกว้างขวางแน่นอน